"ประชา"ทิ้งเอ็นพาร์คหนียึดทรัพย์ คดีฮั้วประมูล-ลดสัดส่วนจากหุ้นใหญ่เหลือ4.94%


"เอ็น-พาร์ค" ฝ่ากระแสข่าวผู้ถือหุ้นหลัก "ประชา มาลีนนท์" ถูกศาลสั่งจำคุกคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิง ชี้เป็นเรื่องส่วนตัวไม่กระทบความเชื่อมั่นลูกค้า เดินหน้าเปิด 2 โครงการใหม่ คอนโดฯใกล้ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ และบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ราคา 50-100 ล้านย่านบางกระเจ้า จับตา ปปง.ศึกษาช่องทางกฎหมายยึดทรัพย์ ขณะที่ทรัพย์สินเอ็น-พาร์คมีทั้งโรงแรม อพาร์ตเมนต์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และที่ดินรอพัฒนา

แหล่งข่าวจากบริษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ "เอ็น-พาร์ค" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" กรณีนายประชา มาลีนนท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักของเอ็น-พาร์ค ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิง กทม.ให้จำคุก 12 ปี และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่ระหว่างศึกษาช่องทางกฎหมายยึดทรัพย์ว่า ถือเป็นเรื่องส่วนตัวและไม่น่ากระทบความเชื่อมั่นลูกค้าที่ซื้อโครงการของเอ็น-พาร์ค

ทั้งนี้ วันที่ 31 สิงหาคม-1 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดพรีเซลโครงการใหม่ในรอบหลายปี คือ "พาร์ค รามอินทรา" เป็นคอนโดฯ 8 ชั้น 1 อาคาร 212 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 90% คาดว่าจะปิดการขายได้ภายใน 1 เดือนนี้ โดยยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีลูกค้าขอคืนห้อง ส่วนความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นวันแรกที่มีข่าวมีผลกระทบบ้าง

แต่ขณะนี้ไม่มีปัญหาแล้ว โดยเอ็น-พาร์คยังเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อเนื่อง จะเปิดโครงการใหม่อีกอย่างน้อย 2 โครงการ และมีกระแสเงินสดสำหรับพัฒนาโครงการและใช้ลงทุน 2 พันล้านบาท

โครงการต่อไป ภายในไตรมาส 4 เป็นคอนโดฯที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ใกล้ตลาดโรงเกลือ บนที่ดินเฟสแรก 20 ไร่ ราคาประมาณ 1 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. 500 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท จากทั้งหมด 80 ไร่ พัฒนาได้ประมาณ 2,000 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท

ส่วนไตรมาสแรกปี 2557 จะเปิดตัวบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ บนที่ดิน 200 ไร่ จากทั้งหมด 300 ไร่ ย่านบางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ ในจำนวนนี้ 100 ไร่ เป็นทะเลสาบและพื้นที่ส่วนกลาง ที่เหลือพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว ที่ดินเริ่มต้น 2 ไร่ ราคาเริ่มต้นหลังละ 50-100 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท ส่วนความเชื่อมั่นของสถาบันการเงินในการปล่อยกู้สินเชื่อโครงการ (พรีไฟแนนซ์) เชื่อว่ายังดีอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายประชา มาลีนนท์ ได้ซื้อหุ้นของ บมจ.แนเชอรัลพาร์ค ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารบริษัท เมื่อ 7 ธ.ค. 2555 ที่อนุมัติจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เหลือ 53,936,699,412 หุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัดในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.029 บาท ประกอบด้วย 1) นายประชา มาลีนนท์ 29,500 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 24.5% ของทุนจดทะเบียนที่จะเรียกชำระ 2) นายศานติ ประนิช 12,000 ล้านหุ้น หรือ 9.96% และนายฟิลิปวีระ บุนนาค 12,000 ล้านหุ้น หรือ 9.96%

อย่างไรก็ตาม วันที่ 9 เม.ย. 2556 บมจ.แนเชอรัลพาร์ค ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า Morgan Stanley & Co International PLC ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 23,550 ล้านหุ้น หรือ 19.56% นายศานติ ประนิช 12,000 ล้านหุ้น หรือ 9.96% และนายฟิลิปวีระ บุนนาค 12,000 ล้านหุ้น หรือ 9.96% ส่วนนายประชา มาลีนนท์ ลดเหลือ 5.95 พันล้านหุ้น หรือ 4.94%

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์