วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

‘โต้ง’แจงมูดี้ส์ มั่นใจผ่านฉลุย ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556


‘โต้ง’แจงมูดี้ส์
มั่นใจผ่านฉลุย

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556
ผู้เข้าชม : 6 คน

“กิตติรัตน์” แจงข้อมูลมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาทตามแผน หนี้ไม่เกิน 50% ของจีดีพีแน่นอน มั่นใจเศรษฐกิจไทยไม่มีแผ่ว แนะธปท.และธนาคารพาณิชย์ลดดอกเบี้ยกระตุ้นจีดีพี

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวกับตัวแทนมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ที่เข้าพบว่า รัฐบาลจะเดินหน้าลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2 ล้านล้านบาทตามที่ได้วางแผนงานไว้ โดยจะดูแลหนี้สาธารณะไม่ให้เกิน 50% ต่อผลผลิตมวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี และมีเป้าหมายที่จะจัดทำงบสมดุลภายในปี 60 นี้ ขณะที่มูดี้ส์ไม่ได้สอบถามข้อมูลเรื่องใดเป็นพิเศษ
ส่วนเรื่องโครงการรับจำนำข้าวนั้น มีการชี้แจงไปว่า รัฐบาลจะใช้งบประมาณจำนวนหนึ่งเพื่อดูแลเรื่องการบริหารจัดการโครงการดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่ามูดี้ส์จะเข้าใจ
ขณะที่มูดี้ส์แสดงความเป็นห่วงเรื่องหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกรณีนี้ต้องฝากให้ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ดูแลและควบคุมการปล่อยสินเชื่อ เพราะหนี้ที่เกิดขึ้น แม้บางส่วนจะมาจากนโยบายของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถยนต์คันแรก และบ้านหลังแรก แต่ผู้ดูแลหลักคือธนาคารพาณิชย์ ที่ควรแยกการดูแลการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมระหว่างการปล่อยสินเชื่อบ้านและรถยนต์ โดยการปล่อยกู้ภาครัฐส่วนใหญ่เป็นการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ไม่ต้องไปกู้สินเชื่อนอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 20% ต่อเดือน แต่กู้ในโครงการของรัฐดอกเบี้ยเพียง 1% เท่านั้น
โดยเชื่อว่าหากสามารถเดินหน้าโครงการดังกล่าวได้ตามแผนงาน รวมถึงโครงการบริหารจัดการน้ำ และมีการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐตามที่กำหนดไว้ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดี ไม่แผ่วลงอย่างที่มีผู้กังวล และหากเกรงว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์น่าจะช่วยลดดอกเบี้ยเพื่อทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ดี
“การกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง หากกังวลว่าเศรษฐกิจจะแผ่ว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกก็ได้ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องเงินไหลออก เพราะยังน้อยกว่าที่เข้ามา ส่วนมาตรการภาครัฐ คิดว่าถ้างบประมาณโครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทำได้ตามกำหนดเวลา เศรษฐกิจจะไม่แผ่วลงอย่างที่มีความกังวล”
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลเตรียมปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในวันที่ 1 ต.ค.นั้น นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นภาษีดังกล่าวเพื่อเพิ่มรายได้ เพราะกระทรวงการคลังสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมายถึง กว่า 8 หมื่นล้านบาท แต่เรื่องนี้คงต้องดูนโยบายของกระทรวงพลังงานด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น