วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ตลท.ชี้MAXซื้อSA เข้าข่ายแบ็กดอร์ สั่งทำตามเกณฑ์

ตลท.ชี้MAXซื้อSA
เข้าข่ายแบ็กดอร์
สั่งทำตามเกณฑ์

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 05 พฤศจิกายน 2557 
MAX เผย IFA อยู่ระหว่างประเมินมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทและไซมิสฯ คาดจบเดือนนี้ พร้อมเดินทำตามกฎตลท. คาดที่ผู้ถือหุ้นไฟเขียวทำรายการเกี่ยวโยงได้ ฟากตลท.ชี้ชัดเข้าข่ายแบ็กดอร์ฯ จี้ต้องทำตามข้อกำหนด ขึ้นเครื่องหมาย NP ต่อ
แหล่งข่าวจากบริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาประเมินมูลค่าสินทรัพย์ที่ทั้ง 2 บริษัท ระหว่าง MAX และบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (SA) โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) คาดว่าจะสามารถประเมินได้เสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
หลังจากนั้นจะเตรียมนำเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ MAX ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2557 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป โดย SA จะนำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณากับผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าผู้ถือหุ้นของ MAX จะมีการอนุมัติให้ทำรายการที่เกี่ยวโยงกันของทั้ง 2 บริษัท เพราะ MAX มีสินทรัพย์ที่น้อยกว่า รวมถึงการดำเนินธุรกิจในอนาคตยังไม่ชัดเจน ซึ่งเมื่อ SA เข้ามารวมอยู่ด้วยก็จะทำให้ภาพรวมของธุรกิจ MAX เติบโตขึ้นได้อย่างชัดเจน
“เมื่อประเมินสินทรัพย์ทั้ง 2 บริษัทแล้ว ต้องมาดูว่าจะคุ้มค่าไหมที่จะซื้อขายกัน ผมเชื่อว่าผู้ถือหุ้น MAX จะอนุมัติให้ทำรายการอยู่แล้ว เพราะว่าตอนนี้ MAX ไม่มีสินทรัพย์อะไรเลย การที่ตลาดชี้แจงว่า MAX จะต้องทำรายละเอียดชี้แจงกรณีที่เข้าค่าย Backdoor นั้นอาจจะส่งผลให้มีการเจรจาล่าช้าออกไป เพราะจะต้องชี้แจงให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบเรื่อง ส่วนไซมิสไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วรอแค่ MAX ทำเรื่องให้ผ่าน” แหล่งข่าว กล่าว
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( ตลท.) รายงานว่า ตามที่ ตลท.ขึ้นเครื่องหมาย NP  หลักทรัพย์ของ MAX ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2557 พร้อมทั้งให้ MAX ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (SA) ซึ่งอาจพิจารณาได้ว่าเข้าข่ายเป็นการเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์โดยอ้อม (Backdoor Listing)  โดย MAX ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2557 ว่า MAX มีความเห็นว่าการซื้อหุ้นสามัญของ SA ไม่เข้าข่ายเป็นรายการ Backdoor Listing ตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์นั้น
ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาคำชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมของ MAX แล้วเห็นว่า การที่นายขจรศิษฐ์  สิ่งสรรเสริญ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 60% ของ MAX เมื่อเดือนกันยายน 2557 และต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท MAX เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2557 มีมติให้ขออนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อซื้อหุ้นสามัญ SA จากนายขจรศิษฐ์และผู้ถือหุ้นอื่น
โดยนายขจรศิษฐ์เป็นกรรมการและผู้มีอำนาจควบคุมใน SA และที่ผ่านมา MAX ประกอบธุรกิจค้าเหล็ก ซึ่งไม่ได้ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาก่อน จึงพิจารณาว่าการเข้าซื้อหุ้น SA ของ MAX เข้าข่ายเป็น Backdoor Listing เนื่องจากการได้มาซึ่งสินทรัพย์เป็นผลให้มีการโอนอำนาจการควบคุมจากผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทจดทะเบียนไปยังผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทที่มิใช่บริษัทจดทะเบียน
นอกจากนี้ หากคำนวณมูลค่าการเข้าซื้อหุ้นสามัญ SA เปรียบเทียบกับสินทรัพย์รวมก่อนที่ MAX จะเพิ่มทุนโดยเสนอขายให้นายขจรศิษฐ์ในเดือนมิถุนายนและกันยายน 2557 จะเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่า 100%
ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์จึงขอให้ MAX ดำเนินการให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียนและยื่นคำขอให้ตลาดหลักทรัพย์พิจารณาคุณสมบัติใหม่ (Relisting) โดย MAX จะต้องแจ้งแนวทางดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ในเรื่องดังกล่าว และตลาดหลักทรัพย์ยังคงขึ้นเครื่องหมาย  NP  หลักทรัพย์ของ MAX จนกว่า MAX จะดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น