วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ซีเรียเป็นแค่ปัญหาล่าสุดของตลาด ต่างประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2556


ซีเรียเป็นแค่ปัญหาล่าสุดของตลาด

ต่างประเทศ วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2556
ผู้เข้าชม : 7 คน

ปัญหาในซีเรียเป็นเพียงอีกปัญหาหนึ่งที่เพิ่มเข้าไปในรายงานปัญหาที่ตลาดหุ้นได้เผชิญเมื่อฤดูร้อนในซีกโลกเหนือเริ่มหมดไปและได้เข้าสู่เดือนกันยายน
โดยรวมแล้ว มันอยู่ที่ว่า ตลาดหุ้นได้เปลี่ยนจากวาล์วเปิดรับความเสี่ยงอย่างเต็มที่ไปสู่ภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลที่แม้แต่นักวิเคราะห์ฝ่ายกระทิงก็ยังกระสับกระส่าย
เกร็ก จอห์นสัน นักกลยุทธ์ตลาดเทคนิค ของบริษัทไพเพอร์ แจฟฟรีย์ กล่าวว่า น้ำเสียงในหมู่นักลงทุนได้เปลี่ยนไปมีความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อพวกเขาประเมินภูมิสถาปัตย์ในการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี  โดยเขายังคงเห็นว่า ความซบเซาในตลาดเมื่อเร็วๆ นี้เป็นการปรับฐานที่มีความจำเป็นทั้งในแง่ของเวลาและราคาที่อยู่ในช่วงขาขึ้น
เนื่องจากมีปัจจัยลบในตลาดมาก จอห์นสันแนะนำให้นักลงทุนคัดสรรหุ้น โดยมองว่าหุ้นการผลิตในภาคอุตสาหกรรม   หุ้นที่เป็นไปตามวงจรผู้บริโภคและหุ้นการเงินเป็นหุ้นที่น่าเล่นที่สุด เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าตลาดขนาดเล็กและขนาดกลาง
ความจริงแล้ว โทนตลาดในระยะยาวยังไม่มีความเสียหายทางเทคนิคที่รุนแรงแต่อย่างใดที่จะมีผลต่อตลาดหุ้นโดยเฉลี่ย บริษัท แจฟฟรีย์จึงยังคงตั้งเป้าดัชนีเอสแอนด์พีในช่วงปลายปี ไว้ที่ 1,850 จุด  ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา 13% แม้ยอมรับว่าน่าจะมีการถอยกลับบ้าง
จอห์นสัน กล่าวว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ตลาดพบกับความซบเซาในระยะใกล้  แต่ยังคงมองว่านี่เป็นการปรับฐานที่แข็งแรงภายในตลาดกระทิงที่มีความมั่นคงดีแล้ว และตั้งข้อสังเกตว่า การปรับฐานหลายๆ ครั้งในปีนี้เป็นการปรับฐานด้านเวลาเป็นหลักแทนที่จะเป็นการปรับฐานด้านราคา ดังนั้น ความซบเซาในขณะนี้อาจจะต่อเนื่องไปจนถึงระยะกลาง 
ในกรณีที่เป็นเช่นนั้น นักลงทุนควรจะระวังและตื่นตัวเข้าไป
ควินซี โครบี หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของพรูเดนเชียล แอนนิวอิตีส์  กล่าวว่า  นักลงทุนต้องวางกลยุทธ์ในการออกจากตลาดให้ครบถ้วน 
ความขัดแย้งในซีเรียน่าจะยั่วยุให้มีการโจมตีทางทหารโดยมีสหรัฐเป็นแกนนำ และนักลงทุนกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้ยอมพ่ายแพ้ต่อการดีดตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ลงมา 4% และผู้เชี่ยวชาญในตลาดกำลังเตรียมรับกับการชะลอตัวลงที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจเปลี่ยนจากการถดถอยตามปกติไปเป็นการปรับฐานที่รุนแรงขึ้นจนอาจต่อเนื่องไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง 
แอนดรูว์ วิลคินสัน หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของมิลเลอร์ ทาเบค กล่าวว่า แนวโน้มที่จะมีการแทรกแซงจากสหรัฐอย่างเป็นทางการต่อซีเรียหลังจากที่สงสัยว่ารัฐบาลของอัสซาดใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชน กำลังน็อกราคาหุ้นทั่วอเมริกาเหนือและตะวันออกกลาง
ในขณะที่ซีเรียมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ต่อสหรัฐอย่างจำกัด แต่ความวุ่นวายในภูมิภาคมักจะสะท้อนไปทั่วตลาดการเงินต่างๆ
ราคาน้ำมันได้มีความผันผวนมาร่วมเดือนและพุ่งขึ้นนับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน  การเล่นทองคำเพื่อความปลอดภัยไม่มีใครสามารถควบคุมได้ต่อไป โดยราคาทองอยู่ในแดนตลาดภาวะกระทิง ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรได้อ่อนตัวลง
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในซีเรียทำให้เกิดความซับซ้อนวุ่นวาย   แม้ว่าแรงเทขายเมื่อเร็วๆ นี้ดูเหมือนว่าเป็นไปอย่างสงบและมีแรงขับเคลื่อนจากการไม่มีผู้ซื้อมากกว่าที่จะเกิดความแตกตื่นของผู้ขาย แต่นั่นก็จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หากการรับประกันของทำเนียบขาวที่จะสร้างความขัดแย้งอย่างจำกัด ไม่สามารถทำได้
ครอสบี กล่าวว่า ในขณะนี้มีการประกาศให้สาธารณชนรับรู้ว่าเป็นการโจมตีแบบผ่าตัด โดยเป็นแบบเข้าๆ ออกๆ  สามารถป้องกันไม่ให้ลุกลามได้   ถ้าตลาดกำลังซื้อเพราะเหตุผลนี้ เราก็จะไม่เห็นตลาดล้ม
อย่างไรก็ดี อันตรายอยู่ตรงที่ว่า หากความขัดแย้งยืดเยื้อและเริ่มทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น
ครอสบี กล่าวว่า ยิ่งความขัดแย้งนานเท่าไหร่ ก็คาดการณ์ได้ว่าจะมีผลกระทบต่อผู้บริโภคสหรัฐ หากราคาน้ำมันตามปั๊มเพิ่มขึ้นมากอย่างรวดเร็ว การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะลดลง และปัญหานี้ไม่เคยเป็นปัญหาเดี่ยวๆ ได้เลย
ราคาน้ำมันในปี 2556 ได้เป็นลมใต้หางให้กับการใช้จ่ายของผู้บริโภคเนื่องจากราคาต่อแกลลอนลดลงจากช่วงเดียวกันเมื่อปี 2555 ถึง  22 เซนต์   แม้ว่าจะลดลงจากราคาเฉลี่ยแค่ประมาณ 8% 
คาร์ล ริคคาโดนา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของดอยช์ แบงก์ กล่าวว่า  การปรับตัวลงของราคาน้ำมันทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐประหยัดเงินได้ 8,000 ล้านดอลลาร์  ความเสี่ยงจึงอยู่ที่ว่า การดีดตัวขึ้นพอประมาณในครั้งนี้ อาจกลายเป็นตัวฉุดที่รุนแรงได้อย่างรวดเร็วหากราคาน้ำมันพุ่งรุนแรง
มีการจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากตลาดเจอกับการคุกคามหลายอย่างอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเลิกกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ การชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัย และเศรษฐกิจกำลังโอนเอน
“ตลาดถอยถอยลงมากเท่าไหร่ มันจะเริ่มแข็งแรงขึ้นมากเท่านั้น นักลงทุนกำลังรู้สึกสบายใจมากขึ้นที่มันไม่ได้เป็นตลาดที่มีธนาคารกลางคอยค้ำจุนโดยสิ้นเชิง  ตลาดสามารถถดถอยลงและรอปัจจัยพื้นฐานได้มากเท่าไหร่ ลูกค้าก็จะรู้สึกสบายใจมากขึ้นเท่านั้นเพราะหลายๆ ตลาดกำลังมีพฤติกรรมในแนวทางที่มันควรจะเป็น” ครอสบี กล่าว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น