วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บลูมเบิร์กประเมินCK พี/อีลดฮวบ7.98เท่า


บลูมเบิร์กประเมินCK
พี/อีลดฮวบ7.98เท่า

ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 7 คน 

"บลูมเบิร์ก" คำนวณ P/E ของ CK ลดฮวบเหลือ 7.98 เท่า จากเดิม 77 เท่า หลัง CK แจ้งงบ Q1 กำไร 5,070 ล้านบาท โตกระฉูด 4,583% บุ๊คพิเศษขาย TTW 3,822 ล้านบาท ลุ้น Q2 เด้งต่อจ่อบุ๊คขาย BMCL อีก 2,000 ล้านบาท

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานข่าวบลูมเบิร์ก คำนวณอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ของ CK ลดลงมาอยู่ที่ 7.98 เท่า จากเดิมอยู่ที่ 77.77 เท่า หลังจากที่บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/56 มีกำไรสุทธิ 5,070 ล้านบาท เติบโต 4,583% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ คำนวณ ณ ราคาปิดวานนี้ (16 พ.ค. 56) ที่ 26.75 บาท 
                นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/56 มีกำไรสุทธิ 5,070 ล้านบาท เติบโต 4,583% ทำให้อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ลดลงเหลือต่ำกว่า 10 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 77.77 เท่า
                ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/56 ของ CK จะโดดเด่นต่อ เนื่องจากในไตรมาส 1/56 ยังได้ขายหุ้น BMCL คาดจะมีการบันทึกกำไรเป็นเงินสดหลังภาษีประมาณ 800 ล้านบาท และการเปลี่ยนวิธีบัญชีอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท ทำให้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/56 จะยังโดดเด่นต่อ 
ขณะที่ปัจจุบัน CK มีงานในมือมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ณ สิ้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีอยู่ประมาณ 20 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 165,924 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ถึง 5-6 ปี  และในปี 2556-2557 มีโครงการขนาดใหญ่จำนวนมากที่รัฐบาลจะเปิดให้มีการประมูลรวมแล้วเท่ากับ 839,092 ล้านบาท แต่เมื่อคำนึงถึงความล่าช้าของโครงการ CK ประเมินจะได้งานในปีนี้เพิ่มขึ้น 30,000-40,000 ล้านบาท 
ทั้งนี้ ปัจจัยต่างๆ ในครึ่งปีแรกนี้ยังหนุน คือ 1.กำไรไตรมาส 1/56 และไตรมาส 2/56 จะสูงและโดดเด่น รวมถึงภาระหนี้ต่อทุนที่ลดลงเหลือเพียง 1-1.2 เท่า จากรายการพิเศษขาย TTW และ BMCL  2.โครงการ Mega Infrastructure Project อยู่ในช่วง Super Cycle  3.งานในมือสูงถึง 1.65 แสนล้านบาท รองรับยอดรายได้ถึง 5-6 ปี 
และ 4.บริษัทร่วมลงทุนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ คือ BECL, BMCL, TTW และ CK Power จะเติบโตโดดเด่น  และมีการขยายการลงทุน หนุน CK ได้งานรับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้น  ดังนั้น คงคำแนะนำ "ซื้อ" ในลักษณะเก็งกำไร ประเมินราคาเป้าหมาย 32 บาท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/56 บริษัทมีกำไรสุทธิ 5,070.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,583.90% จากไตรมาส 1/55  ที่มีกำไรสุทธิ 108.24 ล้านบาท  เนื่องจากได้จำหน่ายเงินลงทุนในบมจ.น้ำประปาไทย (TTW) รับรู้กำไรประมาณ 2,203.2 ล้านบาท
โดยผลจากการจำหน่ายเงินลงทุน ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน TTW ลดลง บริษัทจึงจัดประเภทเงินลงทุนใหม่ จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย และบริษัทเปลี่ยนวิธีแสดงมูลค่าเงินลงทุนจากวิธีส่วนได้เสียเป็นแสดงตามมูลค่ายุติธรรม บริษัทจึงบันทึกกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัทร่วม ณ วันเปลี่ยนสถานะเป็นจำนวนเงินประมาณ 3,821.6 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวสัญญาที่ 1 งานโยธา ช่วงแบริ่ง–สมุทรปราการ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสัญญาที่ 2 งานออกแบบและควบคู่การก่อสร้างเส้นทางใต้ดิน ช่วงสนามไชย-ท่าพระ รวมทั้งสัญญาที่ 5 งานออกแบบควบคู่การก่อสร้าง ระบบรถไฟฟ้าของทั้งโครงการ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น