วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

‘กรุงไทย’ลุยอุ้มสหฟาร์ม การเงินการคลัง วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2556

‘กรุงไทย’ลุยอุ้มสหฟาร์ม

การเงินการคลัง วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2556 
ผู้เข้าชม : 4 คน 

ธนาคารกรุงไทย (KTB) พร้อมอุ้มสหฟาร์มให้น้ำล่อเลี้ยง 2,700 ล้านบาท เพื่อชุบชีวิตกิจการกลับคืนมา วอนรีบเคลียร์ปัญหาภายใน และรับเงื่อนไขธนาคาร

นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า กรณีปัญหาของบริษัทสหฟาร์มนั้น ที่ผ่านมาธนาคารอนุมัติตั้งวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนให้บริษัทสหฟาร์มไปแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับว่าสหฟาร์มจะรับเงื่อนไขที่ธนาคารตั้งไว้ได้หรือไม่
“เราตั้งวงเงินไว้ 2,700 ล้านบาท แต่ดูเหมือนปัญหายังไม่จบ เขายังเคลียร์ไม่ลงตัว เราในฐานนะแบงก์ก็พร้อมที่จะใส่เงินเข้าไปช่วยเหลือเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้ายังไม่จบก็ยืดเยื้อออกไปอีก” นายวรภัค กล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาธนาคารจะพิจารณาใน 3 เรื่อง คือ ธุรกิจจะไปรอดหรือไม่ โครงสร้างทางการเงินเป็นอย่างไร และความสามารถในการบริหารจัดการ โดยเรื่องแรกนั้นภาพรวมยังมองว่า ธุรกิจของสหฟาร์มยังไปรอด เพราะยังมีความต้องการจากตลาด และมีโอกาสในการทำกำไร
ส่วนกรณีการขาดสภาพคล่องทางการเงินนั้น ธนาคารมองว่าสหฟาร์มมีปริมาณหนี้เทียบกับกำลังการผลิตไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าเป็นกังวล ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องลดหนี้ (Hair Cut) ส่วนความสามารถในการบริหารจัดการที่มีปัญหานั้นการที่สหฟาร์มประกอบธุรกิจชำแหล และส่งออกไก่มากว่า 40 ปี โดยรวมถือว่าแข็งแกร่งในหลายด้าน แต่ติดปัญหาเรื่องการบริหารธุรกิจแบบครอบครัวใหญ่
ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้หากสหฟาร์มยอมรับเงื่อนไขในการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยก็จะเข้าไปช่วยเรื่องการจัดระเบียบ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขต้องมีวินัยทางการเงินมากขึ้น ที่ผ่านมาสหฟาร์มปรับโฮลดิ้งจากเดิมถือหุ้นแบบกระจัดกระจาย มาเป็นการสว็อปหุ้นให้มาอยู่ภายใต้โฮลดิ้ง โดยโฮลดิ้งจะถือหุ้น 100% ในทุกบริษัท
“เราต้องเข้าไปจัดระเบียบดูว่าจะควบคุมอย่างไรให้สหฟาร์มมีวินัยในการใช้เงิน ซึ่งที่ผ่านมาวินัยในการใช้เงินอาจจะน้อย โดยเห็นได้จากอยากลงทุนอะไรก็ทำ แต่ต่อไปแบงก์จะเข้าไปควบคุมเงินเข้า-ออกทั้งหมดเพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวว่านำเงินไปทำอะไรกระทั่งการลงทุนในอนาคตควรทำหรือไม่” นายวรภัค กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารยังไม่มีแผนหาพันธมิตรเพื่อเข้ามาลงทุนในสหฟาร์ม โดยขณะนี้กลุ่มเจ้าหนี้ของสหฟาร์มอยู่ระหว่างหารือร่วมกันเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือตลอดเวลา ซึ่งธนาคารมองว่าธุรกิจไก่นั้นยังมีความต้องการสูง และกลุ่มอุตสาหกรรมยังมีทิศทางเติบโตได้ดีในอนาคต โดยธนาคารมีหน้าที่ช่วยเหลือให้ธุรกิจดำเนินกิจการต่อไปได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น