สัมภาษณ์พิเศษความในใจ คีรี กาญจนพาสน์ "10 ปี BTS มีทั้งสุขและทุกข์"


เริ่มต้นอาจไม่สวยนัก เมื่อมังกรฮ่องกง "คีรีกาญจนพาสน์" ประธานบริหารบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี สวมหัวใจสิงห์ควักทุนตัวเองกว่า 5 หมื่นล้านบาท ลุยลงทุนระบบขนส่งมวลชนสายแรกของประเทศไทย "รถไฟฟ้า BTS" 

เพราะเส้นทาง (ธุรกิจ) ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ "คีรี" ต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย กว่าจะฝ่าฟันถึงฝั่งฝันได้ เขาต้องใช้เวลาเกินกว่า 7 ปี และในเดือนธันวาคม 2552 จะเป็นวันประวัติศาสตร์ของ BTS ที่เปิดให้บริการมาครบ 10 ปีเต็มๆ

"คีรี" เปิดใจให้สัมภาษณ์ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า "ผมอยากเรียกความจำนิดหนึ่ง สิ้นปีนี้บีทีเอสจะเดินรถครบ 10 ปีแล้วนะครับ คำพูดที่คนนอกบอกว่า บีทีเอสดูจะเป็นบวกไปหมดถึงวันนี้คงสมเหตุสมผลกับคำชมที่ควรจะได้ที่ผ่านมามีอุปสรรคเยอะเหลือเกิน (ถอนใจ) โดยเฉพาะอุปสรรคด้านการเงินการเมืองรวมแล้ว 7-8 ปี กว่าผมจะหายใจได้"

"วันนี้เป็นยุคขาขึ้นของบีทีเอสจริงๆ ถ้าจะบอกว่าโชคช่วย หรืออะไรก็แล้วแต่บีทีเอสเริ่มสำเร็จแล้ว แต่ผมว่าการทำธุรกิจแบบนี้มันไม่มีฟลุก อยู่ที่วิชั่นและความกล้ามากกว่า" 

"ความสำเร็จของรถไฟฟ้าบีทีเอสคือ มี เดสติเนชั่น (จุดหมายปลายทาง) ชัดเจนแนวเส้นทางต้องเกาะแหล่งช็อปปิ้ง โรงแรม ออฟฟิศ โรงเรียน และศูนย์กลางคนเมืองอย่างสถานีสยามสแควร์ มาบุญครอง เอ็มโพเรียม คุณอยากขึ้น บีทีเอสเพราะคุณมีจุดหมายที่จะไป"

ปัจจุบันยอดผู้โดยสารเติบโตแบบดีวันดีคืน เฉลี่ยปีละ 3-5% มีรายได้ต่อวัน 10 ล้านบาท รวมรายได้เฉลี่ยต่อปี 2,000-3,000 กว่าล้านบาท สามารถแจกโบนัสให้พนักงานได้ปีละ 3 เดือน และเป็นสิ่งที่พวกเขาควรจะได้ พนักงานทุกคนที่นี่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นมาก ทุกคนอยากเซอร์วิสผู้โดยสารให้ดีที่สุด

"ผมเชื่อว่ามาจากตั้งใจจริงและต้องการบริการให้กับสังคม ให้คนได้เดินทางเร็ว สะดวก และปลอดภัย เสียงคอมเพลนจากผู้โดยสารแทบจะไม่มี ผมภูมิใจและมีความสุขกับตรงนี้มาก ผมสัมผัสได้"

กลายเป็นว่าปัญหาในอดีตของบีทีเอสที่เคยทำให้ "คีรี" เกิดอารมณ์ขุ่นมัวบ่อยก็เริ่มจางหายไป เพราะเขาเริ่มมีความสุขกับการทำงานกับคน โดยเฉพาะพนักงานใหม่ที่ต้องเข้าคอร์สอบรมเพื่อผ่านการเทรนเป็นเวลา 2-3 เดือน โดยแจกใบประกาศนียบัตรให้ด้วย ซึ่งหลักสูตรนี้ดูแลแม้กระทั่งการทำผม การพูดจา การปฏิบัติ การต้อนรับ จนทุกคนเข้าใจถึงหน้าที่และจิตบริการของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดูแล้วมันง่ายแต่เด็กคือเด็กต้องค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ บอกให้พวกเขาภูมิใจในสิ่งที่เขาทำ

"10 ปีของผมมีทั้งสุขและทุกข์ แต่ตอนนี้ความสุขเริ่มจะมากกว่าแล้ว" คีรีให้สัมภาษณ์ในเชิงปรัชญามากขึ้นรวมถึงเห็นคุณค่าบุคลากร หลังจากได้สัมผัสใกล้ชิด

คีรีภูมิใจมากที่ได้ฝึกพนักงานใหม่สำเร็จหลายรุ่น โดยใช้เวลาเทรน 2 เดือน ก่อนออกปฏิบัติงานจะเปลี่ยนถ่ายตลอดเวลา การฝึกคนได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่สัดส่วนผู้ชายจะมากกว่าเป็นวุฒิปริญญาตรี ตำแหน่งที่ฝึกมีทั้งคนขับรถไฟฟ้า ผู้ให้บริการตามสถานีขายตั๋ว แม้กระทั่งพนักงาน รปภ. เรายังต้องฝึกเลย

สถานที่ฝึกอบรมอยู่ที่สำนักงานใหญ่หมอชิต ซึ่งวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคมนี้ คีรีจะไปแจกประกาศนียบัตรอีก 100 กว่าคน ซึ่งทุกคน happy ล่าสุดบีทีเอสมีพนักงานร่วม 1,200 คน จะรับเพิ่มอีก 400 คน เพราะต้องทำงานเป็นกะ ต้องใช้คนมากพอสมควร

"จริงๆ แบ็กออฟฟิศมีแค่ 300 คน นอกนั้นอยู่หน้างานหมด แต่อย่ามองแค่สถานีเท่านั้น บีทีเอสยังมีเอ็นจิเนียร์ จำนวนมหาศาลอยู่ในเดโป้หมอชิต (ศูนย์จอดรถ และอู่ซ่อม) ทำทุกอย่างเหมือนเครื่องบินเลย วิ่ง 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน ล้างทำความสะอาดเสร็จ เช็กเครื่องเริ่ม 1 ถึง 100 ต้องตรวจทุกอย่างละเอียด เพราะขบวนหนึ่งมี ผู้โดยสารนั่งมากกว่าจัมโบ้ 747 เพราะเราจุได้ 800 คน แต่เครื่องบินจัมโบ้จุได้ 400 คน (หัวเราะ)

ส่วนประสบการณ์ที่เขาได้รับ "คีรี" บอกว่า อินฟราสตรักเจอร์บิสซิเนส เป็นงานที่ทำยากมาก เป็นงานบริการประชาชน ถ้าราคาขึ้นคนก็ไม่แฮปปี้ แต่ถ้าราคาไม่ขึ้น เราก็อยู่ไม่ได้

"10 ปีมานี้ผมกลับรู้สึกว่ารักบริษัทนี้มากขึ้นๆๆๆ พนักงานทุกคนมีความสามัคคีจริงใจกับงานที่สำคัญ พวกเขารู้สึกภูมิใจกับงานมาก ผมถึงบอกว่า ผมทำงานมาเยอะ งานนี้ภูมิใจที่สุด ความสุขแบบนี้คือ สิ่งที่ได้มาเป็นประสบการณ์ตรงเรื่องคนล้วนๆ"