วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

PNข่าวดีท้ายปี กำไรพิเศษ5พันล.

ข่าวหุ้น - กระบอกเสียงอิสระแห่งตลาดทุน:: CPNข่าวดีท้ายปี
กำไรพิเศษ5พันล.
ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2556
ผู้เข้าชม : 5 คน
CPN เตรียมบันทึกกำไรพิเศษขายศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่แอร์พอร์ต เข้ากองทุน CPNRF ไตรมาส 4/56 เกือบ 10,000 ล้านบาท เชื่อมีกำไรพิเศษ 5,000 ล้านบาท


นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินบัญชีและบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการขายสินทรัพย์ คือ โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท เข้ากองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNRF

ทั้งนี้ เงินที่บริษัทจะได้รับขึ้นอยู่กับราคาสรุปวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งราคาจะมาจากการสำรวจปริมาณความต้องการในการจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของผู้ลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) ขณะนี้ได้กำหนดช่วงราคาไว้ที่ 15.50-16 บาทต่อหน่วย ก็จะทำให้ได้เงินประมาณ 9,600-10,000 ล้านบาท โดยน่าจะมีการบันทึกในช่วงไตรมาส 4/56 นี้ ซึ่งเพียงพอสำหรับการลงทุนในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

โดยระยะเวลาเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุน สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมประเภทผู้ลงทุนทั่วไป ระยะเวลาจองซื้อ คือ ระหว่างวันที่ 3-12 ธ.ค. 56 (ภายในเวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 ธ.ค. 56) ส่วนผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมประเภทผู้จองซื้อพิเศษ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และบุคคลในวงจำกัด ระยะเวลาจองซื้อ คือ ระหว่างวันที่ 3-18 ธ.ค. 56

และในกรณีที่ราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุดที่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมจะต้องชำระบริษัทจะจัดการคืนส่วนต่างของเงินจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุน หรือคืนเงินจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่ได้จองซื้อหน่วยลงทุนเกินกว่าสิทธิสำหรับส่วนที่ไม่ได้รับการจัดสรร ภายในวันที่ 27 ธ.ค. 56

ส่วนสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบกับบางสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างสาขาปิ่นเกล้า และเซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงสาขาในต่างจังหวัดอย่างสาขาสุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ที่ทำให้ปริมาณคนเข้าศูนย์ลดลง เฉลี่ยประมาณ 10% อย่างไรก็ตาม คาดว่าเหตุการณ์ทางการเมืองน่าจะจบภายในช่วงสิ้นเดือนนี้

สำหรับปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตประมาณ 17-18% จากปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิมีการเติบโตจากปีก่อนแน่นอน จากผลการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในไตรมาส 4/56 มีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 ศูนย์ คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. และจะเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปีนี้มีศูนย์การค้ารวม 23 ศูนย์ ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีการจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Groove ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดโซนร้านอาหารได้ก่อนในช่วงเดือนธ.ค.นี้ คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 40-50% ส่วนโซนแฟชั่น คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงปีหน้า (ปี 2557) และการปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปีหน้า

ขณะที่ปีหน้า บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตสูงกว่า 15% โดยจะมีการเปิดศูนย์การค้าใหม่ประมาณ 3-4 โครงการต่อปี ส่วนงบลงทุนประมาณ 12,000-14,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีหน้ามีแผนจะเปิดโครงการเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย, โครงการเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา และโครงการเซ็นทรัลพลาซา ระยอง

“สถานการณ์ปีหน้าแนวโน้มเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น แต่ก็ต้องติดตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้ง พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทจะออกมาได้ตามกำหนดการหรือไม่ ถ้าออกมาได้ก็จะทำให้มีการเติบโต แต่ถ้าไม่สามารถออกมาได้ ก็จะส่งผลต่อ GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) และกำลังซื้อโดยตรง”

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชีและการเงิน CPN กล่าวว่า สำหรับโครงการที่ประเทศมาเลเซีย มูลค่า 5,800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้น 60% ส่วนพันธมิตรถือหุ้น 40% ขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างดำเนินการออกแบบ คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 4/59 ทั้งนี้ มีอัตราผลตอบแทนจากโครงการ (IRR) ประมาณ 14%

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CPN ยังมีประเด็นขับเคลื่อนสำคัญจากการขายศูนย์การค้าเชียงใหม่ แอร์พอร์ต มูลค่าไม่เกิน 11,500 หมื่นล้านบาท เข้ากองทน CPNRF ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งคาดจะทำให้บริษัทมีโอกาสรับรู้กำไรพิเศษหลังหักภาษีสูง 5,000 ล้านบาท (ภายใต้สมมุติฐานราคาขาย 11,000 ล้านบาทและ CPN ถือสัดส่วน 27.8% ใน CPNRF)

ดังนั้น โดยภาพรวมส่งผลให้กำไรสุทธิ (หลังรวมกำไรพิเศษ) ปี 2556 สูงถึง 10,876 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 6% เท่ากับ 5,876 ล้านบาท โดยเติบโต 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงแนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐานปี 2557 เท่ากับ 68 บาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น