วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คลังอนุมัติมิตซูเทคBAY ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2556


คลังอนุมัติมิตซูเทคBAY

ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 41 คน 

“กิตติรัตน์” ลงนามอนุมัติกลุ่มมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ถือหุ้น BAY เกิน 49% เตรียมทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ราคา 39 บาท เดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ โบรกฯมองส่งผลบวกต่อธนาคารกรุงศรีในระยะกลางถึงยาว สินเชื่อเพิ่ม 20% สินทรัพย์เพิ่ม กำไรเพิ่มขึ้นอยู่ระดับ 18% และ ROE เพิ่มขึ้น 1%

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอนุมัติการขออนุญาตเข้าถือหุ้นใน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ของกลุ่มมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) จากญี่ปุ่นแล้ว
โดยเมื่อเดือนที่แล้ว The Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ หรือ BTMU ในกลุ่ม MUFG ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ระบุว่า จะเข้าซื้อหุ้น BAY ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับ 5 ของไทย จำนวน 75% ในวงเงิน 5.61 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.74 แสนล้านบาท กลุ่ม MUFG ยังระบุว่า จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) หุ้น BAY ในราคาหุ้นละ 39 บาท
ข้อตกลงนี้จะเสร็จสิ้นได้ ต้องทำตามเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งรวมถึงการได้รับอนุมัติ หรือผ่อนผันจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง สำหรับการเข้าซื้อกิจการ และการขยายสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างด้าวของธนาคาร
ก่อนหน้านั้น ธปท.ระบุว่า ตามหลักกฎหมาย BTMU จะต้องยื่นขออนุญาต  3 เรื่องหลัก คือ ขอถือหุ้นเกิน 10% ใน BAY และขอให้ BAY มีสัดส่วนถือหุ้น โดยต่างชาติเกิน 49% รวมทั้งต้องขอผ่อนผันระยะเวลาในการผนวกการดำเนินงานในไทยของ BTMU กับ BAY
“การเข้ามาซื้อหุ้นของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจฯ ถือเป็นบริษัทต่างชาติรายที่ 5 ที่ต่างชาติเข้าถือครองหุ้นธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย เกินกว่า 49% จากก่อนหน้านี้ 4 บริษัท ประกอบด้วย ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด, ธนาคาร ยูโอบี, ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารไอซีบีซี ไทย”
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองว่ากรณีที่กลุ่มมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (MUFG) ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ประกาศทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนใหญ่ 75% ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ว่า จะส่งผลบวกต่อธนาคารกรุงศรีในระยะกลางถึงยาว เนื่องจาก MUFG ถือว่ามีความแข็งแกร่งในหลายด้าน และจะช่วยเสริมให้ BAY มีความแข็งแกร่งมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เชื่อว่า MUFG ไม่น่าจะทำคำเสนอซื้อทั้ง 75% ตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่น่าจะทำคำเสนอซื้อประมาณ 30-50% เท่านั้น เพื่อให้ขึ้นแท่นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด
อย่างไรก็ตาม การทำคำเสนอซื้อดังกล่าวจะเริ่มในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. ซึ่งคงไม่ส่งผลต่อผลประกอบการของ BAY ในปีนี้ แต่ในส่วนของปี 2557 เชื่อว่าจะส่งผลให้สินเชื่อของ BAY เพิ่มขึ้นอยู่ระดับ 20% สินทรัพย์เพิ่มขึ้นอยู่ระดับ 23-25% กำไรเพิ่มขึ้นอยู่ระดับ 18% และ ROE เพิ่มขึ้น 1% ขณะที่ทิศทางการบริหาร คาดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนการบริหารในปีหน้า หลังจากทำคำเสนอซื้อแล้วเสร็จ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น