วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2556

TASCO ผงาดรับ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท 28-3-2013

นักวิเคราะห์ตบเท้าออกโรงเชียร์เก็งกำไรหุ้น TASCO รับอานิสงส์สภาผู้แทนราษฎร พิจารณารับหลักการ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ระบุหากไฟเขียวส่งผลบวกเต็มๆ ส่วนยอดขายยางมะตอยของบริษัทปี 56 คาดทำสถิติสูงสุดใหม่ พร้อมปรับกำไรขึ้นอีก 13% หรือเป็น 839 ล้านบาท ด้านหัวเรือใหญ่ "ชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์" ทุ่มงบ 2 พันลบ.ขยายกำลังการผลิตแถมการันตีรายได้โต 10% จากปีก่อนทำได้ 3.8 หมื่นลบ. 

***MBKET แนะลุย TASCO ดักพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทเข้าสภา 
          บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง จะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐและเชื่อว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มตอบรับเชิงบวก หากสภาผู้แทนราษฎร พิจารณารับหลักการ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะนำเข้าพิจารณาระหว่างวันที่ 28-29 มีนาคม 2556 โดยฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อยอดขายยางมะตอยในปี 2556 ของ TASCO ที่คาดว่าจะทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อน เติบโต 15% เป็น 1.52 ล้านตัน และเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านตันภายในปี 2558        ขณะที่ต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างผันผวนและเป็นจุดด้อยของบริษัทในอดีต เชื่อว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ลดลงแล้ว หลังเปลี่ยนมาใช้วิธี Four ways collar option ในการป้องกันความเสี่ยงของราคาวัตถุดิบ และราคาน้ำมันดิบ BRENT ที่ปรับตัวลงจาก US$119.12/barrel ช่วงต้นเดือน ก.พ. เหลือ US$109.87/barrel จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทลดลงเช่นกัน ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์จึงคาดว่ากำไรสุทธิปี 2556 จะเติบโตสูงถึง 61% เป็น 1,037 ล้านบาท และยังมีแวลู่เคชั่น ที่ค่อนข้างต่ำ โดยซื้อขายระดับ PER 2556 เพียง 9.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ 15-16 เท่า และดัชนีฯ ที่ 14 เท่า จึงแนะนำนักลงทุนเล่นเก็งกำไรหุ้น TASCO โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 76 บาทต่อหุ้น 

***ASP ปรับกำไรปี 56 ของ TASCO ขึ้นอีก 13% รับอนาคตสดใส
          บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่าประสบการณ์ในการจัดหาน้ำมันดิบจากหลายแห่งทั่วโลก สำหรับใช้ในโรงกลั่นยางมะตอยของ TASCO รวมไปถึงความมั่นใจในมาตรการล่าสุดที่ใช้ปกป้องความเสี่ยงจากราคาน้ำมันดิบที่ผันผวน ทำให้ปีนี้ TASCO ตั้งเป้าที่จะเพิ่มปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเป็น 8 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่นำเข้ามา 7.2 ล้านบาร์เรล โดยตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน มีการสั่งซื้อน้ำมันดิบไปแล้ว 3.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งยางมะตอยที่ผลิตได้ทั้งหมดจะถูกส่งขายในตลาดเอเชียแปซิฟิกและจีน ขณะที่ยอดขายยางมะตอยในประเทศ คาดจะเติบโต 7-8% YoY ตามตัวเลขงบประมาณของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ซึ่งจะทำให้ยอดขายยางมะตอยในปี 2556 ของ TASCO อยู่ที่ 1.52 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14%YoY สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของประเทศ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างถนนประมาณ 2.4 แสนล้านบาท ประเมินว่าจะมีมูลค่าของยางมะตอยราว 2.4 หมื่นล้านบาท ทยอยเบิกจ่ายในช่วง 5 ปี น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้ TASCO ได้อีกปีละ 1.8-2 พันล้านบาท คำนวณจากส่วนแบ่งการตลาด Asphalt Cement ในปัจจุบันที่มีอยู่ 40%         ส่วนแผนการลงทุนในปีนี้ของ TASCO มีกว่า 2 พันล้านบาท โดยเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรงกลั่นยางมะตอย 900 ล้านบาท ประกอบไปด้วยการขยายกำลังการผลิตขึ้นอีก 20% (เสร็จ 4Q56) การก่อสร้างถังเก็บผลิตภัณฑ์เพิ่มและการเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงจากน้ำมันเตาเป็น NGV ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการกลั่นลงได้ 0.5-0.8 เหรียญฯ/บาร์เรล หรือ 4 ล้านเหรียญฯ/ปี (เสร็จ เม.ย. 56) นอกจากนี้ TASCO ยังมีแผนที่จะต่อเรือขนส่งใหม่อีก 1 ลำ มูลค่า 550 ล้านบาท สำหรับขนส่งน้ำมันดิบที่ TASCO มีแผนทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับซัพพลายเออร์ ซึ่งการลงทุนรอบใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อรองรับเป้าหมายยอดขายยางมะตอยสู่ระดับ 2 ล้านตัน ในปี 2558         สำหรับทิศทางธุรกิจที่สดใสมากขึ้น จากงบประมาณภาครัฐที่จะมีออกมาในอนาคต รวมถึงการขยายตลาดในต่างประเทศ ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2556 ขึ้นจากเดิมอีก 13% เป็น 839 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาเป้าหมายที่ประเมินโดยอิง PER 14 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 65.50 บาท เป็น 74 บาท มีอัพไซด์จากราคาปัจจุบันอีก 16% ฉะนั้นจึงคงคำแนะนำซื้อหุ้นดังกล่าว 
***บล.โกลเบล็ก แนะเก็บ TASCO เข้าพอร์ต
        บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่าแนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้น TASCO โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 86 บาทต่อหุ้น เพราะประเมินว่า Urbanization สร้างทางหลวงเชื่อม เหนือ ใต้ ออก ตก รองรับ AEC ทำให้อุปสงค์ พร้อมๆ กับประชานิยม ซึ่งจะนำความเจริญสู่ชนบท หนุนอุปสงค์ ส่วนประสิทธิภาพของโรงกลั่นที่มาเลเซียเพิ่มสู่ระดับ 8 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อการส่งออก และความสามารถในการจัดหาน้ำมันดิบเพื่อการผลิตยางมะตอย เพื่อการส่งออกไปยังอินโดนีเซีย-ออสเตรเลีย จะกระตุ้นการเติบโต ขณะที่ลดความเสี่ยงจากจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก อีกทั้งคาดว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และมีเสถียรภาพ ซึ่ง ความสามารถในการ Hedging จะหนุนมาร์จิ้นให้ปรับตัวเกิน 6.5% ตลอดทั้งปี ทำให้ คาดว่ากำไรปี2556 และ ปี2557 ที่ 1,096 -1,260 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13-14EPS ที่ 7.16/8.24 บาท/หุ้น 

***TASCO ทุ่มงบลงทุนปีนี้ 2 พันลบ.ขยายกำลังการผลิต 
        นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยว่าในปีนี้บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตยางมะตอยและปรับปรุงกิจการในด้านต่างๆ ส่วนปริมาณยอดขายยางมะตอยในปี 2556 บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% หรืออยู่ที่ 1.52 ล้านตัน และตั้งเป้ารายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 4.2 หมื่นล้านบาท จากปี 2555 ที่ 3.84 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ตั้งเป้าการซื้อน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านบาร์เรล เพื่อรองรับปริมาณความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นและปัจจุบันได้ซื้อมาแล้วทั้งสิ้น 3.5 ล้านบาร์เรล         สำหรับแผนลงทุนในปีนี้บริษัทฯ จะขยายกำลังการผลิตโรงกลั่นที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 30,000 บาร์เรล/วัน จากเดิม 25,000 บาร์เรล/วัน หรือเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 20% โดยคาดว่าจะเสร็จในไตรมาส 4/2556 และเริ่มผลิตได้เต็มที่ต้นปี 2557 ส่วนปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 90% แล้ว จึงจำเป็นต้องมีการขยายเพิ่ม เพื่อรองรับปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต        นอกจากนั้น ยังมีแผนปรับปรุงระบบพลังงานในโรงกลั่นจากการใช้น้ำมันเตาเป็นแก๊สธรรมชาติ ซึ่งในช่วงเดือนเม.ย.2556 จะเริ่มดำเนินการระบบการผลิตเป็นรูปแบบการใช้แก๊สธรรมชาติ โดยการใช้แก๊สธรรมชาติจะช่วยให้ต้นทุนของบริษัทฯ ลดลงประมาณ 0.50-0.80 ดอลลาร์/บาร์เรล อีกทั้งจะมีการซื้อที่ดิน สร้างถังเก็บน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป รวมทั้งซื้อเรือใหม่ เพื่อใช้บรรทุกน้ำมันดิบ โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 550 ล้านบาท ก่อน ส่วนที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้สั่งต่อเรือขนาดบรรทุก 4,000 เดทเวทตันสำหรับบรรทุกยางมะตอย ใช้วงเงินกู้จากธนาคารยูโอบีประเทศมาเลเซียประมาณ 80% ของมูลค่าเรือ โดยได้สั่งไปเมื่อเดือน พ.ย. 2555 และคาดว่าจะได้รับมอบเรือในช่วงปี 2557
***TASCO คาดยอดขาย Q1/56 ทรงตัว 
        นายชัยวัฒน์ กล่าวว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2556 คาดว่ายอดขายจะทรงตัว เนื่องจากจีนยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว แต่ตั้งแต่เดือน เม.ย.2556 เป็นต้นไป ทำให้ไม่มีการก่อสร้างต่าง ๆ ประกอบกับราคาซื้อขายยางมะตอยตลาดภายในประเทศและต่างประเทศขณะนี้ยังทรงตัวอยู่ แต่คาดว่าราคาซื้อขายยางมะตอยจะมีการขยับขึ้นเมื่อพ้นฤดูหนาว หรือเข้าสู่ฤดูทำงานที่จะมีการก่อสร้างถนนในจีนเพิ่มขึ้น ทำให้มีดีมานเด์พิ่มขึ้นและราคาจะเริ่มปรับขึ้นตามไปด้วย
 
 
  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น