หุ้นเครือญาตินายกฯพุ่ง เอ็มลิ้งค์เพิ่ม168%
ปิดฉากไตรมาสแรกหุ้นกลุ่มตระกูลการเมืองพุ่งแรง กลุ่มเครือญาติ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ทะยานถ้วนหน้า เอ็มลิ้งค์กระฉูด 168.16%
จากการสำรวจข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในไตรมาส 1/2556 พบว่า หุ้นกลุ่มเครือญาติ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปรับตัวเพิ่มขึ้นคึกคัก โดยเฉพาะหุ้นเอ็มลิ้งค์ (MLINK) ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บุตรของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวของนายกรัฐมนตรี โดยราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 168.16% จากราคา 1.79 บาทเพิ่มขึ้นเป็น 4.80 บาท ขณะที่หุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) เพิ่มขึ้น 14.78% จากราคา 28.75 บาท เป็น 33 บาท
ขณะที่หุ้นกลุ่มตระกูลดังทางการเมืองรายอื่นๆ เช่น หุ้นแนเชอรัลพาร์ค (N-PARK) ซึ่งเป็นของตระกูลมาลีนนท์ เพิ่มขึ้น 266.67% จากราคา 0.06 บาท เพิ่มเป็น 0.22 บาท หุ้นเวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WAVE) เพิ่มขึ้น 58.47% จากราคา 18.80 บาท เป็น 29 บาท และ หุ้นบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ของตระกูลชาญวีรกูล เพิ่มขึ้น 5.50% จากราคา 27.25 บาท เป็น 28.75 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า ไตรมาสแรกหุ้นที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีแรงเก็งกำไร แต่ไม่มีพื้นฐานรองรับ ขณะเดียวกันหุ้นในกลุ่มตระกูลการเมืองหลายตัวก็ปรับตัวขึ้นแรง เพราะว่านักลงทุนที่เข้ามาลงทุน คาดหวังว่าน่าจะได้รับอานิสงส์จากโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ซึ่งไม่ได้แนะนำให้เข้าไปลงทุน หรือร่วมวงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากหุ้นบางตัวไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ รวมทั้งไม่มีโบรกเกอร์ที่ให้คำแนะนำการลงทุน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร เป็นหนึ่งในกลุ่มที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากประเด็นทางการเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้จะเห็นว่าราคาหุ้นถูกกดดันจากประเด็นทางการเมือง แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายและโครงการต่างๆ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงส่งผลดีกับหุ้นสื่อสารขนาดกลางและขนาดเล็ก ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ จึงแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาด
"เรามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นโทรคมนาคม หลังจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทค.) อนุมัติจำนวนเลขหมายในการเปลี่ยนระบบใน 1 วัน เพิ่มขึ้นจาก 4,000 เลขหมาย เป็น 40,000 เลขหมาย ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนระบบได้มากขึ้นเป็นบวกต่อต้นทุนของโอเปอเรเตอร์ และมีมุมมองบวกต่อหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กด้วยเช่นกัน หลังจากประเด็นการเมืองในประเทศคลี่คลาย ทำให้นโยบายต่างๆ เดินหน้าต่อ ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ที่ปรับตัวลง ทำให้ Upside gain เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายแม้ว่ายังไม่รวมประโยชน์จากเงินลงทุนรัฐบาล คงน้ำหนัก มากกว่าตลาด และแนะนำ ซื้อหุ้นทั้ง 12 บริษัท ในกลุ่ม ICT ที่เราทำการศึกษา" นักวิเคราะห์กล่าว
เขากล่าวว่า ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมอง เป็นบวก สำหรับกลุ่มสื่อสารทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก เนื่องจากราคาหุ้นได้พักฐานมาสักระยะหนึ่ง จากความกังวลประเด็นการเมืองในประเทศ ขณะที่การปรับตัวลงทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายปัจจุบัน ที่ยังไม่รวมผลบวกจากงานโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ขณะที่หุ้นกลุ่ม SI ขนาดกลางคาดว่าจะเคลื่อนไหวโดดเด่น นอกเหนือจากประเด็นเก็งกำไรเงินลงทุนด้านไอซีทีของรัฐแล้ว บริษัทเอไอทีและบริษัทล็อกซเล่ย์ มีประเด็นเก็งกำไร การเซ็นเอ็มโอยูกับรัฐบาลพม่าในการลงทุนด้านโทรคมนาคมและพลังงาน อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น