อ่วม!4เดือนแรกกองทุนทอง-น้ำมันหัวทิ่ม


4 เดือนแรก"กองทุนโภคภัณฑ์"ซบเซา "กองทุนน้ำมัน"ผลตอบแทนติดลบ 1.93% "กองทุนทองคำ"ติดลบเฉลี่ย 12.55% แนะเก็งกำไรระยะสั้นกองน้ำมัน

จากการสำรวจผลการดำเนินงานของกองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วง 4 เดือนแรกของปี56 พบว่า “กองทุนน้ำมัน” ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ 1.93% โดยกองทุนที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทน 1.20% และกองทุนที่มีผลงานแย่สุดมีผลตอบแทนติดลบ 5.39% หรือต่างกันอยู่ 6.59% โดยกองทุนน้ำมันที่มีผลงานดีสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ1 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ออยล์ ฟันด์ (I-OIL) ของบลจ.เอ็มเอฟซี ให้ผลตอบแทน 1.20% อันดับ2. กองทุนเปิดเค ออยล์ (K-OIL) ของบลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทน 0.87% และอันดับ 3 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ออยล์ (SCBOIL) ของบลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทน 0.48%

ส่วน "กองทุนทองคำ" ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ 12.55% โดยกองทุนที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนติดลบ 8.76% และกองทุนที่มีผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทนติดลบ 15.63% หรือต่างกันอยู่ 6.87% โดยกองทุนทองคำที่มีผลงานดีสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล โกลด์ สปอท 7 ซีรี่ส์ 3 (I-GOLD7S3) ของบลจ.เอ็มเอฟซี ให้ผลตอบแทนติดลบ 8.76% อันดับ 2.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล โกลด์ ฟันด์ (I-GOLD) ของบลจ.เอ็มเอฟซี ให้ผลตอบแทนติดลบ 10.33% และ อันดับ 3.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล โกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (I-GOLDRMF) ของบลจ.เอ็มเอฟซี ให้ผลตอบแทนติดลบ 10.36%

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล นักวิเคราะห์กองทุนรวม บมจ.หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงปีนี้ก็ยังควเป็นปีที่ไม่ดีนักสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะในช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาทองคำแกว่งตัวลงอย่างรุนแรงหลังหลุดแนวรับสำคัญ 1,520 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก่อนร่วงลงไปเกือบแตะระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในระยะสั้นคาดว่าการปรับตัวยังไม่จบราคาทองคำยังมีสิทธิแกว่งตัวในแนวโน้มที่เป็นขาลงได้อยู่ จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรในระยะสั้นเช่นกัน โดยมองระยะสั้นยังมีความผันผวนในแนวโน้มที่เป็นขาลงอยู่

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวอย่างเปราะบาง, ปัญหาหนี้ของประเทศพัฒนาแล้ว และแนวโน้มเงินเฟ้อจากการใช้มาตรการกระตุ้นเชิงปริมาณจึงแนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในกองทุนทองคำไว้ในพอร์ตไว้ตามเดิมประมาณ 10 - 15% เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมองแนวต้านที่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวรับที่ 1,300 - 1,250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ส่วนราคาน้ำมันแกว่งตัวในกรอบแคบลงระหว่าง 96 - 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ปัจจัยเศรษฐกิจไม่สนับสนุนราคาน้ำมัน แนะนำหลีกเลี่ยงจะดีกว่าสำหรับกองทุนน้ำมัน มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบ สำหรับการเก็งกำไรผ่านกองทุนรวมน้ำมันมองว่ายังไม่ใช่จังหวะที่ดีนัก ในช่วงปีที่ผ่านมาต่อเนื่องปีนี้การลงทุนในหุ้นดูจะเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วโลกสนใจมากกว่า จึงมีการโยกเงินจากสินค้าโภคภัณฑ์บางส่วนกลับเข้าไปลงทุนในหุ้นช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์