วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ซีพีสนซื้อเทสโก้ในไทย มูลค่า3.2แสนล้านบาท


ซีพีสนซื้อเทสโก้ในไทย
มูลค่า3.2แสนล้านบาท

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2557
ผู้เข้าชม : 12 คน

"เจ้าสัวธนินท์" สนใจเข้าซื้อกิจการเทสโก้ โลตัสในไทย มูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.2 แสนล้านบาท คาดจะทำคำเสนอซื้อผ่านเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)
นานกว่า 15 ปี หลังจากที่ขายเชนซูเปอร์มาร์เก็ตในท้องถิ่นให้กับเทสโก้ไป  แหล่งข่าวกล่าวว่า เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์กำลังพิจารณาซื้อธุรกิจคืน ซึ่งในขณะนี้มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ (3.2 แสนล้านบาท)
ผู้ที่รับรู้โดยตรงเกี่ยวกับสถานการณ์เปิดเผยว่า นายธนินท์ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับธนาคารภายในประเทศแห่งหนึ่งเพื่อสำรวจถึงการเสนอซื้อเทสโก้ โลตัส
การเคลื่อนไหวนี้เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงสไตล์ในการทำข้อตกลงที่ฉกฉวยโอกาสของนายธนินท์ และย้ำให้เห็นถึงความมั่นใจของเขาต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและภาคค้าปลีกของไทย  และเทสโก้โลตัสจะเป็นธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่แห่งที่สองรองจากสยามแมคโครที่นายธนินท์ได้ซื้อคืน
ทั้งนี้ การทำคำเสนอซื้อใดๆ จะทำผ่านเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ซึ่งเคยเป็นหุ้นส่วนเริ่มแรกของเทสโก้เมื่อ 20 ปีก่อน   แหล่งข่าวซึ่งไม่ยอมเปิดเผยชื่อเพราะการเจรจาเป็นความลับ กล่าวว่า “ซีพีสนใจซื้อธุรกิจของเทสโก้ในประเทศไทย”  นอกจากนี้ยังกล่าวว่า วาณิชธนกิจรายอื่นๆ ได้ติดต่อนายธนินท์เช่นกันเพื่อเสนอ “สินเชื่อ” และให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อตกลงนี้
โฆษกของเครือเจริญโภคภัณฑ์กล่าวว่า ไม่รู้เกี่ยวกับแผนการของเทสโก้ ในขณะที่เทสโก้ไม่ยอมให้ความเห็น
เดฟ เลวิส ซีอีโอคนใหม่ของเทสโก้ ซึ่งมารับตำแหน่งได้ไม่ถึงสามเดือน กำลังต่อสู้กับเรื่องอื้อฉาวทางบัญชีและยอดขายในอังกฤษที่กำลังลดลงอย่างรุนแรง
บริษัทค้าปลีกอังกฤษ ซึ่งหุ้นปรับตัวลง 42% ในปีนี้ ยังไม่ได้ประกาศแผนการที่จะถอนตัวออกจากตลาดเอเชียใดๆ แต่นายธนาคารหลายคนกล่าวว่า  80% ของกำไรในช่วงครั้งปีแรกต้องนำไปชำระดอกเบี้ย จึงอาจจะบีบให้เทสโก้ต้องขายสินทรัพย์เพื่อชำระหนี้คืนและหลีกเลี่ยงไม่ให้อันดับความน่าเชื่อถือถูกลดเกรดลงไปอยู่ที่อันดับ “ขยะ”
นายธนาคารหลายคนกล่าวว่า ธนินท์อาจเจอการแข่งขันจากเจ้าสัวไทยคนอื่นๆ และบริษัทค้าปลีกระดับโลก หากเทสโก้ตัดสินใจขายธุรกิจ ยังไม่มีความชัดเจนโดยทันทีว่ากลุ่มอื่นๆ กำลังเตรียมที่จะเสนอซื้อหรือไม่
สถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเทสโก้อยู่ที่ว่า ต้องเก็บตลาดไทยที่มีการเติบโตเอาไว้หรือต้องทิ้งไปเพื่อเอาเงินสด เทสโก้ได้ลดขนาดในเอเชียลงแล้ว โดยได้แยกธุรกิจในจีนออกไปในปีนี้ให้กับบริษัทร่วมทุนและยังคงดำเนินงานแค่ในเกาหลีใต้ มาเลเซียและอินเดีย
ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า  เทสโก้อยู่ในอันดับสองของประเทศไทยโดยเป็นรองบริษัทเซเว่น แอนด์ ไอ ของญี่ปุ่น  ธุรกิจในไทยถือเป็นธุรกิจที่มีความสดใส ในขณะที่ยอดขายในที่อื่นๆของโลตัสมืดมน โดยได้สร้างรายได้ 3% ของการเติบโตในปีที่แล้ว
ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชันแนลคาดการณ์ว่า ตลาดของชำของประเทศไทยจะโต 35% เป็น 2.355 ล้านล้านบาทภายในปี 2562  หากเทสโก้มีการเติบโตของรายได้ 6.2% ในปี 2558 ยอดขายของเทสโก้จะอยู่ที่ 4,080 ล้านปอนด์  นั่นจะตีมูลค่าธุรกิจในไทยที่ 9,600 ล้านดอลลาร์  หรือ 1.5 เท่าของราคาต่อยอดขาย ซึ่งบิ๊กซี ซูเปอร์เซนเตอร์ ที่เป็นคู่แข่งในท้องถิ่นซื้อขายอยู่
เทสโก้ซื้อหุ้นโลตัสจากธนินท์เมื่อปี 2541 หลังจากที่เกิดวิกฤติการเงินเอเชีย โดยจ่ายเงินไป 206 ล้านปอนด์ การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับนายธนินท์  อาณาจักรธุรกิจของเขา รวมถึงหุ้นมูลค่า 9,500 ล้านดอลลาร์ในบริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์ กรุ๊ป ในประเทศจีน  หลังจากที่ขายสยามแมคโครในปี 2541 เขาได้ซื้อแมคโครคืนเมื่อปีที่แล้วในราคา 6,600 ล้านดอลลาร์  หรือ 53 เท่าของกำไรในปี 2555
วาณิชธนกิจเอ็มแอนด์เอในเอเชียคนหนึ่งกล่าวว่า “เทสโก้ได้รับการทาบทามหลายครั้งในอดีต โดยเฉพาะจากเศรษฐีไทยหลายคน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้ซื้อให้สิ่งที่พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธได้หรือไม่”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น