วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เครดิตบูโรห่วง

เครดิตบูโรห่วง

กองทุนรวม ประกัน วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 3 คน 

บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ห่วงหนี้รายย่อย 68 ล้านบัญชี ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล เช่าซื้อรถยนต์ และที่อยู่อาศัย หวั่นผิดนัดชำระพุ่ง หลัง พบแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว เตือนสถาบันการเงินปล่อยกู้รัดกุม รักษาวินัยทางการเงิน

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ National Credit Bureau (NCB) เปิดเผยว่า ข้อมูลที่เครดิตบูโรมีอยู่ในปัจจุบัน พบว่ามีทั้งหมด 68 ล้านบัญชีสินเชื่อ คิดเป็น 24 ล้านบัญชีลูกหนี้ เฉลี่ย 5 บัญชีสินเชื่อต่อ 1 บัญชีลูกหนี้ ในจำนวนบัญชีลูกหนี้ทั้งหมดนี้เป็นบัญชีลูกหนี้บัตรเครดิต 37% เป็นบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคล 30% เป็นบัญชีสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 14% และเป็นบัญชีสินเชื่อที่อยู่อาศัย12% ซึ่งบัญชีสินเชื่อรถยนต์ มีจำนวนเพิ่มค่อนข้างมากเพราะมาตรการรถยนต์คันแรก โดยได้เพิ่มจาก 10% มาเป็น 14%

ข้อมูลเหล่านี้สถาบันการเงิน หรือ ผู้ให้บริการสินเชื่อสามารถนำไปสร้างประโยชน์ได้ และอยากเห็นหน่วยงานภาครัฐมีการนำข้อมูลแบบนี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกับประชาชนก็ควรได้รับข้อมูลแบบนี้เช่นกันเพื่อได้ตระหนักว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำเพื่อให้สังคมดีขึ้น

“ตอนนี้เครดิตบูโร ค่อนข้างกังวล ตรงกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ และทางการที่มีการพูดถึงว่ากลุ่มที่มีรายได้ไม่มาก มีหนี้ต่ำกว่า 1 แสนบาท และมีการค้างชำระจ่ายไม่ได้เกิน 90 วัน กลุ่มคนเหล่านี้น่าจะมีรายได้ไม่มาก อาจมีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท ต่อเดือนลงมาและเป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการกู้ต่ำ มีโอกาสผิดนัดชำระสูง ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่มีภาวะเสี่ยง”

นายสุรพล กล่าวว่า หากเครดิตบูโรไม่ส่งสัญญาณ ก็จะเป็นอันตรายได้ในอนาคตการที่ได้รับรู้ข้อมูลก่อน จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยจะไม่ทำอะไรให้ผิดอีก ดังนั้นทั้งฝ่ายผู้ให้กู้และผู้กู้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ แม้ว่า ณ เวลานี้การผิดนัดชำระหนี้ยังถือว่าต่ำอยู่เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อที่ปล่อยไปของสถาบันการเงินซึ่งในระบบสถาบันการเงินได้มีการปล่อยสินเชื่อบัตรเครดิตไปแล้วประมาณ 2.5-2.6 แสนล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล 5-6 พันล้านบาท เท่านั้น ซึ่งอัตราการเพิ่มยังไม่มีอะไรเป็นนัยสำคัญโดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีการเพิ่มมาแค่ 3% เท่านั้น

ในขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลทั้งระบบได้มีการปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 2.6-2.7 แสนล้านบาท แต่มีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 7-8 พันล้านบาทซึ่งถือว่ายังต่ำอยู่ แต่ภาพรวมแล้วยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ยังไม่มีสัญญาณในการเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ

“ตอนนี้เครดิตบูโร ได้ส่งสัญญาณเตือน เพื่อบอกว่าเริ่มเสี่ยงบ้างแล้วนะว่าควรห้ามหรือ ระมัดระวังกลุ่มไหนบ้างการส่งสัญญาณครั้งนี้จะช่วยให้สถาบันการเงินรู้จักการบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่าเดิม และช่วยประหยัดต้นทุนทางธุรกิจ รวมทั้งพฤติกรรมของคนรับรู้ข้อมูลก็จะได้เปลี่ยนไปทำให้บุคคลมีความเข้มแข็ง มีการระมัดระวังในเรื่องสินเชื่อเพิ่มซึ่งเครดิตบูโร ได้ส่งเสริมให้ประชาชน มีการตรวจสอบเช็คข้อมูลเครดิตของตัวเองก่อนกู้ เพื่อให้ระมัดระวังและดูแลตัวเองได้ และทำให้สังคมมีวินัยทางการเงินเพิ่ม”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น