เทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้


ในศตวรรษที่ 20 ได้มีค้นพบการเกิดใหม่ของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์มากมาย ที่ได้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลกนี้ แต่ศตวรรษที่ 21 จะเป็นอีกก้าวหนึ่ง ที่เทคโนโลยีจะพัฒนาไปอีกขั้น สร้างตลาดใหม่ หรือ ทำลายสินค้าเก่า จึงเป็นโอกาสอันดีที่ผู้คนจะได้เข้าไปลงทุน

ในทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็น iTunes เปลี่ยนแปลงวงการเพลง ได้เห็น Smartphone เช่น Blackberry และ iPhone รวมไปถึง Social media เปลี่ยนแปลง การติดต่อสื่อสารของมนุษย์ แล้วต่อไปจะเป็นอะไร? นี่คือเหล่าเทคโนโลยี ที่อาจทำอยางนั้นได้



เครื่องปริ้นท์ 3 มิติ (3-D Printing)



เครื่องปริ้นท์ 3 มิติ ที่สร้างวัตถุจากการใส่ข้อมูลการผลิตลงไป กำลังมาแรง เครื่องปริ้นท์ที่เมื่อก่อนราคา 9 แสนบาท ตอนนี้ราคาเพียง 9 หมื่นบาท และมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงการผลิตในโรงงานทั่วโลก

ตลาดของเครื่องปริ้นท์ 3-D มีมูลค่า 1.7 พันล้านเหรียญ ในปี 2011 และอาจจะเพิ่มไปเป็น 6.5 พันล้านเหรียญ ในปี 2019


บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ (E-Cigarettes)



สูบบุหรี่โดยไม่มีควัน? ในปัจจุบันสามารถทำได้แล้ว โดยสินค้าที่ใช้แบตเตอรี่นี้ ดึงความสนใจของผู้ติดบุหรี่เป็นอย่างมาก อุตสาหกรรมบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ กำลังเติบโตมาก ยอดขายเพิ่มจาก 400 ล้านเหรียญ เป็น 500 ล้านเหรียญ ในปี 2012 และจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในปีนี้ ในอนาคตไม่เกิน 10 ปี ผู้สูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ จะมากกว่าผู้สูบบุหรี่แบบปกติ


จ่ายเงินผ่านมือถือ (Mobile Payments)



การจ่ายเงินผ่านมือถือ รวมไปถึงการมีกระเป๋าสตางค์ออนไลน์ โดยยอดการใช้จ่ายใน iPhone หรือ Tablet ในปี 2016 คาดการณ์ว่าจะสูงถึง 1 ล้านล้านเหรียญ นอกจากนี้ยังทำให้อุปกรณ์สื่อสารระยะใกล้ ที่ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไว้ใช้เชื่อมต่อกับมือถือสำหรับการจ่ายเงิน


การขุดเจาะพลังงาน ด้วยวิธี Fracking



Fracking คือ การอัดแรงดันน้ำ หรือ ทราย ลงไปในหลุมน้ำมันด้วยแรงสูง ผลคือ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ติดอยู่ลึกๆ ที่สมัยก่อนสกัดออกมาไม่ได้ ก็จะหลุดออกมา ส่งผลให้บ่อน้ำมันที่เคยนึกว่า ไม่มีน้ำมันแล้ว จริงๆแล้ว ยังมีน้ำมันหลงเหลืออยู่ ทำให้ได้แหล่งพลังงานเพิ่มมาอีกมากมาย มูลค่าตลาดของเครื่องมือดังกล่าว อาจสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญต่อปี


หันมาใช้ก๊าซฯ แทน น้ำมัน



หลายประเทศ ต้องการให้เศรษฐกิจยั่งยืน ลดการพึ่งพาน้ำมัน และลดมลพิษ นอกจากนี้ ปัญหาในการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมัน จากอิหร่าน ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

จำนวนยานพาหนะ ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ เพิ่มขึ้นจาก 50,000 คันในปี 2005 เป็น 2.9 ล้านคัน ในปี 2011 (ในอเมริกา) และในอีก 5 ปี 80% ของรถบรรทุกหรือขนส่ง จะใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิง


บริการ Streaming ทางทีวี 



ผู้ผลิต Hardware ชื่อ Roku ได้ขายกล่องบริการทีวี ที่รวม Streaming Content ต่างๆ เช่น Netflix, Hulu, Amazon และ YouTube มีบริการหนังหรือวิดีโอ ตามความต้องการของลูกค้าโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนช่องหาโปรแกรมที่ตน่าสนใจ เหมือทีวีแบบเก่า

ในการรายงานผลประกอบการล่าสุด บริษัทอย่าง Netflix ชี้ว่าตนมีลูกค้าเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯกว่า 2 ล้านราย และต่างชาติอีก 1 ล้านราย รวมแล้วมีลูกค้ากว่า 36 ล้านรายทั่วโลกที่ใช้บริการ Streaming นอกจากนี้ ธุรกิจทีวีแบบเก่านั้น ถดถอยอย่างมากในช่วง 12 เดือนหลัง


บริการ Cloud Computing



ลูกค้าสามารถใช้คอมพิวเตอร์ตัวเอง เชื่อมต่อกับบริการ Software จากศุนย์ข้อมูลออนไลน์ เช่น Google Apps เป็นต้น ตลาด cloud software ในปี 2011 มีรายได้อยู่ที่ 2.2 หมื่ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2010 และคาดว่าในปี 2016 รายได้จะพุ่งไปเป็น 6.7 หมื่นล้านเหรียญ หรือการเติบโต 24% ต่อปี จะเข้ามาแทนที่สินค้า software แบบเก่า


Software กำหนด Networking



Software-defined networking (SDN) คือการที่โปรแกรมต่างๆ หรือ software เป็นตัวกำหนดระบบสื่อสารเชื่อมต่อ มากกว่าที่จะเป็นตัวอุปกรณ์หรือ hardware เช่น Google และ Facebook โดยธุรกิจนี้ คาดว่าจะเติบโตจาก 360 ล้านเหรียญ ไปเป็น 3.7 พันล้านเหรียญ ในปี 2016


พลังงานแสงอาทิตย์



พลังงานแสงอาทิตย์ มีการแข่งขันไปแล้วในหลายประเทศทั่วโลก การพัฒนาเทคโนโลยีในด้านนี้ จะยิ่งทำให้ แสงอาทิตย์แย่งพื้นที่ตลาดพลังงานมากขึ้น ตามรายงาน จะมีการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 1.3 ล้านล้านเหรียญ ระหว่างปี 2012-2035 คิดเป็น 13% ของการลงทุนในพลังงานของโลก


ยาส่วนบุคคล



กาศึกษาเกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์ เริ่มสร้างปรากฎการณ์ต่อวงการแพทย์ การเกิดของยาส่วนบุคคล ทำให้การรักษาผู้ป่วยได้ดีขึ้น ธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตสูงมาก นอกจากนี้ ต้นทุนก็เป็นสิ่งสำคัญ ราคาของการจัดทำข้อมูลพันธุกรรมมนุษย์ เมื่อปี 2001 อยู่ที่ 100 ล้านเหรียญ ตอนนี้เหลือเพียง 1 หมื่นเหรียญ เท่านั้น


ที่มา: C