วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ระบอบทักษิณ’ เดี๋ยวล้มเอง คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 09 สิงหาคม 2556


ระบอบทักษิณ’ เดี๋ยวล้มเอง

คอลัมน์ วันศุกร์ที่ 09 สิงหาคม 2556
ผู้เข้าชม : 278 คน

หุ้นดีดกลับมา 17 จุด ตำรวจเปิดถนนคืนผิวจราจร หลัง “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” โชว์ทะเบียนสมรสกับ “มุตา” (ฮา)
กระแสต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่แรงอย่างที่กลัว แม้แต่วันพุธ ก็โดน “เมสซี” กลบ คนเกือบแสนแห่ไปสนามรัชมังคลาฯ ขณะที่หน้าสภามีแค่พันสองพัน
แต่ก็วางใจไม่ได้เพราะม็อบจะมีต่อไป ตั้งแต่คัดค้าน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ไปจนแก้ไขรัฐธรรมนูญ
รัฐบาลชนะศึกยกแรก แต่ไม่ใช่ไม่เสียหาย เพราะชาวบ้านด่าขรม กับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงปิดถนน “กลัวเงา” จนโรงเรียนปิดไปหลายโรง ซ้ำยังต้องจับตาว่าจะเดินหน้าตรงแน่ว นิรโทษเฉพาะมวลชนทั้งสองฝ่ายจริงไหม ถ้าสอดไส้ทักษิณเมื่อไหร่ ก็ตัวใครตัวมัน (ทำไมเอา “บิ๊กบัง” ไปเป็นกรรมาธิการ ทั้งที่เคยเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองนิรโทษเหมาเข่ง หรือจะประจานว่าบิ๊กบังก็รัฐประหารแล้วนิรโทษตัวเอง)
อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญคือ ฝ่ายตรงข้ามจะใช้วิธีไหนล้มรัฐบาล ในเมื่อเห็นกันอยู่ว่าสังคมไทยวันนี้ไม่ต้องการความรุนแรง จะสร้างสถานการณ์อย่างไรให้ไปถึงรัฐประหาร หรือว่าใช้ตุลาการภิวัตน์ยุบพรรค ถอดถอน 
ไม่ว่าออกหน้าไหน มีแต่ทำให้สงครามสีปะทุไม่รู้จบ ทั้งที่ปล่อยไปเรื่อยๆ ผู้คนต่างสีเริ่มจะเย็นลง 
สังคมไทยสวิงมา 7 ปี กับการไล่ “ระบอบทักษิณ” ซึ่งเริ่มแรกก็อยู่ในวิถีประชาธิปไตย แต่พอไปถึงรัฐประหาร ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ใช้ศาลยุบพรรค ตัดสิทธิ ถึง 2 ครั้ง ความชอบธรรมก็กลับไปอยู่ข้างทักษิณ “อัศวินควายดำ” กลายเป็น “อัศวินประชาธิปไตย”
บทเรียนนี้ยังไม่ตระหนักอีกหรือ ยังคิดจะยึดอำนาจ โค่นล้มกันอีกหรือ
ประชาธิปไตยไม่มีอะไรมาก แค่อย่าลบหลู่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ปล่อยให้เป็นไปตามกติกาที่ยอมรับกันได้มากที่สุด มันไม่ใช่ชาวบ้านจะเลือกทักษิณ เลือกเพื่อไทย ตลอดชาติ เบื่อเมื่อไหร่เขาก็เปลี่ยนเอง แต่พอเลือกมาแล้วถูกล้มด้วยรถถัง ถูกล้มด้วยศาล คนเราก็มีลูกฮึด เมื่อลุกฮือก็โดน “สองมาตรฐาน” เข้ากับตัว คราวนี้ยิ่งเจ็บแค้นผนึกแน่นไปใหญ่
แต่ไม่ใช่ว่ามวลชนเสื้อแดงแพ้ไม่เป็น ดูเลือกตั้งผู้ว่า กทม.เลือกตั้งเขตดอนเมือง ถ้าแพ้ตามกติกา ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
อย่าคิดว่าพรรคเพื่อไทยแพ้ไม่เป็น อีก 2 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย จำนำข้าว จะยืนราคาต่อไปไหม ระบบน้ำ 3.5 แสนล้านจะทำได้ไหม ราคาสินค้า ปัญหาปากท้อง จะปะทุอีกไหม ฯลฯ
ก็ต่อสู้กันไปทางการเมือง ขออย่างเดียว อย่าให้กรรมการลำเอียง จึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวุฒิสภา ศาล องค์กรอิสระ กกต.ปปช.ซึ่งมีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย
ถ้าฝ่ายค้านรู้จักปฏิรูปตัวเอง เปลี่ยนหัวขบวนจากก๊วนมือเปื้อนเลือด เลิกหากินกับความเกลียดชัง ซึ่งก็ทำให้ตัวเองถูกอีกฝ่ายเกลียดชัง อารมณ์สังคมผ่อนคลาย กลับไปสู่ภาวะปกติ การเมืองก็จะวัดกันที่ผลงาน ซึ่งบอกตามตรง รัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้มีประสิทธิภาพสักเท่าไหร่
“ระบอบทักษิณ” จะล้มเอง ถ้าสามารถแยก “ระบอบทักษิณ” ออกจากประชาธิปไตย ไม่ใช่คิดแต่จะล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งด้วยม็อบ ด้วยความรุนแรง ด้วยรัฐประหาร หรือตุลาการภิวัตน์ แต่ต้องช่วยกันพัฒนาประชาธิปไตยให้ไปข้างหน้า
ที่จริงนี่เป็นสิ่งที่ทุกคนทุกฝ่าย น่าจะมีสติปัญญา สามารถมองออก แต่ถามว่าทำไมจึงยังมีความต้องการโค่นล้มรัฐบาล มีความต้องการ “ชิงสุกก่อนห่าม”
สันนิษฐานได้อย่างเดียวว่าอาจจะมี “เงื่อนไขพิเศษ” ที่อยู่นอกเหนือเงื่อนไขประชาธิปไตย เป็นตัวเร่ง ตัวบีบบังคับ มีเงื่อนเวลาที่ไม่สามารถรอให้เป็นไปตามวิถีได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็น่าเศร้า น่าเสียดาย และน่ากลัว น่ากลัวจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น