วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ILINKพุ่งรับ3จีทีวีดิจิตอลเกิด ฟุ้งผลงานQ2สดใสกว่าไตรมาสแรก

ILINKพุ่งรับ3จีทีวีดิจิตอลเกิด ฟุ้งผลงานQ2สดใสกว่าไตรมาสแรก


 ราคาหุ้น  " อินเตอร์ลิงค์ " พุ่งแตะ24บาทก่อนแผ่วลง รับผลดีงานโครงข่ายอื้อหลังเทคโนโลยี 3 จีเกิด แถมทีวีดิจิตอลเริ่มร้อน ผลักให้งานวิ่งเข้าหา   เผยไตรมาส  2 จะเหนือกว่าไตรมาสแรก  เหตุรายได้ธุรกิจวิศวะเข้ามาเพิ่ม  ขณะอีกหลายธุรกิจล้วนเติบโตถ้วนหน้า  ล่าสุด ตั้ง " อินเตอร์ลิงค์ ดาต้าเซ็นเตอร์ " ด้วยงบ  100 ล้านบาท เชื่อเป็นแหล่งสร้างรายได้หนุนผลงานบริษัทเพิ่มอีกทาง   
         
           ราคาหุ้น  บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด  (มหาชน)  หรือ  ILINK   เริ่มปรับตัวแรงเมื่อเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งจะพบว่าขยับไปเทรดเหนือ  20 บาทแล้ว และต้นเดือนเมษายนมีบางวันราคาพุ่งไปเกือบแตะ  24 บาทขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นแผ่วลงมาบ้างแต่ก็ยังยืนเหนือราคา  20 บาทได้ 
      
           นายสมบัติ    อนันตรัมพร    ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่าผลงานไตรมาสแรกที่ผ่านมาก็ดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส  4 ปี 55  ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร   และการที่ราคาหุ้นขยับขึ้่นมาได้ส่วนหนึ่งเพราะผลงานที่ดีต่อเนื่องเสมอมา
       "ไตรมาสแรกนี่ยังไม่ได้รวมรายได้จากธุรกิจวิศกรรมที่ยังไม่ได้รับรู้เข้ามานะครับ เพราะงานวิศวกรรมมาล่าช้าคงช่วงไตรมาส 2 ที่จะรับรู้ได้ และจะทำให้ผลงานไตรมาส  2  เลยไปถึงไตรมาส  3  ออกมาสวยงามพอควร  เพราะงานวิศวกรรมของเราที่บิดอยู่คาดว่าจะรู้ผลในไตมาส 2 นี้ "
      
           โดย ILINK  ได้ยื่นประมูลงานใหม่ที่เป็นงานโครงการใหญ่ ๆ  มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาทและคาดว่าจะได้งานประมาณ  1,100-1,200 ล้านบาท    เพราะจากประสบการณ์ลูกค้ายอมรับผลงานอย่างดีมาตลอด
        นายสมบัติกล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารกสิกรไทยได้ให้วงเงินกู้ให้กับบริษัทเพื่อใช้ในโครงการต่าง ๆ  แต่เป็นลักษณะของการเตรียมการไว้เผื่อจำเป็นต้องใช้เงินทุน  เพราะ ILINK ยังมีกระแสเงินสดเพียงพอและยังได้ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่แถม 20 ล้านหุ้นแถมวอร์แรนต์อีก 1 หน่วย   ซึ่งได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. แล้ว และคาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นครั้งนี้เกินกว่า  400 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการขยายงานปีนี้ เพื่อให้ผลงานของบริษัทเติบโตระดับ 30% จากปี 55  ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,950 ล้านบาท    ซึ่งผลงานที่เติบโตปีนี้จะเห็นชัดเจนมากกว่าปีที่ผ่าน ๆ  มา เพราะทุกสายธุรกิจเติบโตดี
        โดยในส่วนของบริษัทลูก บริษัท อินเตอร์ลิงค์  เทเลคอม จำกัด   ที่เพิ่งจดทะเบียนเมื่อปี 55 ดำเนินธุรกิจให้บริการวงจรสื่อสารผ่านระบบโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงความเร็วสูง (Fiber Optic Network)  ก็ได้รับผลตอบรับดีจากลูกค้า
        " บริษัทลูกแห่งนี้ เราจะมาลุยงานได้มากขึ้น เพราะเราได้ใบอนุญาติมาเราก็สามารถทำได้เต็มที่  และตอนนี้การเปิดประมูล  3 จี  จะเป็นช่องในการหนุนธุรกิจของเราด้วย  ทำให้เรามีช่องทางการทำงานอีกมาก ทั้งในประเทศตลอดจนประเทศเพื่อนบ้าน ที่เราสามารถเชื่อมโครงข่ายถึงกันได้   " นายสมบัติกล่าว
        เพราะสามารถให้บริการและรองรับด้านดาต้าเซ็นเตอร์ ได้ ซึ่งก็ได้เซ็น MOU กับ  บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET  เพื่อจับมือทำธุรกิจศูนย์รับฝากข้อมูลที่ INET ทำอยู่ และสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายมายัง   อินเตอร์ลิงค์  เทเลคอม ได้  หรือการสำรองข้อมูลลูกค้าแห่งที่สอง ที่สารถผ่องถ่ายให้ลูกค้าได้ในกรณีที่หาก  INET  ต้องการนำมาฝากข้อมูลและดึงข้อมูลสต๊อกมาได้     ล่าสุด บริษัทนี้เพิ่งจะเพิ่มทุนอีก 270 ล้านบาท   แบ่งเป็นหุ้นจดทะเบียน 2.7 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท   และจะทำให้จากเดิมที่มีทุนจดทะเบียน30 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่  300 ล้านบาท
       ขณะเดียวกัน  ILINK  ยังตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่คือ บริษัท อินเตอร์ลิงค์ ดาต้าเซ็นเตอร์  จำกัด    ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท  ซึ่งบริษัทนี้จะดำเนินธุรกิจการดูแลข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูงสุด เบื้องต้นต้องใช้งบลงทุนประมาณ  100 ล้านบาท  เพื่อวางระบบให้เข้าที่ และเมื่อสามารถเปิดให้บริการได้ก็จะเป็นอีกแห่งที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทต่อเนื่อง
       " ปีนี้เราจะมีอะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก อย่างงานไฟเบอร์ ออฟติค ที่เราเร่งเพื่อมให้เสร็จเร็ว ๆ และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้ และถึงตอนนั้นรายได้ของเราจะมาจากหลายทางเลย  ถึงตอนนั้นอาจเห็นตัวเลขที่ชัดเจนมากกว่านี้ครับ "
       ขณะที่บริษัท อินเตอร์ลิงค์   พาวเวอร์ แอนด์เอเนอยี่  จำกัด เน้นการทำงานด้านเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงและเคเบิ้ลไฟฟ้าแรงสูงใต้น้ำ   ซึ่งบริษัทลูกล้วนได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างมาก หลังจากเปิดประมูล  3  จี  อีกทั้งทีวีดิจิตอลก็จะเริ่มขึ้น  เพราะการส่งสัญญาณต่าง ๆ ต้องอาศัยเคเบิ้ล  ซึ่งผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจนี้ถือเป็นโอกาสในการรับงานใหม่เพิ่ม   ที่สำคัญธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเฉพาะด้านที่มีคู่แข่งน้อยรายมาก   การเติบโตของILINK ปีนี้จึงจะเห็นได้อย่างชัดเจน  และปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทบุกงานในประเทศแถบอาเซียนอย่างหนัก เพื่อให้ครอบคลุม เพราะธุรกิจสายส่งหรือเคเบิ้ลต่าง ๆ สามารถส่งถึงกันได้หมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น