วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

4ปมหลักถล่มหุ้นPACE ขาใหญ่ทุนต่ำขายไม่ยั้ง แฉหมอ ย. ทำรายย่อยเลือดสาด ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 09 สิงหาคม 2556


4ปมหลักถล่มหุ้นPACE
ขาใหญ่ทุนต่ำขายไม่ยั้ง
แฉหมอ ย. ทำรายย่อยเลือดสาด

ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 09 สิงหาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 571 คน 


เปิดปมถล่มหุ้นน้องใหม่ PACE งานนี้นักลงทุนรายย่อยเลือดสาดท่วมห้องค้า หลังขาใหญ่ หมอ “ย.” เทขายหุ้นวันแรก 30 ล้านหุ้นเกลี้ยงพอร์ต เหตุต้นทุนอยู่ที่ราคาพาร์  แถมมีหุ้นที่ไม่ถูกล็อกอัพอีก 15% ร่วมกระหน่ำซ้ำอย่างทารุณ ยังไม่พอยังมีเคสบังคับซื้อ PACE เพื่อให้ได้หุ้นจองตัวใหม่ เหมือนขายเหล้าพ่วงเบียร์ เป็นตัวเร่งให้คนจองซื้อ PACE เทขายวันแรก ส่วนพื้นฐานบริษัทไม่จูงใจให้ถือ ไร้ปันผล เริ่มรับรู้รายได้ปี 58 ด้าน “สรพจน์” ซื้อโชว์ 16.5 ล้านหุ้น ที่ 2.85 บาท ขาดทุนเรียบร้อยแล้ว

แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงต่ำจองไอพีโอของราคาหุ้นบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา เกิดจากการเทขายของนักลงทุนรายใหญ่ที่มีนามว่า หมอ “ย.” เนื่องจากได้ต้นทุนราคาพาร์ (1 บาท) จำนวน 30 ล้านหุ้น จึงเทขายออกมาหมดในวันแรกที่เข้าเทรด
“คุณหมอถือหุ้น PACE มานาน 3 ปีแล้ว และเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นตัวนี้  โดยการเทขายหุ้น PACE จำนวน 30 ล้านหุ้นหมดในวันแรกที่หุ้นเข้าเทรด ส่วนปมที่ 2 คือมีหุ้นที่ยังไม่ติดล็อกอัพ (ห้ามขาย) หรือติดเกณฑ์ไซเลนต์ พีเรียดอีก 15% ของผู้ถือหุ้นเดิมเทขายออกมา  เพราะหุ้นเดิมที่ติดไซเลนต์ฯ มีเพียงแค่ 55% เท่านั้น ส่วนอีกที่เหลืออีก 30% จะเป็นส่วนของการขายไอพีโอ” แหล่งข่าว กล่าว
 หากมองในแง่ดี หุ้น PACE ถือเป็นบทเรียนสำหรับนักลงทุนที่จะจองซื้อหุ้นไอพีโอครั้งต่อไป  นอกเหนือจากประเด็นราคาหุ้นถูก-แพง หรือดูค่า P/E แล้ว จะต้องดูด้วยว่าการกำหนดล็อกอัพผู้ถือหุ้นเดิมในหุ้นตัวนั้นมีมากน้อยแค่ไหน เพราะเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯให้ล็อกอัพขั้นต่ำ 55% แต่ทางที่ดีควรจะให้ล็อกอัพให้หมดจะดีกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีหุ้นเดิมที่ราคาต่ำกว่าไอพีโอขายออกมา 
สำหรับปมที่ 3 คือการถูกกำหนดให้ซื้อหุ้น PACE เพราะจะได้สิทธิจองหุ้นตัวอื่นต่อไป เหมือนกรณีการขายเหล้าพ่วงเบียร์ที่เคยมีเกิดขึ้นในอดีต จึงทำให้นักลงทุนที่ได้จองซื้อหุ้นไอพีโอของ PACE ไม่สนใจหุ้นตัวนี้ จึงกระหน่ำเทขายออกมา โดยคาดหวังว่าจะเอากำไรคืนจากหุ้นจองตัวอื่นที่จะได้รับการจัดสรรแทน
 “หากนักลงทุนที่ได้จองหุ้น PACE และขายที่ราคาเปิดวันแรกที่ 3.10 บาท จะขาดทุน 0.40 บาท ก็มาหักลบกับหุ้นไอพีโอตัวต่อไปที่จะได้รับ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้มีกำไรพลิกกลับมาได้” แหล่งข่าว กล่าว
ส่วนปมสุดท้าย คือเรื่องพื้นฐาน เนื่องจากหุ้น PACE มีปัญหาเรื่องพื้นฐาน โดยเฉพาะบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ขาดทุน โดยเฉพาะในไตรมาส 1/56 ที่เพิ่งรายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าขาดทุน 51 ล้านบาท  และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีผลขาดทุนตลอดทั้งปีนี้ เนื่องจากการลงทุนในโครงการมหานคร รวมถึงโครงการใหญ่อื่นๆ ที่ยังไม่มีรายได้เข้ามาในเร็วๆ นี้จะกลับมาดีได้อีกภายในปี 2558  ทำให้นักลงทุนไม่มีความหวังที่จะรอถือเพื่อหวังเงินปันผล
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีแลนด์แบงก์ในมือ ถือเป็นปัญหาใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นกลุ่มไฮเอนด์ หรือกลุ่มลูกค้าพรีเมียมเป็นหลัก เพราะยิ่งพัฒนาช้าเท่าไหร่ ราคาที่ดินก็จะปรับเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงต้นทุนที่จะต้องสูงขึ้นเรื่อยๆ  ประกอบกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ทำให้อาจจะได้รับผลกระทบหากไม่มีแลนด์แบงก์ในมือ
ทั้งนี้ คงต้องย้อนกลับไปถามหน่วยงานที่อนุมัติให้ใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคปเกิน 5 พันล้านบาท ก็สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น เพราะถือเป็นด่านสำคัญในการคัดกรองว่าบริษัทที่จะนำมาขายให้กับนักลงทุนในตลาดหุ้นนั้น เป็นของที่ดี หรือไม่ดี ทำให้มีผลต่อภาพลักษณ์ของแวดวงตลาดทุน
ด้านนายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE กล่าวว่า หลังจากที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา วันนี้ (8ส.ค. ด้เข้าซื้อหุ้น PACE ในตลาดเพิ่มอีกจำนวน 16,547,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.85 บาท หลังจากเห็นว่าราคาหุ้นลดลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก
“จากการเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มในตลาดล่าสุดส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่ม 'เตชะไกรศรี' ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 56% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดในการสร้างผลการดำเนินงานและผลประกอบการที่ดีที่สุดให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่าน” นายสรพจน์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น