วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

เงินอ่อน-บ.เอเชียต้องชำระหนี้ต่างชาติเพิ่มขึ้น ต่างประเทศ วันอังคารที่ 03 กันยายน 2556

เงินอ่อน-บ.เอเชียต้องชำระหนี้ต่างชาติเพิ่มขึ้น

ต่างประเทศ วันอังคารที่ 03 กันยายน 2556 
ผู้เข้าชม : 6 คน 

วอลล์สตรีท เจอร์นัล - บริษัททั่วเอเชียกำลังเผชิญกับปัญหาในการชำระหนี้เมื่อสกุลเงินในท้องถิ่นอ่อนตัวลง โดยทำให้บริษัทมีต้นทุนมากขึ้นที่จะชำระเงินกู้ต่างชาติ  สถานการณ์เช่นนี้กำลังเพิ่มความตึงเครียดให้กับเศรษฐกิจในภูมิภาค

                บริษัทในเอเชียได้กู้เงินต่างชาติเป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐได้คงอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำไว้ และพิมพ์เงินออกมา สำหรับบริษัทในประเทศอย่างอินเดีย และอินโดนีเซีย ดอกเบี้ยสำหรับหนี้ที่อยู่ในรูปดอลลาร์สหรัฐ  น่าสนใจกว่าต้นทุนในการกู้ยืมในท้องถิ่น  แต่การไหลออกของเงินทุนจากตลาดเกิดใหม่ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะยุติมาตรการกระตุ้นพิเศษ ได้เปลี่ยนแปลงดุลยภาพนั้น
                กองทุนต่างชาติกำลังถอนเงินออกจากพันธบัตรและสินทรัพย์อื่นๆ ในเอเชียท่ามกลางการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐจะสูงขึ้น ซึ่งทำให้สกุลเงินในเอเชียอ่อนตัวลงอย่างรุนแรงและเพิ่มต้นทุนในการชำระหนี้ที่อยู่ในรูปดอลลาร์สหรัฐ 
                สถานการณ์ในอินเดียน่าตกใจเป็นพิเศษ  ข้อมูลจากบริษัทคริซิล ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับของอินเดียในเครือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์  ระบุว่า บริษัทอินเดียมีหนี้ต่างชาติที่ไม่มีการบริหารความเสี่ยงรวมกัน 100,000 ล้านดอลลาร์  และการอ่อนตัวเกือบ 19% ของเงินรูปีนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ได้ทำให้ต้นทุนในการชำระหนี้เหล่านั้นในรูปสกุลเงินท้องถิ่นเพิ่มขึ้น
                ตัวอย่างเช่นบริษัท รีไลออนซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมใหญ่สุดของอินเดีย มีหนี้ต่างชาติที่ไม่ได้บริหารความเสี่ยงไว้ 3,830 ล้านดอลลาร์ โดยต้องชำระในปีนี้ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์
                ผู้บริหารคนหนึ่งของรีไลแอนซ์ กล่าวว่า บริษัทกู้เงินในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงอัตราดอกเบี้ย 12% ในอินเดีย และไม่ได้บริหารความเสี่ยงไว้เพราะจะมีราคาแพงมากเกินไป อย่างไรก็ดี รีไลแอนซ์มีรายได้ในต่างประเทศเพียงพอที่จะชำระหนี้
                บริษัทในอินโดนีเซียก็คาดว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน  เช่น บริษัท พีที อินโดแซท มีหนี้ต่างชาติเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์  บริษัทกู้เงินเพื่อมาซื้ออุปกรณ์ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐต่ำกว่าในอินโดนีเซีย
                เมื่อกองทุนต่างชาติเทเงินเข้ามายังหุ้นและพันธบัตรอินโดนีเซีย ทำให้เงินรูเปียแข็งค่าขึ้น เงินกู้เหล่านั้นจึงดูเหมือนว่าจะเป็นการเดิมพันที่ดี  แต่ในปีนี้เงินรูเปียได้ปรับตัวลงเกือบ 12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนหนี้จึงเพิ่มขึ้น โดยมีเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่มีการบริหารความเสี่ยง
                สเตฟาน คาร์ลส์สัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอินโดแซท กล่าวว่า ปัจจัยเรื่องค่าเงินเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง อินโดแซทอาจจะบันทึกขาดทุนที่เกี่ยวกับค่าเงินแต่จะสามารถชำระเงินกู้ได้
                มีผู้สังเกตการณ์ไม่กี่คนที่คาดว่าจะเกิดวิกฤติการเงินเอเชียเหมือนปี 2540-41 เมื่อบริษัทและธนาคารทั่วภูมิภาคล้มลงเพราะไม่สามารถชำระหนี้ต่างชาติได้ท่ามกลางวิกฤติค่าเงิน   ในขณะนี้หนี้ของบริษัทในเอเชียเป็นหนี้ในสกุลเงินท้องถิ่นมากกว่าในเวลานั้น  โดยเอชเอสบีซี ประเมินว่า หนี้ภายนอกทั้งหนี้ของรัฐและของเอกชนของอินโดนีเซียมีสัดส่วน 45% ของจีดีพีในปี 2555  ซึ่งต่ำกว่า 90% ก่อนเกิดวิกฤติการเงินเอเชีย นอกจากนี้ ธนาคารกลางในเอเชียก็มีทุนสำรองต่างชาติมากขึ้นมาก ซึ่งสามารถใช้ปกป้องค่าเงินได้
                อย่างไรก็ดี  มีสัญญาณความเครียดที่น่าวิตก  หลายประเทศในเอเชียกำลังขาดดุลบัญชีเดินสะพัด  เงินทุนที่ไหลเข้าไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร และเงินกู้ทำให้เกิดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด  เมื่อทุนต่างชาติไหลกลับไปยังเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ประเทศที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากอย่างอินเดียและอินโดนีเซียกำลังถูกนักลงทุนลงโทษ
                เอชเอสบีซี กล่าวว่า ทุนสำรองต่างประเทศของหลายชาติในเอเชียไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและขนาดของหนี้ภายนอกระยะสั้น   โดยอัตราส่วนนี้ ได้ถดถอยลงอย่างรุนแรงสำหรับหลายประเทศ
                สกุลเงินของประเทศในเอเชียที่ได้ดุลบัญชีเดินสะพัดหรือขาดดุลน้อยกว่า ไม่ได้รับผลกระทบมาก แต่เงินริงกิตมาเลเซียได้รับแรงกดดันมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง  ต้นทุนในการกู้เงินที่สูงขึ้นได้ส่งผลกระทบบริษัทมาเลเซียที่กำลังจะขยายกิจการผิดเวลา
                ตัน เคย์ เยน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท กรีน แพ็กเกจ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตมาเลเซีย กล่าวว่า บริษัทกู้เงิน 5 ปี เป็นเงิน 51 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้วเพื่อขยายเครือข่ายข้อมูล 4 จี   การอ่อนค่าของเงินริงกิตเพิ่มต้นทุนในการกู้ยืมประมาณ 5% ซึ่งทำให้บริษัทขาดทุนสุทธิในช่วงไตรมาสสองมากขึ้น

2 ความคิดเห็น:

  1. วันดี,

    ฉันเป็นผู้ให้กู้เงินส่วนตัวที่ลงทะเบียน เราจะให้ออกเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท ที่ให้ความช่วยเหลือคนที่จำเป็นต้องปรับปรุงฐานะทางการเงินของพวกเขาทั่วทุกมุมโลกที่มีน้อยมากอัตราดอกเบี้ยปีที่ต่ำเป็น 3% ภายในปีถึง 30 ปีในช่วงระยะเวลาการชำระหนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโลกใด ๆ เราจะให้ออกเงินให้สินเชื่ออยู่ในช่วงของ€ 5000 ถึง 100,000,000 € เงินให้สินเชื่อของเราเป็นผู้ประกันตนดีเพื่อความปลอดภัยสูงสุดเป็นลำดับความสำคัญของเรา ผู้สนใจควรติดต่อเราผ่านทางอีเมล: (calvinkingloanmanagementfirms@gmail.com)

    เสนอสินเชื่อที่

    ตอบลบ
  2. วันดี,

    ฉันเป็นผู้ให้กู้เงินส่วนตัวที่ลงทะเบียน เราจะให้ออกเงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท ที่ให้ความช่วยเหลือคนที่จำเป็นต้องปรับปรุงฐานะทางการเงินของพวกเขาทั่วทุกมุมโลกที่มีน้อยมากอัตราดอกเบี้ยปีที่ต่ำเป็น 3% ภายในปีถึง 30 ปีในช่วงระยะเวลาการชำระหนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโลกใด ๆ เราจะให้ออกเงินให้สินเชื่ออยู่ในช่วงของ€ 5000 ถึง 100,000,000 € เงินให้สินเชื่อของเราเป็นผู้ประกันตนดีเพื่อความปลอดภัยสูงสุดเป็นลำดับความสำคัญของเรา ผู้สนใจควรติดต่อเราผ่านทางอีเมล: (calvinkingloanmanagementfirms@gmail.com)

    เสนอสินเชื่อที่

    ตอบลบ