วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พุ่มพันธุ์ม่วง ในวงการหุ้นที่ผ่านมา

เปิดแฟ้มเส้นทางซื้อกิจการ “พุ่มพันธุ์ม่วง”

รายงานพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 06 พฤศจิกายน 2557 
ผู้เข้าชม : 0 คน 

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้เป็นแค่ตำรวจอาชีพที่รุ่งเรืองในหน้าที่ราชการเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้าอันดับกับเขาด้วย
ไม่มีใครรู้ว่า ผบ.ตร. ทำการลงทุนในตลาดหุ้นมานานมากน้อยแค่ไหน แต่บทบาทในปี 2557 ทั้งในนามของตนเอง และกลุ่ม หรือ คนในตระกูลเดียวกัน ถือว่าโดดเด่นน่าสนใจอย่างยิ่ง
อย่างน้อยล่าสุด นอกจากมีชื่อในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดใน บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI ยังอยู่ในรายชื่อผู้ที่ได้รับการจัดสรรเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงให้กับ 3 บริษัทที่มีปัญหาการเงิน และต้องการทุนใหม่เข้ามาเทิร์นอะราวด์บริษัท โดยชื่อของพล.ต.อ. สมยศ ปรากฏเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์จองซื้อหุ้นระดับหัวแถว ซึงหากดีลสำเร็จ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดอื่นๆ ใด จะเป็นการเข้าเทกโอเวอร์กิจการที่มีผลต่ออนาคตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
บทบาทนักลงทุนรายใหญ่ที่เข้ามาอัดฉีดทุนกอบกู้บริษัทเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย ถึงแม้จะมีคนที่มองโลกในทางร้ายหลายคน พยายามคุ้ยแคะว่า เอาเงินทุนก้อนใหญ่มาจากไหน แต่ในฐานะของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังมีปัญหาต้องการเงินสดเข้ามาเสริมสภาพคล่อง การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว คือการเข้ามาโอบอุ้มให้กิจการฟื้นตัวขึ้นมาทำธุรกรรมเป็นปกติเพื่อผู้ถือหุ้นอีกครั้ง
ล่าสุด “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ส่งลูกสาวใช้สิทธิซื้อหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงใน บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MLINK หลังเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กว่า 7.90% พ่วงด้วยขาใหญ่ นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย และนายมานิต  มัสยวานิช  ร่วมในกระบวนการซื้อหุ้นด้วย ผู้บริหารระบุใช้เงินเพิ่มทุน 1,350 ล้านบาท จ่ายคืนหนี้ระยะสั้นธนาคาร 2 แห่ง 600 ล้านบาท ที่เหลือใช้ขยายลงทุนและแตกไลน์ธุรกิจอื่นๆ เพิ่ม
โดยราคาเสนอขายให้ PP จำนวน 1,250 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท เนื่องจากเป็นราคาที่เกิดจากการเจรจาระหว่างบริษัทกับนักลงทุน อีกทั้งเป็นราคาที่สูงกว่ามูลค่าทางบัญชีล่าสุด (30 มิ.ย. 57) ที่มีมูลค่า 0.29 บาท และสูงกว่ามูลค่าสิ้นปี 2556 ที่ 0.40 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนและการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม (จำนวนรวม 1,358.00 ล้านบาท ไม่รวมเงินที่จะได้รับจากการซื้อหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิในการซื้อหุ้นของใบสำคัญแสดงสิทธิ) เพื่อชำระหนี้ระยะสั้นให้เจ้าหนี้สถาบันการเงินประมาณ 600 ล้านบาท โดยหนี้สินระยะสั้นนี้เกิดจากการกู้ยืมเงินของบริษัทจากเจ้าหนี้สถาบันการเงิน 2 แห่ง โดยชำระหนี้ภายในไตรมาส 1 ปี 2558
พร้อมกันนี้เพื่อขยายธุรกิจเดิมประมาณ 400 ล้านบาท โดยการขยายสาขาเพิ่มเติมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท คาดว่าจะใช้เงินเพิ่มทุนภายใน 12 เดือนนับจากวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนครั้งนี้ และเพื่อขยายธุรกิจไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างต่อเนื่องประมาณ 358 ล้านบาท
นอกจากนี้ บอร์ดมีมติโอนทุนสำรองจากการจัดสรรตามกฎหมาย และทุนสำรองส่วนล้ำมูลค่าหุ้น (ส่วนเกินมูลค่าหุ้น) เพื่อล้างผลขาดทุนสะสม โดยโอนทุนสำรองจากการจัดสรรตามกฎหมาย 54 ล้านบาท และโอนทุนสำรองส่วนล้ำมูลค่าหุ้น (ส่วนเกินมูลค่าหุ้น) จำนวน 494 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมบริษัท 548 ล้านบาท โดยหลังจากโอนทุนสำรองดังกล่าว เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมแล้วทำให้บริษัทมียอดขาดทุนสะสมเหลืออยู่ 385.14 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สมยศ และคนในตระกูลเดียวกัน มีชื่อว่าได้รับสิทธิ์ (ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจานักลงทุนรายใหญ่ร่วมใส่เงินเพิ่มทุนก้อนโต) ในบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน)หรือ AQ หลังจากที่บริษัทฯได้จัดประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2557 และมีมติอนุมัติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในส่วนเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัดตามที่บริษัทฯได้รับอนุมัติจากมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2557 คณะกรรมการได้อนุมัติการจัดสรรให้กับบุคคลโดยเฉพาะเจาะจงจำนวน 3,500 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.342 บาทเท่ากัน  ให้กับนักลงทุน 2 ราย  รวมมูลค่า 1,197 ล้านบาท ประกอบด้วย นายนิรันดร์ เหตระกูล (ประกอบธุรกิจส่วนตัว) จำนวน 1,000 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 342 ล้านบาท พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง (รับราชการตำรวจ ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ.10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ) จำนวน  2,500 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 855 ล้านบาท
เงินลงทุนดังกล่าว ได้รับเงื่อนไขพิเศษไม่เข้าเกณฑ์ในการทำ Tender Offer วันจองซื้อและชำระค่าหุ้น วันที่10 ต.ค. 2557 ราคาที่ขายหุ้นให้กับผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจงเป็นราคาหุ้นละ 0.342 บาทต่อหุ้นซึ่งสูงกว่าราคาที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมคือ ราคาหุ้นละ 0.32 บาทต่อหุ้น (โดยจะมีการจองซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมในช่วงวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2557)
ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นในคราวนี้หากบริษัทได้รับเงินทุนดังกล่าวก็จะมีผลประโยชน์ค่อนข้างมากเพียงพอสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถที่จะเติบโตและสร้างกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้ โครงการที่จะต้องใช้เงินจากการจัดสรรให้กับบุคคลโดยเฉพาะเจาะจงในคราวนี้ ได้แก่ โครงการอพาร์ตเมนต์โรงพยาบาลกรุงเทพ มีมูลค่าก่อสร้างประมาณ 445 ล้านบาท
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ และคนในตระกูล พุ่มพันธ์ม่วง ยังมีชื่อปรากฏในรายชื่อผู้ที่ได้รับสิทธิซื้อหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงร่วมกับนักลงทุนรวม 11 ราย  ใน  บริษัท วธน แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ WAT จากการซื้อหุ้นเพิ่มทุนล่าสุด โดยหากดีลสำเร็จ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนถือครองหุ้นเพิ่มเติม ก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ราคาเสนอขายหุ้น WAT อยู่ที่ 0.036 บาทต่อหุ้น กำหนดจากราคาไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาปิดถ่วงน้ำหนักของหุ้นบริษัท 7 วัน ที่หุ้นมีราคาปิดเฉลี่ยที่ 0.04 บาท  โดยมีเงื่อนไขกำหนดการชำระเงินค่าหุ้นภายในวันที่ 30 พ.ย.57
แผนการใช้เงินจากการเพิ่มทุนของ  WAT ระบุว่า เพื่อใช้รองรับโอกาสการลงทุนในอนาคตโดยเน้นการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  รวมถึงมองหาโอกาสการลงทุนธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดอย่างคงที่  เพื่อสร้างรายได้  กระจายความเสี่ยง  และขยายฐานธุรกิจ   อีกทั้งเพื่อใช้บริหารสภาพคล่อง  และกระแสเงินสดของบริษัทด้วย
การเข้าซื้อกิจการที่มีปัญหาทางการเงินในราคาต่ำ เป็นโมเดลการลงทุนในลักษณะเดียวกันก่อนหน้าที่ พล.ต.อ.สมยศ และคนในตระกูล ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ PICNI อย่างเป็นทางการ หลังจากวันที่ 23 เมษายน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาดำเนินการควบรวมกิจการ ระหว่าง PICNI และบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด (WG)  และได้รับอนุมัติล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ PICNI และ บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด (WG) ในวันที่ 31 ตุลาคม 2557
มติควบรวมทรัพย์สินดังกล่าว ทำให้เกิดบริษัทใหม่ขึ้นมาแทนที่ PICNI คือ บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)  ซึ่งมีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 2,760,565,700 บาท โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 2,760,565,700 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเท่ากับทุนชำระแล้วทั้งหมดของ PICNI และ WG รวมกัน และมีทุนชำระแล้วเท่ากับ 2,760,565,700 บาท
การเปลี่ยนแปลงจาก PICNI และ WG มาเป็นบริษัทใหม่ ทำให้มีการปรับปรุงสัดส่วนการถือครองหุ้นบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ PICNI และผู้ถือหุ้นของ WG ในอัตราส่วนดังนี้ คือ 1 หุ้นเดิมใน PICNI ต่อ 0.452795821 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน WGต่อ 70.729660964 หุ้นในบริษัทใหม่
ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยังมีมติให้ บริษัทใหม่จ่ายเงินชดเชยให้กับนายพิศาล พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นมูลค่าเท่ากับจำนวนเศษหุ้นที่ถูกปัดทิ้งคูณด้วย 2.21 บาทต่อหนึ่ง โดยบริษัทใหม่จะทำการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวให้แก่นายพิศาล พุ่มพันธุ์ม่วงภายใน 14 วันทำการนับจากวันจดทะเบียนการควบรวมบริษัท
ตำนานอันยาวนานของการเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ PICNI และ WG  ของกลุ่ม พล.ต.อ.สมยศ (ช่วงหนึ่งเรียกว่ากลุ่มเวิลด์แก๊ส) มีเส้นทางที่วกวนกับปฏิบัติการ “ทิ้งซากแพะ” หลังจากที่ PICNI มีปัญหาการเงินจากการจากไปพร้อมกับปัญหาหมักหมมในยุคตระกูลลาภวิสุทธิสินนานหลายปี
พล.ต.อ. สมยศ และกลุ่ม อ้างตนเป็นเจ้าของ WG ผ่านบริษัท แอสเซ็ท มิลเลียน จำกัด หรือ AMC  (ขณะนั้น พล.ต.ท.สมยศ ระบุว่า ตนถือหุ้น 50%) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มเวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) อดีตบริษัทที่เคยถูก PICNI เข้าซื้อกิจการและเป็นที่มาของความล่มสลายของบริษัทมาก่อน แต่บัดนี้ บริษัทดังกล่าวได้กลายสภาพมาเป็นผู้ครอบครองสินทรัพย์บางส่วนของ PICNI ทั้งที่เป็นหุ้น และที่ดิน หรืออื่นๆ ที่มีปัญหาขัดแย้งทางกฎหมายกับ PICNI เองหลายคดี
ในชั้นแรก มีผู้อ้างตัวเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ AMC ถึง 2 กลุ่ม ระหว่าง กลุ่มตำรวจนอกราชการนำโดย นางวิมลรัตน์ กุลดิลกกับกลุ่ม พล.ต.ท.สมยศ (ยศขณะนั้น) จึงเกิดการแย่งยื้อกิจการของ AMC กันในศาลหลายปี ก่อนที่สำนักงานอัยการพิเศษ คดีพิเศษ 4 ก็ตัดสินให้กลุ่ม พล.ต.อ.สมยศชนะคดีในวันที่ 16 มกราคม 2556  ซึ่งเปิดทางให้กลุ่มนี้ทำการเจรจาหาทางออกให้กับ PICNI
แนวทางของพล.ต.อ.สมยศ และกลุ่มที่ชัดเจน คือ พยายามดำเนินการให้หุ้น PICNI กลับมาซื้อขายก่อนที่จะนำเวิลด์แก๊ส และ PICNI ควบรวมกิจการกับ WG เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กิจการ แต่มติล่าสุดก็เปลี่ยนแปลงแผนเดิมไปคือ ควบรวมกันเป็นบริษัทใหม่ โดยไม่ต้องรอแต่งตัว WG เข้าตลาด
เส้นทางการลงทุนดังกล่าว ไม่มีความชัดเจนมากนัก ว่า พล.ต.อ.สมยศ และตระกูลพุ่มพันธุ์ม่วง จะเป็นนักเทกโอเวอร์กิจการที่มีปัญหาเพื่อฟื้นคืนกิจการ เพื่อ “หาอะไรทำหลังเกษียณ” หรือ จะมีการกระจายหุ้นไปให้กับผู้อื่นก่อนการใช้สิทธิ์ซื้อขายจริงตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทตาม “มันนี่ เกม” ปกติ
จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น