วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

KTCเป้าใหม่52บาท


KTCเป้าใหม่52บาท

ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 5 คน 

KTC ฟอร์มหรู โบรกเกอร์ปรับเป้ากำไรและราคาเป้าหมายเป็น 52 บาท หลังกำไรไตรมาส 1/56 เติบโตสูง แนะนำ “ทยอยซื้อ”เชื่อปีนี้กำไรทะลุ 973 ล้านบาท

นายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล นักวิเคราะห์ลงทุนด้านหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิด เผยว่า จากบริษัท บัตรเครดิตกรุงไทยจำกัด (มหาชน) หรือ KTC รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/56 มีกำไรสุทธิ 422 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นถึง 372% และสูงกว่าคาดมากเนื่องจากมีกำไรจากการขายเงินลงทุน โดยกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 201 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/55 ที่มีผลขาดทุน 155 ล้านบาทและเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/55 ที่กำไรสุทธิ192 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5%
อย่างไรก็ตามรายการพิเศษที่เกิดขึ้นไตรมาส 1/56 ทำให้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2556 ของ KTC ขึ้น 49% เป็น 973 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 282% จากปีก่อนหน้า และทำให้ผลประกอบการปี 2556 เป็นปีที่ KTC  มีผลประกอบ การสูงสุดเท่าที่เคยมีมาและกำไรต่อหุ้น 3.78 บาท
โดยฝ่ายวิจัย ได้ปรับประมาณการเงินปันผลขึ้นเป็น 1.20 บาท และผลตอบแทนปันผล 2.6%จากเดิมคาดไว้ 1.05 บาทหุ้น ฝ่ายใช้กำไรต่อหุ้น 2.95 บาท/หุ้น เป็นกำไรต่อหุ้นที่ไม่รวมรายการพิเศษ การประเมินราคาพื้นฐาน โดยเทียบกับ P/E 18 เท่าเหมือนเดิมทำให้ราคาพื้นฐานของ KTC อยู่ที่ 52 บาท เทียบราคาพื้นฐานใหม่กับราคาปัจจุบันมีอัพไซด์ 13% แนะนำทยอยซื้อ
สำหรับไตรมาสที่ผ่านมา รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มสูงขึ้นจากยอดค่าใช้จ่ายของลูกค้าที่สูงขึ้น เนื่องจากการออกรายการส่งเสริมการขายหลายรายการ แต่รายได้ดอกเบี้ยลดต่ำลงจากสินเชื่อที่หดตัว นอกจากนี้ KTC มีการตั้งสำรองสูงถึง 1.2 พันล้านบาทถึงแม้ต่ำกว่าไตรมาส 1/55 ที่มีการตั้ง 1,300 ล้านบาท แต่สูงกว่าไตรมาส 4/55 ที่มีการตั้ง 780 ล้านบาทมาก โดยจากการที่ KTC มีผลประกอบการไตรมาสนี้ดีขึ้น เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่าย KTC มีค่าใช้จ่ายในไตรมาสนี้เพียง 1.3 พันล้านบาท โดยลดลงถึง 24% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 8% จากปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ KTC มีปริมาณ NPL เพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนเป็น 1.9 พันล้านบาท จากที่มีอยู่ 1.8 พันล้านบาท และผลจากสินเชื่อที่ลดลง ทำให้สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มสูงขึ้นเป็น 4% จาก 3.8% ไตรมาสก่อน แต่ KTC ได้ให้ข้อมูลว่า NPL ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนรอบบัญชีให้กับลูกค้า และ คาดว่า NPL น่าจะปรับลดลงได้ไตรมาส 2/56 แต่ NPL เพิ่มสูงขึ้น   นี้ ทำให้ KTC มีการตั้งสำรองเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.2 พันล้านบาทและสูงกว่าไตรมาส 4/55 ที่มีการตั้ง 780 ล้านบาท แต่การตั้งสำรองในไตรมาสนี้ส่งผลให้สัดส่วนสำรองต่อ NPL ของ KTC เพิ่มสูงขึ้นด้วยเป็น 211% จาก 195% ในไตรมาสก่อน ทำให้ฝ่ายคาดว่ามีความเป็นไปได้ช่วงที่เหลือปี KTC จะมีการลดระดับการตั้งสำรองลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น