วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เชียร์ซื้อพลังงาน-ปิโตรฯ ได้เวลาวิ่งกระฉูดยกแผง โยกซื้อหุ้นเครือปตท.-CLSA ทุบแบงก์ยกแผง

เชียร์ซื้อพลังงาน-ปิโตรฯ
ได้เวลาวิ่งกระฉูดยกแผง
โยกซื้อหุ้นเครือปตท.-CLSA ทุบแบงก์ยกแผง

ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 08 กรกฎาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 10 คน 

เจพี มอร์แกน เชียร์หุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ยกหุ้นกลุ่มปตท.เป็นหลัก อาทิ PTT, PTTEP และ PTTGC หลังราคาหุ้นนิ่งอยู่นาน 2 ปีไม่ขยับไปไหน ปัจจุบันราคาหุ้นยังอยู่สูงกว่าช่วงที่ดัชนี 1,000 จุดไม่มากนัก  ส่วน CLSA ปรับลดเป้าหมายหุ้นกลุ่มธนาคารยกแผง เฉลี่ยปรับลงประมาณ 12-15% จากเป้าหมายเดิม แนะขาย TISCO อย่างแรง

                นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เจ.พี.มอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด หรือ JPM ปรับน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีขึ้นเป็น Overweight โดยเชื่อว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ Underperform ตลาดมาตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะกลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกครั้ง
                “รอบนี้ เจ พีมอร์แกน ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ฝรั่งกลับมาสนใจ และให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานกับปิโตรเคมี ซึ่งถือว่าน่าสนใจ เพราะช่วงที่ผ่านมาหุ้นเหล่านี้ปรับตัวช้ากว่าตลาดมาก หรือจะถือว่าไม่ได้ขึ้นเลยเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว” นักวิเคราะห์ กล่าว  
                หากเทียบดัชนีตลาดหุ้นที่ระดับ 1,000 จุด เมื่อต้นปี 2555 ราคาหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT อยู่ที่ 320 บาท ต่อมาช่วงต้นปี 2556 ดัชนีอยู่ที่ 1,420 จุด หุ้น PTT อยู่ที่ 330 บาท ปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นอยู่ที่ 1,441 จุด ราคาหุ้น PTT อยู่ที่ 348 บาท
                สำหรับหุ้นบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ต้นปี 2555 ราคาอยู่ที่ 180 บาท ต่อมาช่วงต้นปี 2556 ราคาอยู่ที่ 170 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ 162 บาท
                ทั้งนี้ หุ้นที่น่าสนใจและแนะนำโดยฝ่ายวิเคราะห์ของบล. เจ.พี.มอร์แกน ที่เป็น Top pick คือหุ้น PTT, PTTEP และ PTTGC
                ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด ปรับลดเป้าหมายหุ้นกลุ่มธนาคารลงเฉลี่ยประมาณ 12-15% จากเป้าหมายเดิม เพื่อสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2556 โดยผลจากการทบทวนเป้าหมาย ได้เป้าหมายใหม่ อาทิ หุ้น BAY ราคาเป้าหมาย 37 บาท, หุ้น BBL ราคาเป้าหมาย 225 บาท, หุ้น SCB ราคาเป้าหมาย 190 บาท, หุ้น KBANK ราคาเป้าหมาย 210 บาท
                หุ้น KTB ราคาเป้าหมาย 25 บาท, หุ้น TCAP ราคาเป้าหมาย 35 บาท, หุ้น TISCO ราคาเป้าหมาย 44 บาท และหุ้น TMB ราคาเป้าหมาย 2.50 บาท โดยให้หุ้น KTB เป็น Top pick แนะนำซื้อ ส่วนหุ้น BBL, SCB และ KBANK ให้คำแนะนำ Outperform ขณะที่หุ้น TCAP  ให้คำแนะนำ Underperform  กับ TISCO แนะขาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น