วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

‘เคทีซี’กำไรทะลัก63% ลั่น!ชิงเบอร์1กลับคืน

‘เคทีซี’กำไรทะลัก63%
ลั่น!ชิงเบอร์1กลับคืน

ข่าวหน้าหนึ่ง วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2557 

 

บัตรกรุงไทย (KTC) คว้ากำไรไตรมาส 3 กว่า 504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% ส่วนเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นเป็น 3.4% จาก 2.4% เดินหน้าสร้างรากฐานการเติบโต หวังขึ้นเบอร์ 1 ในปี 61
นายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส Corporate Finance บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC กล่าวว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 504 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/56 ที่ทำได้ 308 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 7% หากเทียบกับไตรมาส 2/57 ที่ทำได้ 471 ล้านบาท โดยไตรมาสนี้มีอัตราการเติบโตปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ 7.5% สูงกว่าอุตสาหกรรมที่มีอัตราการขยายตัวที่ 7.3%
ด้านลูกหนี้สินเชื่อบุคคลสุทธิขยายตัว 12% จากงวดเดียวกันปีก่อนจาก 13,400 ล้านบาท เป็น 14,951 ล้านบาท และควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ได้ดี โดย NPL ลดลงเหลือ 2.7% จากเดิม 3.9% จากงวดเดียวกันปีก่อน
ส่วนหนี้สงสัยจะสูญไตรมาสนี้มีจำนวน 1,159 ล้านบาท ลดลง 5% จากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากคุณภาพพอร์ตที่ดีขึ้น โดยรายได้หนี้สูญได้รับคืน 452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือมีจำนวน 3,624 ล้านบาท และรักษาระดับสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้สุทธิเท่ากับ 27.4% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 15.1% จาก 14.2%
อย่างไรก็ตาม ถ้า 9 เดือนบริษัทสามารถทำกำไรได้ 1,330 ล้านบาท เติบโต 65% โดยมีรายได้รวม 3,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 3,293 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีค่าใช้จ่ายบริหารงาน 1,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้น
แต่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายทางการเงินให้ลดลง 5% รวมถึงหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง 2% เป็นผลให้ค่าใช้จ่ายรวมบริษัทอยู่ที่ 2,989 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 3% ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 504 ล้านบาท โดยมีรายได้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้น 5% หรือ 768 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายได้ในการเบิกเงินสดล่วงหน้า รายได้ค่าธรรมเนียมส่วนลดจากร้านค้า และรายได้ค่าธรรมเนียมจากการติดตามหนี้
ด้านเงินกู้ยืมมีทั้งสิ้น 39,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีโครงสร้างแหล่งเงินทุนมาจากทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งในระยะสั้นมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน 347 ล้านบาท สถาบันการเงินอื่น 8,491 ล้านบาท
สำหรับระยะยาวมาจากการกู้ยืม 5,200 ล้านบาท และจากหุ้นกู้ 25,300 ล้านบาท โดยมีการกระจายแหล่งที่มาเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ของไทยและต่างชาติ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกัน และกองทุนต่างๆ ซึ่งมีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ 24,990 ล้านบาท ประกอบด้วย วงเงินจากธนาคารกรุงไทย 18,030 ล้านบาท และอีก 6,960 ล้านบาท มาจากธนาคารพาณิชย์อื่น โดยมีต้นทุนทางการเงินลดลงมาอยู่ที่ 4.55% ซึ่งบริษัทมีอัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 6.32 เท่า โดยต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ 10 เท่า
“บริษัทวางแผนในการเป็นที่ 1 ในธุรกิจบัตรเครดิตภายในปี 61 และมีแผนระยะยาว 5 ปี เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายในอนาคต สำหรับปี 57 เป็นปีแรกที่สร้างฐานการเติบโตเพื่อไปสู่เป้าหมาย”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น