วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

ฝ่าลมร้อนไปรัสเซีย-เช็ก


ฝ่าลมร้อนไปรัสเซีย-เช็ก

คอลัมน์ วันอังคารที่ 23 เมษายน 2556 
ผู้เข้าชม : 9 คน 



ช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ ผมได้รับเชิญจากคณะกรรมการกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปดูงาน ตลาดไฟฟ้าเสรี” ที่รัสเซีย และสาธารณรัฐเช็กเป็นเวลา 7 วัน
อากาศกรุงเทพฯที่ร้อนระอุเป็นคนละเรื่องกับอากาศที่รัสเซีย ซึ่งแม้กลางวันแดดเปรี้ยง อุณหภูมิก็ไม่เกิน 7องศา แถมกลางคืนติดลบ
หิมะยังไม่ละลายดี ถนนหนทางยังเป็นโคลนเลนอยู่หลายสาย รถราที่นี่เหมือนพอกโคลน เพราะล้างไปเดี๋ยวก็ติดโคลนติดเลนมาอีก
จนมีคำพูดติดตลกว่า ที่ชาวรัสเซียเขาไม่ล้างรถกันตอนนี้ ก็เพื่อจะให้โคลนพอกป้ายทะเบียนรถ ตำรวจจะได้จับกุมไม่ได้ เพราะชาวรัสเซียชอบขับรถฝืนกฎจราจร
นครหลวงมอสโคว์ มีประชากรอาศัยอยู่ถึง16ล้านคน รถราจึงติดหนึบทั้งวัน แม้จะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าใต้ดินเป็น 200 สถานี ความยาวเป็น 400-500 ก.ม. แต่รถก็ยังติดเป็นตังเมตลอดทั้งวัน
คาดคะเนแผนการจราจรใดๆ มิได้เลย
ผู้คนยังหน้าตาถมึงทึง ไม่ค่อยมีรอยยิ้ม แต่สาวๆ รัสเซียสวยมาก หุ่นเป็นนางแบบแทบทุกคน แต่เขาบอกว่า ถ้าอายุ 30 ปีเลยขึ้นไปแล้ว หุ่นมักจะกระเดียดไปทางตุ่มน้ำ
สิ่งที่ขาดเสียมิได้เลยสำหรับรัสเซียก็คือ จตุรัสแดงและพระราชวังเครมลิน ที่เป็นรูปทรงหัวหอมหลากสี
ยิ่งได้เข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์ที่แสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จะเกิดความรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรรัสเซียโบราณในยุคนั้น
มีทั้งข้าวของบรรณาการที่มาจากประเทศราช และพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันทั้งจาก ราชสำนักอังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน ออสเตรีย ข้าวของแต่ละชิ้นล้วนเป็นโลหะเงิน ทอง และเพชรเม็ดใหญ่ๆ ทั้งสิ้น
สำหรับสาธารณรัฐเช็ก อากาศขณะนี้น่าเที่ยวมาก เป็นฤดูกาลใบไม้ผลิเต็มตัว อุณหภูมิร้อนที่สุดก็แค่ 22-23 องศา และเย็นที่สุดในตอนกลางคืนก็ประมาณ 1-2 องศา เรียกว่าเย็นสบายตลอดวัน
บ้านเมืองสวยงาม ผู้คนแย้มยิ้มมีอัธยาศัยดี ไปอยู่ใต้การปกครองของฮิตเลอร์รวม 10 ปี และเป็นคอมมิวนิสต์ภายใต้อิทธิพลโซเวียตเสีย 50 ปี แต่บ้านเมืองเช็กทุกวันนี้ ดูจะเป็นเสรีนิยมแบบยุโรปเสียมากกว่า
ในบรรดาประเทศสังคมนิยมยุโรปตะวันออกด้วยกัน สาธารณรัฐเช็กดูจะเจริญก้าวหน้าไปมากกว่าชาติอื่นๆ
ถือเป็นชาตินักคิดทางอุตสาหกรรม ที่กระเดียดไปทางเยอรมนีมากกว่ารัสเซีย
คุณอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงที่ร่วมคณะไปด้วยกันยังบอกว่า เมื่อก่อนหม้อแปลงการไฟฟ้า เครื่องมืออุปกรณ์การไฟฟ้าทั้งหลายแหล่ของไทย ก็ยังพึ่งพาการนำเข้ามาจากเช็ก
รถยนต์ตามถนนที่ใช้ในเช็คทุกวันนี้ ก็ยังมีรถยี่ห้อ สโกด้า” อันเป็นรถประจำชาติเป็นยี่ห้อหลักในสัดส่วนราวสัก 30-40%
เศรษฐกิจหลักของเช็กมาจากอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว รายได้จากภาคเกษตรกรรมมีเป็นส่วนน้อย แต่บ้านเมืองก็ยังสวยงามดี
พลาดไม่ได้เลยสำหรับการเยี่ยมเยือนเช็กก็คือ เครื่องแก้วโบฮีเมียนจากเช็ก ปราสาทแห่งกรุงปราก และ
มหาวิหารเซนต์วิตัส อันมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก
ไปเช็กช่วงนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่า ยังได้เห็นดอกซากุระบาน ขณะที่ซากุระในญี่ปุ่นนั้น หยุดผลิบานไปหมดแล้ว
หลังคาบ้านเรือนในเขตใจกลางเมือง พร้อมใจกันเป็นหลังคาสีแดงไปหมด แทบจะเป็นสัญลักษณ์บ้านเมืองของปรากไปแล้ว
การแยกประเทศออกเป็น 2 ส่วน เป็นเช็กและสโลวาเกีย ก็เป็นไปตามขบวนการสันติโดยการเห็นชอบร่วมกันจากประชาชนทั้งสองฝ่าย
ไม่มีเหตุการณ์สงครามการเมืองเหมือนในอดีตยูโกสลาเวีย และสาธารณรัฐโซเวียต จึงเป็นเมืองที่สงบเรียบร้อย น่าอยู่ และมีอนาคตอย่างมากในประชาคมยุโรป
ผมคงต้องขอเวลาเล่าเรื่องการดูงาน ตลาดไฟฟ้าเสรี” ในอดีตประเทศสังคมนิยมนี้ในภายหลัง

โดย...ชาญชัย  สงวนวงศ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น