วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อย่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2556

อย่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ

คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 5 คน 

บ้านนี้เมืองนี้มืดมนสิ้นหวังจริงๆ หนอ กระทั่งสื่อระดับโลกอย่างนิวยอร์คไทม์ส ยังโดนทักษิณซื้อไปแล้ว (ฮา)

จาก “เราเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา” กลายเป็นประชาธิปไตยไม่ได้มีแค่ในสภา ว่าแล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็เดินสายจับมือม็อบ หน้าเก่าๆ เดิมๆ ที่ตีโป่งว่ามีตั้ง 1 โหลกลุ่ม ประกาศจะรวมคนเป็นแสนไล่รัฐบาล แต่ขณะเดียวกันก็คาดการณ์ว่ารัฐบาลจะยุบสภา ให้เลือกตั้งใหม่ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

เอ๊ะ เอาไงแน่ คาดว่ารัฐบาลจะยุบสภา แทนที่จะเตรียมตัวหาเสียง กลับระดมม็อบมาล้มรัฐบาล แปลว่าไม่เชื่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลตามวิถีทางประชาธิปไตย แปลว่านิวยอร์คไทม์สเข้าใจไม่ผิด

เลือกตั้งทีไรก็แพ้ แต่ ปชป.โทษซื้อเสียง ประชานิยม ชาวบ้านจน โง่ ไม่มีศีลธรรม

ปชป.ไม่เคยชะโงกดูตัวเองในกะโหลกกะลา ว่าเพราะเล่นการเมืองแบบนี้ จึงหนีห่างผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง น่าเสียดายที่ ปชป.ผูกขาดคะแนนคนใต้ และคนเกลียดทักษิณ ทำตัวยังไงก็เลือก ปิดโอกาสที่จะมีพรรคทางเลือกใหม่ เพราะรัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้ดีเด่อะไร ปัญหากำลังผุดขึ้นมาพะเรอเกวียน ถ้ายุบสภาจริง ก็คือยุบหนีปัญหาปากท้องและราคาข้าว ถ้าเป็นการเมืองในสถานการณ์ปกติ ไม่แน่นะ เพื่อไทยอาจจะแพ้

แต่เล่นการเมืองแบบ ปชป.กลับทำให้เพื่อไทยเข้มแข็ง เพราะบังคับให้คนเลือกว่าจะเอาประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง หรือจะเอาแมลงสาบ

ซึ่งก็มีคำตอบแล้วจากเอแบคโพลล์ล่าสุด 82% เชื่อมั่นระบอบประชาธิปไตย และ 73% ยังให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อ

ปชป.หาเสียงกับคนเกลียดทักษิณ เกลียดเสื้อแดง เพื่อไทยก็หาเสียงกับคนเกลียดมาร์ค เทือก เกลียด ปชป.แต่เพื่อไทยได้เปรียบ เพราะอิงระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ ปชป.กลับไปปกป้องอำนาจลากตั้ง

การเมือง Dead Lock อย่างนี้ Dead เสียจนปิดโอกาสของพรรคทางเลือกที่ 3 ที่ 4 กระทั่งความคิดปฏิรูป ปชป.หรือ Primary Vote ในเพื่อไทย ก็เกิดไม่ได้

ในความขัดแย้งเช่นนี้ คนที่น่าสงสารคือชาวบ้าน ผู้เดือดร้อนกลุ่มต่างๆ ที่เรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งไปๆ มาๆ ก็ถูกม้วนเข้าไปในกระแสล้มรัฐบาล

ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือม็อบสวนยาง ซึ่งต้องยอมรับว่าเดือดร้อนจริง ราคายางแผ่นรมควัน กก.ละ 60-70 บาท แต่ถ้าไล่ดูความเป็นมาทั้งหมด สถานการณ์ไม่น่าบานปลายถึงเพียงนี้

ตอนแรกที่ชุมนุมกัน ชาวสวนยางเรียกร้อง กก.ละ 91 บาท รัฐบาลจะให้ 80 บาท ซึ่งชาวสวนส่วนหนึ่งยอมรับ ถ้าใครไม่พอใจก็เจรจาต่อรองกันต่อไป แต่กลับมีกลุ่มที่จะเอา 120 บาท ปิดถนนปิดรถไฟ ทำให้คนใต้ด้วยกันเองเดือดร้อน

ผมก็ไม่อยากกล่าวหาง่ายๆ ว่าฝ่ายค้านอยู่เบื้องหลัง เพราะชาวสวนเดือดร้อนจริง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม ตัวแทนสวนยางต้องไปประกาศปิดถนนที่ร้านกาแฟประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันก็ไม่อาจปฏิเสธว่า พวกจ้องไล่รัฐบาลฉวยม็อบไปกระพือ ทั้งฝ่ายค้าน สื่อ ยุยงส่งเสริม จนทำให้ม็อบชาวสวนยางตกไปอยู่ใต้ร่มธงล้มรัฐบาล ชาวสวนเขาเสียหายนะครับ และเสียความชอบธรรมไปด้วย

เช่นกัน มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค มีสิทธิที่จะเคลื่อนไหวคัดค้านการขึ้นราคา LPG โดยควรจะโต้แย้งกันอย่างมีเหตุผล แต่ไปๆ มาๆ ก็ถูกผสมโรงทั้งพวก “ทวงคืน ปตท.” และกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ ชูป้ายประเทศไทยเป็นเศรษฐีน้ำมัน ให้ชาวโลกหัวร่อด้วยความสมเพช ค้านแบบนี้ มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง

นี่คือเรื่องที่น่าห่วง อย่าทำให้การใช้สิทธิเรียกร้องในระบอบประชาธิปไตยกลายเป็นเครื่องมือของพวกไม่เอาประชาธิปไตย เพราะความเดือดร้อนจะตกไปอยู่ที่ประชาชนเสียเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น