วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทริกเกอร์ฟันด์เหนื่อย ปิดกองทุนพลาดเป้า ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 09 สิงหาคม 2556

ทริกเกอร์ฟันด์เหนื่อย
ปิดกองทุนพลาดเป้า

ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 09 สิงหาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 111 คน 

มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช เผยการเมือง-คิวอีทำพิษทริกเกอร์ฟันด์พลาดเป้า ล่าสุดพบกองทุนทั้งหมด 79 กองทุน ปิดดีลได้แค่ 16 กองทุน  เหลืออีก 63 กองทุน ส่วนใหญ่ลงทุนหุ้นไทย หลังตลาดหุ้นผันผวนทำกำไรไม่เข้าเป้า  ผลตอบแทนส่วนใหญ่ติดลบเฉลี่ยสูงถึง 10%

นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์กองทุน บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการปิดกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ลงทุนทั้งในตราสารทุนไทยและตราสารทุนต่างประเทศปีนี้ คาดว่าโอกาสปิดกองทุนดังกล่าวตามระยะเวลาที่กำหนดไว้มีความเป็นไปได้ยากมากขึ้น เนื่องจาก ตลาดทุนทั่วโลกมีความผันผวนค่อนข้างมาก ทำให้การทำกำไรของกองทุนฯตามเป้าหมายมีโอกาสพลาดมากขึ้น
นับตั้งแต่ต้นปี 2556 จนถึงปัจจุบันที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทยอยออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์สู่ท้องตลาดทั้งสิ้น 79 กองทุน คิดเป็นมูลค่า 56,561 ล้านบาท โดยสามารถปิดกองทุนฯดังกล่าวได้ก่อนกำหนดหรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ประมาณ 16 กองทุน คิดเป็นมูลค่า 18,589 ล้านบาทเท่านั้น
สำหรับ 16 กองทุนที่ปิดได้ตรงตามกำหนด ส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยทั้งหมด ส่วนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่เหลืออีก 63 กองทุน แบ่งออกเป็นกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นไทยประมาณ 48 กองทุน และ 14 กองทุนที่เหลือเป็นกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ อีก 1 กองทุนลงทุนในทองคำ และกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศนี้ บลจ.ที่ออกกองทุนดังกล่าวยังไม่สามารถปิดกองทุนได้แม้แต่กองทุนเดียวนับตั้งแต่ออกกองทุนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยกองทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะลงทุนในหุ้นจีนและหุ้นสหรัฐเป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่าโอกาสปิดกองทุนดังกล่าวให้ตรงตามกำหนดอาจจะทำได้ยากพอสมควร
ส่วนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ลงทุนในหุ้นไทยที่ยังไม่สามารถปิดได้ตามระยะเวลากำหนดในขณะนี้ เชื่อว่าโอกาสปิดกองทุนมียากขึ้นเช่นกัน เพราะจากการสำรวจกองทุนดังกล่าว พบว่าผลตอบแทนส่วนใหญ่ติดลบเฉลี่ยสูงถึง 10% ขณะที่เป้าหมายผลตอบแทนที่ตั้งไว้เฉลี่ยอยู่ที่ 7-8% ดังนั้น หากกองทุนที่ติดลบเหล่านี้จะกลับมามีกำไรอาจจะต้องทำผลตอบแทนสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดถึง 20% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนค่อนข้างมากในช่วงครึ่งหลังของปีนี้  
นายกิตติคุณ กล่าวว่า แนวโน้มการออกกองทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าน่าจะออกกองทุนดังกล่าวน้อยลง แม้ว่าตลาดหุ้นไทยมีการปรับฐานค่อนข้างมากก็ตาม แต่ด้วยกองทุนเดิมยังไม่สามารถปิดกองทุนได้ตามกำหนดอยู่อีกจำนวนมาก การออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ใหม่อาจจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับบริษัทที่ออกกองทุนรวมถึงนักลงทุนด้วย
ดังนั้น แนวโน้มการออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์หลังจากนี้ จะมีการเปลี่ยนทิศทางการลงทุนจากหุ้นไทยไปยังหุ้นต่างประเทศที่มีศักยภาพมากขึ้น ส่วนการเข้ามาช้อนหุ้นไทยเพื่อตั้งกองทริกเกอร์ฟันด์ของบลจ.ต่างๆ นั้น มองว่าไม่สามารถช่วยพยุงหุ้นไทยให้อยู่ในระดับดีได้ เนื่องจากมูลค่าของกองทุนที่ออกอยู่ในระดับที่น้อยมาก สูงสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งต่างจากช่วงต้นปีที่ทยอยออกกองทุนฯสูงกว่า 1,000 ล้านบาท
นายยืนยง เทพจำนงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุน-งานลงทุนในตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันยังคงผันผวนต่อเนื่อง จากปัจจัยลบภายในประเทศและต่างประเทศ แนวโน้มการออกกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์จากนี้ไปยังคงมีต่อเนื่อง หากดัชนีมีการปรับตัวลงมาแรงมากๆ เพราะเป็นจังหวะดีที่นักลงทุนเข้าไปลงทุน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันส่งผลให้กองทุนทริกเกอร์ฟันด์หลายกองไม่สามารถปิดกองได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทำให้มีหลายกองทุนจำเป็นต้องขยายกองทุนเป็นกองทุนเปิดแทน
สำหรับกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ไม่สามารถปิดกองทุนได้ตามกำหนด เนื่องจากมีปัจจัยลบภายในประเทศเข้ามาพอดี อย่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคม เป็นเดือนที่กองทุนจะครบกำหนดมากที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น