วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จับตาหุ้นใหญ่วิ่งแรง กองทุนเตรียมทำวินโดว์

จับตาหุ้นใหญ่วิ่งแรง
กองทุนเตรียมทำวินโดว์

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 12 คน 

หุ้นไทยเนื้อหอม สถาบันจ่อคิวเก็บหุ้นกลุ่มบริโภค-ท่องเที่ยว-สื่อสาร และโรงพยาบาลเข้าพอร์ตก่อนสิ้นไตรมาส 2/56 หวังทำวินโดว์เดรสซิ่ง ออกกองทุนหุ้นใหม่และกองทุนหุ้นทริกเกอร์ คาดนับจากนี้ไปอีก 3 เดือนข้างหน้า นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันเป็นพระเอกหลักตลาดหุ้นไทย

นายกมลยศ สุขุมสุวรรณ ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบันช่วงนี้ ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ PE หุ้นไทยขณะนี้อยู่ที่ระดับ 12.85 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะแก่การลงทุนค่อนข้างมาก ทั้งนี้ จะเห็นว่าบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่างๆ ทยอยออกกองทุนหุ้นและกองทุนประเภททริกเกอร์กันทุกบริษัท
ส่วนการทำวินโดว์ เดรสซิ่ง (window dressing) ของนักลงทุนสถาบันช่วงปิดบัญชีของไตรมาส 2/56 ภายในสัปดาห์นี้ (24-28 มิ.ย.) คาดว่าการเข้าซื้อหุ้นของสถาบันภายในสัปดาห์นี้ ส่วนหนึ่งเพื่อทำวินโดว์เดรสซิ่งและอีกส่วนหนึ่งเพื่อออกกองทุนหุ้นใหม่ๆ
อย่างไรก็ตาม โอกาสการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันยังมีต่อ และเชื่อว่าจากนี้ไปจนถึง 3 เดือนข้างหน้า นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันจะกลับมามีบทบาทในตลาดหุ้นไทยมากที่สุด ส่วนหลักทรัพย์ที่น่าสนใจที่สถาบันเลือกเข้าลงทุน จะเป็นหลักทรัพย์กลุ่มอุปโภคบริโภค กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มโรงพยาบาล
"หุ้นไทยช่วงนี้ยังได้นักลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันซื้อสุทธิ 7,577.88 ล้านบาท และเชื่อว่าจะทยอยซื้อต่อเนื่อง เพื่อทำวินโดว์ฯและออกกองทุนหุ้นต่างๆ ภาพรวมการซื้อหุ้นไทยเพื่อออกกองทุนหุ้นต่างๆ ของสถาบันรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท" นายกมลยศ
นายกมลยศ กล่าวว่า การปรับลงของตลาดหุ้นไทยรอบนี้ มองว่าเป็นโอกาสดีในการเข้าลงทุนระยะยาว เนื่องจากมูลค่าของหุ้นปรับลดลงมาเกินความเป็นจริง ซึ่งกลุ่มบริษัทเหล่านี้พื้นฐานไม่มีการเปลี่ยนแปลง และยังคงมีศักยภาพในการทำกำไรที่ดี อีกทั้งมูลค่าเชิงเปรียบเทียบของตลาดหุ้นไทย เมื่อเทียบกับตลาดภูมิภาค TIPS ยังถือว่าน่าสนใจกว่า โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมของตลาดหุ้นไทยอยู่ระดับ PER 15 เท่า หรือดัชนี 1,636 จุด
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด กล่าวว่า ช่วงภาวะหุ้นปรับฐานในรอบนี้ คาดว่าโอกาสที่บริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ต่างๆ จะทำวินโดว์ เดรสซิ่ง (window dressing) มีค่อนข้างมาก เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ในระดับค่อนข้างถูก
อย่างไรก็ตาม การทำวินโดว์เดรสซิ่งในรอบนี้ ผู้จัดการกองทุนอาจดูเรื่องเม็ดเงินไหลออกของต่างชาติเป็นหลัก เพราะราคาหุ้นอาจจะปรับลงมาได้อีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ของถูกเข้าพอร์ต ดังนั้น ต้องรอดูใกล้ๆ ปิดกองทุนอีกครั้งช่วงปลายเดือนนี้ และการส่งสัญญาณการเลิก QE ของเฟดครั้งนี้ หากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ดัชนีหุ้นไทยปีนี้ ยังคงเป้าหมายที่ 1,640 จุด
ด้านนักลงทุนแนะว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นอาจจะยืดเยื้อออกไปประมาณ 2-3 เดือนจากนี้ นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนพอสมควร นักลงทุนระยะสั้นควรมีวินัยในการลงทุน ส่วนนักลงทุนระยะยาวอย่ารีบร้อนลงทุน
นายสุพงศ์วร เมี้ยนโภคา ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสแซท พลัส จำกัด กล่าวว่า โอกาสที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะเข้าทำวินโดว์เดรสซิ่งรอบนี้มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก แต่การทำวินโดว์เดรสซิ่งดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นเร็วในช่วงนี้ แต่น่าจะเกิดช่วงใกล้ๆ สิ้นเดือนมิถุนายนนี้เป็นหลัก
ส่วนภาวะหุ้นไทย เชื่อว่าคงปรับฐานตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณเกี่ยวกับการชะลอโครงการซื้อคืนพันธบัตรสหรัฐชัดเจน ส่งผลให้เงินไหลกับสหรัฐ จึงคาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยใช้เวลาปรับฐานอีกระยะหนึ่ง รวมทั้งบริษัทปรับเป้าดัชนีหุ้นปีนี้เหลือระดับ 1,567 จุด จากเป้าหมายเดิมที่มองไว้ 1,600-1,650 จุด
“เรามองว่าจุดสูงสุดของดัชนีหุ้นไทยที่ 1,600 จุดผ่านไปแล้ว หลังจากเงินทุนไหลกลับสหรัฐ ทำให้เงินทุนไหลกลับเข้ามาในรอบถัดไปคงลดลง จึงปรับเป้าหมายดัชนีลง ขณะที่กำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้คาดว่ายังเติบโต 20% เช่นเดิม” นายสุพงศ์วร กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น