วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

คำแนะนำจากผู้จัดการกองทุน : “หากเชื่อมั่นในคณิตศาสตร์ ให้ซื้อทองคำ” รายงานพิเศษ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2556

คำแนะนำจากผู้จัดการกองทุน : “หากเชื่อมั่นในคณิตศาสตร์ ให้ซื้อทองคำ”

รายงานพิเศษ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 27 คน 

เบรนต์ จอห์นสัน ซีอีโอ บริษัท ซินติเอโก แคปิตอล เชื่อว่า ปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐจะทำให้ทองคำดีดตัว 200 ดอลลาร์ในช่วง 2 เดือนข้างหน้า  และเขาไม่แปลกใจเลยที่ราคาทองจะกลับไปอยู่ที่ 1,500 หรือ 1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในปลายปีนี้
                ทองคำไม่ได้แตะระดับ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์มาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ซึ่งในตอนนั้นมันได้ปรับตัวลงมากกว่า 200 ดอลลาร์ในเวลาแค่สองวัน  แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้มีการตกลงซื้อขายทองคำกันที่ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์
                ราคาทองได้ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% โดยทะลุเหนือระดับ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากมีแนวคิดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายเงินหลังจากที่ข้อมูลการอ้างสิทธิ์ของคนตกงานใหม่ในสหรัฐได้สร้างความผิดหวัง จึงทำให้เกิดความสนใจซื้อทองขึ้นมาใหม่
                ราคาทองคำแท่งดีดตัวขึ้นหลังจากที่จำนวนชาวอเมริกันที่ไปขอรับสิทธิประโยชน์ของคนตกงานใหม่ ลดลงน้อยกว่าที่คาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา  นอกจากนี้ แรงซื้อทางเทคนิคก็ทำให้ทองปรับตัวขึ้นหลังจากที่มันทะลุระดับแนวต้านสำคัญซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยของการเคลื่อนไหวในรอบ 50 วัน  ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายคนอ้างว่า มีความสนใจซื้อตราสารล่วงหน้าทองคำสหรัฐสูงสุดในรอบสองเดือนเพราะคาดว่าทองคำแท่งจะดีดตัวขึ้น
                ราคาทองในตลาดสปอตก็ปรับตัวขึ้นเป็น 1,351.61 ดอลลาร์  ซึ่งถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน  ส่วนตราสารทองคำสหรัฐที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคม มีการตกลงซื้อขายในราคาที่สูงขึ้น 1.2% อยู่ที่ 1,350.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
                ทองยังมีความแข็งแกร่งเพราะการอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ และเพราะผลตอบแทนพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐวนเวียนใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสามเดือนหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการขอรับสิทธิประโยชน์ของคนตกงานใหม่ประจำสัปดาห์
                อย่างไรก็ดี จอห์นสันบอกว่า เขาสังเกตเห็นว่า อารมณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ทองคำอยู่ในระดับ “ต่ำมาก”  ตัวอย่างล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม เมื่อเจฟฟรีย์ เคอร์รี่ หัวหน้าฝ่ายวิจัยโภคภัณฑ์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า จะเริ่มมีแรงเทขายทองคำแบบ "slam dunk sell" หลังจากที่การปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐยุติลง และมีการอภิปรายเกี่ยวกับเพดานหนี้
                “บริษัทต่างๆ จากทั่วโลกกำลังบอกว่า “ให้เทขายทองคำ” ซึ่งนั่นคือ  slam dunk sell ดังนั้น ยังมีอารมณ์ที่เป็นลบจำนวนมากอยู่ และมีการเทขายล่วงหน้ามากด้วย” จอห์นสัน กล่าว
                 สำหรับจอห์นสันแล้ว นี่คือข่าวดีอย่างแท้จริง เพราะทองจะดีดตัวเล็กน้อย และทันทีทันใด จากนั้นการขายล่วงหน้าเหล่านั้นจะเริ่มฟื้นตัว นักลงทุนจะเริ่มตระหนักว่า นโยบายคิวอียังคงอยู่ และไม่ได้ไปไหน และสิ่งต่างๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
                “ผมหมายถึงว่า ทองสามารถดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนที่มันอ่อนตัวลง” จอห์นสัน กล่าว
                ตามความเห็นของจอห์นสัน ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า หนี้สินทิ้งให้สหรัฐตกอยู่ในอันตราย และสถานการณ์นี้จะจบลงโดยที่เป็นผลดีต่อทองคำ
             "สโลแกนอย่างไม่เป็นทางการของผมคือ คุณเชื่อมั่นในคณิตศาสตร์ หรือคุณเชื่อมั่นในมหัศจรรย์   แต่บังเอิญว่า ผมเชื่อมั่นในคณิตศาสตร์ และการคาดการณ์ที่ว่า ระดับหนี้ของสหรัฐกำลังเริ่มที่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และแนวทางที่มีการออกแบบระบบนี้ขึ้นมา มันกำลังจะทำให้หนี้เพิ่มขึ้นอีก”
                ทำไมเรื่องนี้จึงมีความหมายต่อทองคำ?
                จอห์นสัน กล่าวว่า มีความสัมพันธ์สูงมากระหว่างฐานเงิน หนี้ของประเทศและทองคำ  และสำหรับภาพในระยะยาว นั่นคือตัวขับเคลื่อนหลักของทองคำ 
             ตามความเห็นของจอห์นสัน  สหรัฐจะต้องสร้างเงินเฟ้อขึ้นอีกเพื่อชำระหนี้ และหากดอลลาร์สูญเสียมูลค่าเพราะเงินเฟ้อ  จะต้องใช้เงินดอลลาร์เหล่านั้นมากขึ้นเพื่อที่จะซื้อทองคำหนึ่งออนซ์  ซึ่งผลที่ตามมาคือจะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้นมาก
                จอห์นสันคิดว่า ทองคำได้ปรับฐานเสร็จแล้ว เป็นส่วนใหญ่ และคาดว่า ราคาทองจะสูงขึ้นอีกมากแม้ว่าจะเข้าสู่ปลายปีและเข้าสู่ปีหน้าแล้ว
                                                ------------------
ภาพประกอบ
p05-1
p05-2
p05-3
p05-4

ตัวโปรย-  “ตามความเห็นของจอห์นสัน ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า หนี้สินทิ้งให้สหรัฐตกอยู่ในอันตราย และสถานการณ์นี้จะจบลงโดยที่เป็นผลดีต่อทองคำ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น