วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แนะ9หุ้นเหมาะเก็งกำไร ราคาหุ้นลงหนักกว่าดัชนี

แนะ9หุ้นเหมาะเก็งกำไร
ราคาหุ้นลงหนักกว่าดัชนี

ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 7 คน 

เปิดโผ 9 หุ้นลงหนักกว่า SET Index ได้แก่ PS, JAS, CPN, TCAP, INTUCH,  ADVANC, ROBINS, MINT และ BGH แนะเก็งกำไร ก่อนประชุมเฟด ควรตั้ง stop loss หากเข้าเก็งกำไร นักลงทุนระยะกลาง แนะพอร์ตลงทุน 60% วันนี้ (18 มิ.ย.) ลุ้นประชุมเฟด  แนวรับแรกให้ที่ 1,450 จุด แนวรับถัดไปไว้ที่ 1,440 จุด

                ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวลดลงมากถึง 14% โดยเลือกหุ้นที่ปรับตัวลงมาก และอาจเป็นเป้าการเก็งกำไร เนื่องจากหุ้นเหล่านี้มีการปรับตัวลดลงมากกว่าตลาด โดยปรับตัวลดลง 18% โดยมีรายชื่อดังนี้  หุ้นบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS, หุ้นบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS, หุ้นบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN
                หุ้นบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP, หุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH, หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, หุ้นบริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน)  หรือ ROBINS, หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และหุ้นบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH
                ทั้งนี้ การเก็งกำไรหุ้นเหล่านี้ จะต้องเก็งก่อนประชุมเฟด ในวันที่ 19 มิถุนายน 2556 และควรตั้งจุด stop loss สำหรับนักเก็งกำไร สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ถ้าจะเสี่ยงควรเสี่ยงทางขาย  SET Index ยังมีโมเมนตัมเชิงบวกในการฟื้นตัว การกลับขึ้นมาทดสอบ 1,450-1,470 จุด ได้ในเวลาเพียง 2 วัน ถือว่าโชคดี โดยเฉพาะการปรับขึ้นใกล้ 1,500 จุด หรือสูงกว่า ควรใช้เป็นจังหวะแบ่งขายถือเงินสดรับมือความผันผวนของตลาดทุนโลก และโอกาสถูกขายทำกำไรหลังหุ้นขึ้นมาแรงในช่วงสั้น
ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ให้คงน้ำหนักการลงทุนที่ 60% หลังลดไป 20% ใน 2  ครั้ง
                 นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (18 มิ.ย.) ดัชนีจะแกว่งตัวผันผวน เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบต่อหุ้นทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ
                ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามหลังจากนี้ คือการรายงานผลการดำเนินของบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2556 และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญต่างๆ ของต่างประเทศ
                “คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวผันผวน เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในอีก 2 วันข้างหน้า โดยตอนนี้เรื่องเฟดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลการประชุมเฟดจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าจะไม่ส่งผลลบต่อตลาด โดยหลังจากการประชุมเฟดแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ในบ้านเรา คือเรื่องการรายงานผลการดำเนินงานของบจ.ในไตรมาส 2/2556 และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของต่างประเทศ” นายสมชาย กล่าว
                ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนควรเน้นถือ และควรเข้าซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยแนะนำหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจคือหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ ประเมินแนวรับแรกไว้ที่ 1,450 จุด แนวรับถัดไปไว้ที่ 1,440 จุด และประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ 1,480 จุด แนวต้านถัดไปไว้ที่ 1,484 จุด                                                             
                                                     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น