นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าการประกาศทยอยลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการปรับตัวในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจเท่านั้น

นายโฆสิต เชื่อว่า ความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกจะยังคงต่อเนื่องไปอีกสักระยะหนึ่งจากที่ผันผวนมาแล้ว 5 ปี โดยเฉพาะปัจจัยเรื่องการที่ธนาคารกลางจีนดำเนินนโยบายลดความร้อนแรงของการขยายตัวทางเศรษฐกิจลง ซึ่งจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก เห็นได้ชัดจากการที่ตลาดการเงินของจีนมีความผันผวน โดยอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมระหว่างธนาคารหรืออินเตอร์แบงก์เรตปรับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนักลงทุนต้องจับตาปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมด

นายโฆสิต ย้ำว่า การดำเนินนโยบายและการดำเนินธุรกิจต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากความผันผวนเกิดขึ้นได้ตลอดและรวดเร็ว เช่น อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐจากที่อยู่ในระดับร้อยละ 2.1 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.4 สะท้อนถึงความผันผวนที่ยังคงมีต่อเนื่องและจะต่อไปอีก

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การปรับนโยบายทางการเงินของสหรัฐครั้งนี้นับเป็นการส่งสัญาณเตือนให้ตลาดรับรู้ว่าในช่วง 1 ปีนับจากนี้ไปจะยังคงมีความผันผวนต่อเนื่องไปอีก แต่ในทางกลับกันเป็นการสะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจทั้งโลกไปด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างรวดเร็วจะส่งผลกระทบกับตลาดเงินตลาดทุน แต่ที่ผ่านมานักลงทุนระมัดระวังและทางการดูแลอยู่แล้ว อีกทั้งสภาพคล่องในประเทศมีปริมาณสูง เพียงพอที่จะรองรับการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกไปได้ ส่วนปัจจัยการเมืองจะยังไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ 

ที่มา สำนักข่าวไทย