" ความโกลาหลคือการทำสิ่งเดิมซ้ำไปซ้ำมา โดยคาดหวังสิ่งที่แตกต่าง และนั่นคือความจริงในตลาดหุ้้น "



ไม่ว่ายุคใดสมัยใดมันเป็นเช่นนี้และมันจะเป็นเช่นนี้ต่อไปหากหัวใจมนุษย์ยังเต็มไปด้วยความโลภ และกระหายกิเลสในชีวิตโดยไม่รู้จักพอ ถ้ามองย้อนไปในอดีต จะพบว่าประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยความคลั่งไคล้ที่น่าขัน ความคลั่งไคล้ในวัตถุที่นำไปสู่ฟองสบู่ระดับโลก เราลองมาศึกษาอดีตดูว่า มนุษยชาติเคยมีฟองสบู่อะไรบ้าง


ปี 1634-1638 ดอกทิวลิป
ฟองสบู่ลูกแรกเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์คือดอกไม้ที่มีรูปคล้ายระฆัง “ดอกทิวลิป”


ปี 1634-1638 ดอกทิวลิป
ฟองสบู่ลูกแรกเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์คือดอกไม้ที่มีรูปคล้ายระฆัง “ดอกทิวลิป” บางครอบครัวชาวดัทช์ถึงกับนำเงินออมของครอบครัวทุ่มซื้อต้นทิวลิป ว่ากันว่าบางต้นมีราคาแพงกว่าบ้าน 1 หลังเสียอีก


ปี 1720 บริษัททะเลใต้
กลุ่มนายธนาคารอังกฤษได้ชักชวนผู้คนซื้อหุ้นบริษัททะเลใต้ โดยรับรองว่าจะได้กำไรงาม แต่ผลตอบแทนก็ไม่ได้เป็นจริง สุดท้ายเจ้าหน้าที่บริษัทนี้ก็ถูกส่งเข้าคุก


ปี 1848 คลั่งทอง 1
หลังจากที่มีการพบทองในตอนเหนือของรัฐแคลิฟฟอร์เนีย คลามคลั่งไคล้ก็แผ่ไปทั่ว ผู้คนหลั่งไหลเข้าไปแสวงโชค ผลักดันให้ประชากรรัฐแคลิฟฟอร์เนียพุ่งจาก 15,000 คน เป็นมากกว่า 300,000 คน ในปี 1854


ปี 1860-1873 ทางรถไฟ
การก่อสร้างทางรถไฟพุ่งทะยานหลังสงครามกลางเมืองในสหรัฐสงบลง มูลค่าของหุ้นรถไฟทั้งหมดสูงถึง 40%ของมูลค่ารวมของตลาดหุ้นนิวยอร์ค วิกฤติการเงินในปี 1873 ทำให้บริษัทเดินรถไฟนับสิบแห่งต้องล้มละลาย


ทศวรรษ 1890 รถจักรยาน
ในช่วงนั้น บริษัทและโรงงานกว่า 300 แห่ง แข่งกันผลิตจักยาน ต่อมาเมื่อมีรถยนต์เกิดขึ้น บริษัทผู้ผลิตจักรยานของสหรัฐลดลงเหลือเพียง 12 แห่ง ในปี 1905


ทศวรรษ 1920 วิทยุ
การกำเนิดเทคโนโลยีวิทยุได้รับความนิยมเช่นเดียวกับการหลงใหลในธุรกิจดอทคอม ตัวอย่างที่ชัดเจนในช่วงนั้นคือ หุ้นของบริษัท RCA ( Radio Corp.of America ) ราคาได้พุ่งทะยานจาก 1 เหรียญไปเป็น 573 เหรียญระหว่างปี 1921-1929 และต่อมา หลังฟองสบู่แตก ราคาหุ้นได้ลดลงกว่า 95%


ปี 1959 อิเลคโทรนิค
การเริ่มต้นของยุคอวกาศ ทำให้หุ้นที่ลงท้ายด้วยคำว่า “ตรอน” เช่น Astron หรือ Transitron พุ่งเหมือนจรวด แต่ในปี 1962 หุ้นเหล่านี้ก็ได้ร่วงสู่ดิน


ปี 1974-1980 คลั่งทอง 2
หลังยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ( Great Depression ) เงินเฟ้อพุ่งสูง ชาวอเมริกันได้รับอนุญาตให้ลงทุนในทองเป็นรายบุคคลได้เป็นครั้งแรก ราคาทองพุ่งจาก 100 เหรียญต่อออนซ์ในปี 1974 ไปเป็น 850 เหรียญในปี 1980 และร่วงไม่เป็นท่าในเวลาต่อมา


ปี 1980-1984 เครื่อง PC
ก่อนการเกิด Window และ Mac มีบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นดาวเด่นในช่วงนั้น แต่ผู้ผลิต PC ก็ได้ดิ่งมากกว่า 50% ในปี 1984 ทำให้นักลงทุนเข็ดกับเทคโนโลยีไปเป็นทศวรรษ


ปี 1985-1990 ฟองสบู่สินทรัพย์ญี่ปุ่น
ดินแดนอาทิตย์อุทัยปวดร้าวกับฟองสบู่ทีเดียว 2 ลูกไล่ๆกัน จากอสังหาริมทรัพย์และหลักทรัพย์ ระหว่างปี 1985 และ 1989 หุ้นญี่ปุ่นพุ่งกว่า 4 เท่า แต่ก็ทรุดตัวลงในปี 1990 และจนบัดนี้ ราคายังไม่สามารถฟื้นคืนขึ้นมาได้


ปี 1997-2000 หุ้นอินเตอร์เน็ต
หลังจากยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ไม่เคยมีการเก็งกำไรใดที่ใหญ่เท่านี้ ธุรกิจที่ลงท้ายด้วยคำว่า “ดอทคอม” ได้รับความนิยม ถึงแม้บางบริษัทจะยังไม่ทำกำไร แต่ในที่สุด ปี 2000 กลุ่มธุรกิจเหล่านี้ก็พังพาบ หุ้นกลุ่มเทคโนร่วงลงกว่า 4 ใน 5 ของราคาเดิม


ปี 2003-2007 อสังหาริมทรัพย์
การลงทุนในบ้านกลายเป็นเรื่องเก็งกำไรที่แพร่หลาย ฟองสบู่ราคาบ้านดึงตลาดหุ้นให้ล่มสลายตามมาด้วยในปี 2008


ปี 2008 คลั่งทอง 3
นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำ เมื่อพวกเขาเห็นว่าเศรษฐกิจโลกมีปัญหา และตราบใดที่วิกฤติเศรษฐกิจยังไม่ยุติ ราคาทองก็ยังคงไต่ระดับสูงขึ้น และราคาทองคำล่าสุด สูงกว่า 1,100 เหรียญต่อออนซ์

พวกเราอ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรบ้าง อะไรที่พุ่งขึ้นโดยปราศจากพื้นฐานรองรับมักร่วงหล่นลงมาที่เดิมเสมอ ระวังอย่าเป็นเหยื่อของการเก็งกำไรก็แล้วกัน เพราะเวลาฟองสบู่แตก รัฐบาลไหนก็เข้ามาช่วยอุ้มท่านไม่ได้ครับ