วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ลุ้นดัชนีหุ้นไทยตีกลับ รอบนี้พุ่งแตะ1,450จุด UBS เชียร์ BTS – PTTGC เด่นสุดกลุ่ม ปตท. ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556

ลุ้นดัชนีหุ้นไทยตีกลับ
รอบนี้พุ่งแตะ1,450จุด
UBS เชียร์ BTS – PTTGC เด่นสุดกลุ่ม ปตท.

ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 10 กันยายน 2556 
ผู้เข้าชม : 12 คน 

วันนี้จับตาดัชนีตลาดหุ้นไทยดีดกลับมาที่ 1,400 จุด หลังวานนี้ปรับขึ้นแรง 48.06 จุด มาที่ 1,384.31 จุด นักวิเคราะห์มองกรอบขึ้นรอบนี้ 1,425-1,450 จุด  ด้าน UBS ชอบ BTS หลังอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีตั้งแต่ปี 57-59 อยู่ที่ 14% การันตีปันผลที่จะเพิ่มขึ้นจากดิวิเดนด์ยีลด์เริ่มต้น 6.8% สูงสุด 9.1% จากนี้ไปอีก 3 ปี พร้อมปรับ PTTGC เป็นหุ้นดาวเด่นของเครือปตท. เป้าหมาย 95 บาท ด้านหุ้นกลุ่มแบงก์เชียร์ SCB, BBL และ KBANK เด่น กระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ดัชนีหุ้นไทยทะลุแนวต้านที่ 1,300 จุดวานนี้ (9 ก.ย. 56) ส่งผลให้แนวโน้มดัชนีมีโอกาสแตะระดับเกิน 1,400 จุดมีความเป็นไปได้สูง โดยกรอบดัชนีอยู่ที่ 1,425-1,450 จุด
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโอกาสที่ดัชนีแตะเกิน 1,400 จุดนั้นมีค่อนข้างมาก แต่การปรับขึ้นของดัชนีจะเป็นไปในลักษณะแกว่งตัว เนื่องจาก มีแรงขายทำกำไรของนักลงทุนอยู่ ส่งผลให้การปรับขึ้นของดัชนีจึงเป็นในลักษณะแกว่งตัวแต่เกิน 1,400 จุดได้แน่นอน โดยเฉพาะหากดัชนีสามารถผ่านแนวต้านที่ 1,425 จุด โอกาสที่ดัชนีจะขึ้นก็มีมากเช่นกัน
ด้านนักลงทุนที่ยังติดหุ้นอยู่ แนะว่าหากดัชนีปรับตัวขึ้นไปแนวต้านที่กำหนด พยายามลดพอร์ตลงทุนแล้วหันมาถือเงินสดมากขึ้น ส่วนนักลงทุนที่เล่นสั้นเพื่อเก็งกำไร ได้แนะนำให้เข้าลงทุนก่อนหน้าตั้งแต่ดัชนีที่ 1,300 จุดแล้ว ดังนั้น นักลงทุนเล่นสั้นจึงไม่เหมาะเข้าลงทุนช่วงนี้
“สัปดาห์นี้ดัชนีได้ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,370-1,380 จุดไปแล้ว ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นดัชนีที่ 1,400 จุดมีความเป็นไปได้สูง  ส่วนสาเหตุที่ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นมา เนื่องจากสหรัฐเปิดเผยการจ้างงานนอกภาคการเกษตรต่ำกว่าคาด ทำให้เป็นปัจจัยบวกว่าการถอน QE ของเฟดน่าจะเกิดในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ตลาดดูไม่ให้ความสำคัญมากนักต่อประเด็นซีเรีย ทำให้หุ้นโลก โดยเฉพาะเอเชียมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง” นายกวี กล่าว
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า บทวิเคราะห์บล.ยูบีเอส (ประเทศไทย) ได้ประมาณการพื้นฐานของหุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โดยคาดว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 14% ในปี 2557-2559 ประกอบกับบริษัทได้ยืนยันการปันผลจากนี้ไปอีก 3 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายปันผลในปี 2557อยู่ที่ 6.8% ปี2558 อยู่ที่ 8% และปี 2559 อยู่ที่ 9.1%
                “ทางบล.ยูบีเอส ได้เพิ่มหุ้น BTS เป็นหุ้นที่ชอบที่สุด (Most Preferred) ของฝ่ายวิเคราะห์ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 9.50 บาท  และได้ถอดหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ออก และนำหุ้นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือPTTGC เข้ามาแทนที่เป้าหมายอยู่ที่ 95 บาท” นักวิเคราะห์ กล่าว
                นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่ชอบมากที่สุดอีก อาทิ หุ้นบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ราคาเป้าหมาย 72.3 บาท
 หุ้นบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด  (มหาชน) หรือ LH ราคาเป้าหมาย 14 บาท  หุ้นบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ราคาเป้าหมาย 180 บาท  หุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ราคาเป้าหมาย 32.50 บาท
                สำหรับหุ้นที่ชอบน้อยที่สุด (Least Preferred)   คือ หุ้นบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด  (มหาชน) หรือ TISCO ราคาเป้าหมาย 43.50 บาท และหุ้นธนาคารทหารไทย จำกัด  (มหาชน) หรือ TMB ราคาเป้าหมาย 2.45 บาท
                อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังคงแนะนำซื้อหุ้นธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป้าหมายอยู่ที่ 170 บาท และหุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 185 บาท ทั้งนี้ได้มีการอัพเกรดราคาพื้นฐานของทั้งสองธนาคารเป็นซื้อ
                “การปรับราคาเป้าหมายใหม่ ตอนนี้ยังอยู่ภายใต้ความกังวลเกี่ยวกับข้อกำหนดที่สูงขึ้น และการเจริญเติบโตช้าลง ส่วนประเด็นเรื่อง 2 ล้านล้านบาท จะมีทิศทางในเชิงบวกในไตรมาส 4/2556 ที่จะช่วยให้พื้นฐานมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, หุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และหุ้นธนาคารกสิกรไทย (KBANK )
                ทั้งนี้จากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รอบนี้ไหลเข้าเป็นวันที่ 7 โดยตัวเลขที่เข้าซื้อในตลาดหุ้นสุทธิ มีดังนี้ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ต่างชาติซื้อสุทธิ 5.4 แสนล้านวอน หรือประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ, ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 372 ล้านเหรียญสหรัฐ
                 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น