วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

KTBงดตั้งสำรองหนี้เสียสูงกว่าปกติ หนี้เสียสูงขึ้นเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ

KTBยันQ4ไร้สำรองพิเศษ

กองทุนรวม ประกัน วันจันทร์ที่ 03 พฤศจิกายน 2557 
ผู้เข้าชม : 3 คน 

ธนาคารกรุงไทย (KTB) การันตีไตรมาส ตั้งสำรองปกติ ย้ำNPL เอาอยู่ มองบริษัทในเครือเติบโตสวยงาม แจงไม่มีนโยบายขายหุ้นทิ้ง โบรกฯชี้รุกหนักสินเชื่อเพื่อรายย่อย และสินเชื่อเอสเอ็มอีปี 58 พร้อมคงสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐไว้
นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่า ไตรมาส 4/57 ธนาคารเชื่อมั่นว่าการตั้งสำรองจะลดลง และไม่มีพิเศษเหมือนไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารได้ตั้งสำรองที่สูงไปแล้วถึงแม้ว่าไตรมาส 3/57 จะมี NPL เพิ่มขึ้น 11,009 ล้านบาท หรือ 19.50% ก็ตาม แต่เป็นไปตามเศรษฐกิจ และมาจากสินเชื่อรายย่อย ซึ่งการแก้ปัญหาก็เป็นไปตามที่ธนาคารคาดการณ์
“6 เดือนที่ผ่านมาเราไม่ได้หยุด ที่อื่นรอดูสถานการณ์ทำให้ครึ่งปีหลังเราไม่ต้องรุกมาก ปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะมองว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แม้จะยังไม่เต็มกำลัง”
ส่วนบริษัทในเครือของธนาคารนั้นที่ผ่านมาทำผลประกอบการได้ดี ประกอบด้วย KTC หรือ ประกันชีวิต โดยนโยบายของธนาคารไม่ต้องขายหุ้น หรือบริษัทที่ถืออยู่ออกไป เนื่องจากยังเป็นยุทธศาสตร์ในการทำธุรกิจของธนาคาร ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจสำหรับธนาคาร
สำหรับแผนธุรกิจปี 58 ในขณะนี้เบื้องต้นทางด้านนโยบายผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการธนาคารแล้ว และตอนนี้ได้ให้แต่ละฝ่ายกลับไปทำแผน และวิธีการทำให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้ครบทุกประเภทในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ที่จะกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของธนาคารต่อผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ
“ปีหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของเราอย่างชัดเจนทุกด้าน และจะเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดภายหลังเราวางระบบโครงสร้าง จัดการหลังบ้านใหม่ และยังมีผู้บริหารหน้าใหม่เข้ามาทำงานกับเราจึงเชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีของกรุงไทย”
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ธนาคารจะให้ความสำคัญกับการเติบโตของสินเชื่อเพื่อรายย่อย และสินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอีมากขึ้นในปี 58 แต่จะยังคงสัดส่วนของสินเชื่อในส่วนของรัฐบาลไว้ โดยสินเชื่อเพื่อภาคธุรกิจน่าจะเติบโตจากการขยายตัวของภาคการก่อสร้าง และจากโครงการการลงทุนใหม่ๆ ของรัฐบาล
ส่วนการตั้งสำรองพิเศษในไตรมาส 4/57 นั้นมองว่า ระดับหนี้เสียคาดจะปรับตัวลงในไตรมาส 4 นี้จากการลงบัญชีเป็นหนี้สูญ (write off) ในไตรมาส 4 จึงคาด KTB จะตั้งสำรองพิเศษเพิ่มอีก 2 พันล้านบาทจากระดับปกติที่ 2.1 พันล้านบาทต่อไตรมาส
ทางด้านสินเชื่อได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อในปี 2557 มาอยู่ที่ 7% พร้อมปรับลดคาดการณ์การเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมลงมาอยู่ที่ 3% จากรายได้ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับสินเชื่อ ธุรกรรมการค้าและอัตราแลกเปลี่ยนที่เติบโตอ่อนแอกว่าคาด และมองว่ารายได้จากบริษัทในเครืออย่างกรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต และ KTC จะเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนการเติบโตของกำไรสุทธิในปีนี้ และปีหน้า โดยรวมกำไรจะชะลอตัวลง 2% ในปีนี้ แต่เติบโต 10% ในปีหน้า จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมราคาเป้าหมาย 27 บาท และราคาหุ้นยังคงมีมูลค่าน่าสนใจซื้อขายพี/อีที่ 8.6 เท่า ซึ่งเทียบกับกลุ่มที่ 10 เท่าเ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น