รัฐบาลสหรัฐเตรียมขายหุ้นที่ยังเหลืออยู่ในบริษัทผลิตรถยนต์ "เจนเนอรัล มอเตอร์ส" หรือจีเอ็ม ภายในสิ้นปีนี้




กระทรวงการคลังสหรัฐแถลงวานนี้ว่า กระทรวงซึ่งเพิ่งขายหุ้นสามัญของจีเอ็ม ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐจำนวน 70.2 ล้านหุ้น วางแผนขายหุ้นที่เหลืออยู่อีก 31.1 ล้านหุ้น หรือประมาณ 2% ของทุนจีเอ็ม หากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันยังอยู่ในระดับปัจจุบัน กระทรวงการคลังคาดว่าการขายหุ้นที่เหลืออยู่จะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตามกำหนดการขึ้นอยู่กับภาวะตลาด

กำหนดการขายหุ้นครั้งใหม่นี้เร็วกว่าที่กระทรวงการคลังเคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 19 กันยายน ว่ารัฐบาลสหรัฐจะถอนการลงทุนทั้งหมดในจีเอ็มภายใน 12-15 เดือนข้างหน้า

ด้านบริษัทจีเอ็มแถลงว่า แม้กระทรวงการคลังจะขายหุ้นที่เหลือในจีเอ็ม บริษัทก็จะเดินหน้าปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง

รองผู้ช่วยรัฐมนตรีคลัง "นายทิม โบว์เลอร์" เปิดเผยว่า การลงทุนของกระทรวงการคลังในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ เป็นส่วนหนึ่งในการรับมือกับวิกฤติการเงินของประธานาธิบดีบารัก โอบามา และช่วยกอบกู้งานกว่าล้านตำแหน่ง

กระทรวงการคลังระบุว่าลงทุนในจีเอ็ม 5.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และได้เงินคืนรวม 3.84 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การขายหุ้นที่เหลืออยู่คำนวณจากราคาปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ 37.69 ดอลลาร์ต่อหุ้น จะทำให้รัฐบาลได้เงินประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ผู้เสียภาษีขาดทุนจากการที่รัฐบาลอุ้มจีเอ็ม 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์


ที่มา: BangkokBizNews