วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

KTBยิ้มรับพรบ.2ล้านล. ‘โต้ง’การันตีโหวตผ่าน ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556

KTBยิ้มรับพรบ.2ล้านล.
‘โต้ง’การันตีโหวตผ่าน

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 
ผู้เข้าชม : 5 คน 

ธนาคารกรุงไทยดี๊ด้ารอพ.ร.บ. 2 ล้านล้านผ่านสภาฯ รับเละสินเชื่อโครงการภาครัฐ ชี้กำไรทั้งปีทะลุ 2.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoY ให้ราคาเป้าหมาย 30 บาทต่อหุ้น ด้าน “กิตติรัตน์”มั่นใจโหวตวาระ 2 ผ่าน ยึดกรอบวินัยทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด
                          แหล่งข่าวระดับสูง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า หากร่างพ.ร.บ. เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทออกมาเรียบร้อยก็จะส่งผลดีต่อธนาคาร โดยมีลูกค้าที่เป็นผู้รับเหมาอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากผู้ประมูลเป็นลูกค้าของธนาคารก็จะส่งผลให้สินเชื่อรายใหญ่ และเอสเอ็มอีของธนาคารมีการเติบโตที่ดี แต่จะเริ่มเบิกใช้จ่ายในปีหน้า เนื่องจากปีนี้คงไม่ทันในการเดินหน้าโครงการต่างๆ
                         “อยากให้เกิดนานแล้ว เพราะส่งผลดีในระยะยาวกับประเทศ ซึ่งที่จริง KTB ก็ไม่ได้เป็นเพียงแบงก์เดียว ผู้รับเหมา หรือรัฐบาลคงใช้หลายราย เพียงแต่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเท่านั้นเอง” แหล่งข่าว กล่าว
                         อย่างไรก็ตาม ปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโตสินเชื่อ 1.5 เท่าของจีดีพีที่คาดว่าปีนี้จะเติบโต 5% จากครึ่งปีแรกสินเชื่อของธนาคารเติบโตได้ค่อนข้างดี และ เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะยังมีการเติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดยธนาคารยังเชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้
                        เนื่องจากจะมีการลงทุนของภาครัฐทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่ถึงแม้โครงการภาครัฐอาจจะล่าช้ากว่ากำหนดก็ยังได้รับแรงหนุนจากการลงทุนของต่างชาติที่มองเห็นศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
                       นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า KTB ได้ประโยชน์ 2 ด้าน อย่างแรกในฐานะปล่อยสินเชื่อให้กับภาครัฐโดยตรง สุดท้าย คือ ปล่อยสินเชื่อให้กับคู่สัญญารัฐ โดยต้องไปดูขั้นตอนการกู้เงินว่าจะใช้วิธีใด และระยะเวลาในการกู้ ซึ่งในส่วนโครงการรัฐมีส่วนแบ่งเงินฝากออกไปจากระบบ โดยทำให้ต้นทุนสูงขึ้น เนื่องจากมีความต้องการใช้เงินลงทุนที่สูง
                      “ต้องดูว่าลูกค้าเยอะไหมในมือ อย่างล่าสุดก็ปล่อยกู้ UNIQ ไป 6 พันล้านบาทในการสั่งซื้อวัสดุเหล็กทุกประเภทจาก บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ POC ยังไม่รวมบริษัทใหญ่ๆ ที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอีก” นายธนเดช กล่าว
                      บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" KTB โดยให้ราคาเหมาะสม 30 บาท ซึ่งคาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการกลับเข้าซื้อของต่างชาติในลักษณะ Short Covering ตาม Sentiment การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียที่เริ่มดีขึ้น โดยเชื่อว่า KTB จะเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์สูงสุด และมี Valuation ที่ค่อนข้างต่ำ
                     นอกจากนี้ ผลประกอบการครึ่งปีหลังมีทิศทางขยายตัวได้ดี โดยไตรมาส 3 นี้จะมีการบันทึกเงินปันผลจากกองทุนวายุภักษ์ 700 ล้านบาท และไตรมาส 4 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษ 3,000-3,500 ล้านบาท ซึ่งมาจากส่วนต่างกำไรจากการขาย (Capital Gain) ของกองทุนวายุภักษ์ที่คาดว่ารัฐบาลจะมีการไถ่ถอนกองทุนให้กับผู้ถือหน่วย
                     บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังแนะนำ "ซื้อลงทุน" หุ้น KTB โดยประเมินราคาหุ้นลงมารับข่าวความล่าช้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าในที่สุดแล้วไทยก็ต้องลงทุนในโครงการขั้นพื้นฐานอยู่ดีไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดบริหารประเทศก็ตาม
                     ในขณะเดียวกัน KTB มีความได้เปรียบเรื่องฐานเงินฝากที่แข็งแกร่งจากข้าราชการ และ พนักงานรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศ โดยมีการปรับกลยุทธ์หันมาเน้นรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลดีในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
                     นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ในสัปดาห์นี้ ว่า ตนมีความมั่นใจว่ากฎหมายฉบับนี้จะสามารถผ่านความเห็นชอบของสภาฯในการพิจารณาอีก 2 วาระที่เหลือได้
                    ทั้งนี้ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทได้ยึดกรอบในการรักษาวินัยทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วว่าการกู้เงินในจำนวนนี้จะไม่ทำให้หนี้สาธารณะของประเทศสูงเกิน 50% ของจีดีพี ซึ่งต่ำกว่ากรอบหนี้สาธารณะที่เป็นกรอบวินัยทางการเงินการคลังอยู่ที่ 60% ของจีดีพี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น