"ฟองสบู่อสังหาฯ" ยังคงเป็นหัวข้อที่อยู่ในความสนใจของทุกฝ่าย เมื่อเห็นราคาอสังหาริมทรัพย์อยู่ในช่วงขาขึ้น และร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง จนหวั่นว่าอาจจะ "เสี่ยง" ต่อการเกิดฟองสบู่ในอนาคตอันใกล้ แต่กระนั้น ดีเวลลอปเปอร์น้อย-ใหญ่ก็ดาหน้า
ออกมายืนกระต่ายขาเดียวว่า "ไม่มีฟองสบู่อสังหาฯ" มีแต่ดีมานด์จริงทั้งนั้นไม่ใช่ดีมานด์เทียม และไม่ต้องการให้แบงก์ชาติต้องออกกฏเหล็กมาทำให้ธุรกิจที่กำลังไปโลดต้องมาสะดุดลง
แต่ถ้าอะไรในกอไผ่หามีไม่ แล้วภายในสัปดาห์เดียว 2 นายแบงก์ใหญ่ที่เคยผ่านประสบการณ์วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ถึงต้องออกมาให้คอมเมนต์ในเรื่องนี้ โดย"เสี่ยปั้น" บัณฑูร ล่ำซำ บอสสใหญ่ค่าย เค-แบงก์ บอกว่า ฟองสบู่มี 2 ขยักคือ ขยักแรก เป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวเพราะเงินดังกล่าวนำไปไล่สินทรัพย์ ไล่หุ้น ขยักที่สอง ระบบธนาคารพาณิชย์ได้ปล่อยเงินกู้ในอัตราที่เกินกำลัง หาก ธปท.ไม่สั่งให้ปิดก๊อก สถานการณ์ก็จะกลับไปสู่ยุคปี 2540 ที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งได้ เพราะแคมเปญบ้าน 0% มีส่วนไปปั้นให้เกิดดีมานด์ในตลาด
โดยตอนหนึ่งเสี่ยปั้นย้ำว่า ที่ผ่านมาเราเคยเห็น "ฝีแตก"มาแล้ว และไม่อยากไปแตกอีก ส่วนใครจะโตเร็วก็ช่างเขา ส่วนเราขอโต 10% ถือว่าโอเคแล้ว ทำอะไรให้พอกิน พอใช้ ก็น่าพอแล้ว
อีกราย"ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย" ซีอีโอ ค่าย เอสซีบี ก็ยอมรับว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์บางตัว และราคาหุ้นขณะนี้มีอาการฟองสบู่ แต่ไม่ใช่แค่ธนาคารฝ่ายเดียวที่ระมัดระวัง ฝั่งผู้ประกอบการอสังหาฯก็ระมัดระวังอยู่เช่นกัน เพราะทุกคนที่อยู่รอดในวันนี้ คือคนที่ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 กันมาแล้ว และคนที่อยู่รอดวันนี้ ก็คือคนที่แข็งแกร่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์จริง หากรวมผู้ประกอบการขนาดใหญ่เหล่านี้ก็คิดเป็นสัดส่วนการตลาด 60-70%
จากดีกรีความร้อนแรงของภาคอสังหาฯ ที่ไม่มีทีท่าจะชะลอลงนี่เอง ทำให้แบงก์ชาติเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในการเดินสายคุยกับแบงก์พาณิชย์รายใหญ่ ซึ่งเป็นงานที่แบงก์ชาติทำอยู่ทุกปีนั้น ในปีนี้หนึ่งในหัวข้อหลักที่หยิบมาพูดคุยกันก็คงไม่พ้นความแรงของตลาดอสังหาฯ
แว่วว่าเมื่อไม่นานมานี้ 5 บิ๊กดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ในตลาดหุ้นได้มีการหารือกับแบงก์ชาติไล่เลี่ยงตั้งแต่ค่ายแสนสิริ –แลนด์แอนด์เฮ้าส์ – พฤกษาเรียลเอสเตท ฯลฯ แต่สำหรับ บมจ.พฤกษา ของ
"เจ้าสัวทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" นั้นแบงก์ชาติไปขอดูข้อมูลความเคลื่อนไหวภาพรวม ถึงออฟฟิศเมื่อปลายอาทิตย์ที่ผ่านมา
สำหรับหัวข้อสนทนาก็หนีไม่พ้นการหาข้อมูลต่าง ๆ ประกอบการพิจารณา ดับความร้อนแรงของ บ้าน คอนโดมิเนียม ที่ผุดเป็นดอกเห็ดทั้งในกทม.และหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่ ข่อนแก่น เขาใหญ่ พัทยา หัวหิน บางแห่งกระชากใจลูกค้าด้วยการ ผ่อนเดือนละพันบาท ดาวน์แค่หนึ่งพันบาท แจกแถมไอโฟน 5 ไอแพด ดอกเบี้ย 0 % กลายเป็นภาพที่ชินตา
แบงก์ชาติจึงได้เอ่ยขึ้นขณะหารือกับผู้ประกอบการรายหนึ่งว่า ถ้าหาก จะปรับ "LTV" Loan to Value (สัดส่วนการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักทรัพย์) หรือเงินดาวน์เพิ่มเป็นสัก 30 % ผู้ประกอบการจะว่าอย่างไร ? แทนที่ได้คำตอบกลายเป็นเสียงร้องจ๊าก ....แทนฮ่า ๆ
แต่ถ้าอะไรในกอไผ่หามีไม่ แล้วภายในสัปดาห์เดียว 2 นายแบงก์ใหญ่ที่เคยผ่านประสบการณ์วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ถึงต้องออกมาให้คอมเมนต์ในเรื่องนี้ โดย"เสี่ยปั้น" บัณฑูร ล่ำซำ บอสสใหญ่ค่าย เค-แบงก์ บอกว่า ฟองสบู่มี 2 ขยักคือ ขยักแรก เป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวเพราะเงินดังกล่าวนำไปไล่สินทรัพย์ ไล่หุ้น ขยักที่สอง ระบบธนาคารพาณิชย์ได้ปล่อยเงินกู้ในอัตราที่เกินกำลัง หาก ธปท.ไม่สั่งให้ปิดก๊อก สถานการณ์ก็จะกลับไปสู่ยุคปี 2540 ที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้งได้ เพราะแคมเปญบ้าน 0% มีส่วนไปปั้นให้เกิดดีมานด์ในตลาด
โดยตอนหนึ่งเสี่ยปั้นย้ำว่า ที่ผ่านมาเราเคยเห็น "ฝีแตก"มาแล้ว และไม่อยากไปแตกอีก ส่วนใครจะโตเร็วก็ช่างเขา ส่วนเราขอโต 10% ถือว่าโอเคแล้ว ทำอะไรให้พอกิน พอใช้ ก็น่าพอแล้ว
อีกราย"ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย" ซีอีโอ ค่าย เอสซีบี ก็ยอมรับว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์บางตัว และราคาหุ้นขณะนี้มีอาการฟองสบู่ แต่ไม่ใช่แค่ธนาคารฝ่ายเดียวที่ระมัดระวัง ฝั่งผู้ประกอบการอสังหาฯก็ระมัดระวังอยู่เช่นกัน เพราะทุกคนที่อยู่รอดในวันนี้ คือคนที่ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 กันมาแล้ว และคนที่อยู่รอดวันนี้ ก็คือคนที่แข็งแกร่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์จริง หากรวมผู้ประกอบการขนาดใหญ่เหล่านี้ก็คิดเป็นสัดส่วนการตลาด 60-70%
จากดีกรีความร้อนแรงของภาคอสังหาฯ ที่ไม่มีทีท่าจะชะลอลงนี่เอง ทำให้แบงก์ชาติเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในการเดินสายคุยกับแบงก์พาณิชย์รายใหญ่ ซึ่งเป็นงานที่แบงก์ชาติทำอยู่ทุกปีนั้น ในปีนี้หนึ่งในหัวข้อหลักที่หยิบมาพูดคุยกันก็คงไม่พ้นความแรงของตลาดอสังหาฯ
แว่วว่าเมื่อไม่นานมานี้ 5 บิ๊กดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ในตลาดหุ้นได้มีการหารือกับแบงก์ชาติไล่เลี่ยงตั้งแต่ค่ายแสนสิริ –แลนด์แอนด์เฮ้าส์ – พฤกษาเรียลเอสเตท ฯลฯ แต่สำหรับ บมจ.พฤกษา ของ
"เจ้าสัวทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์" นั้นแบงก์ชาติไปขอดูข้อมูลความเคลื่อนไหวภาพรวม ถึงออฟฟิศเมื่อปลายอาทิตย์ที่ผ่านมา
สำหรับหัวข้อสนทนาก็หนีไม่พ้นการหาข้อมูลต่าง ๆ ประกอบการพิจารณา ดับความร้อนแรงของ บ้าน คอนโดมิเนียม ที่ผุดเป็นดอกเห็ดทั้งในกทม.และหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่ ข่อนแก่น เขาใหญ่ พัทยา หัวหิน บางแห่งกระชากใจลูกค้าด้วยการ ผ่อนเดือนละพันบาท ดาวน์แค่หนึ่งพันบาท แจกแถมไอโฟน 5 ไอแพด ดอกเบี้ย 0 % กลายเป็นภาพที่ชินตา
แบงก์ชาติจึงได้เอ่ยขึ้นขณะหารือกับผู้ประกอบการรายหนึ่งว่า ถ้าหาก จะปรับ "LTV" Loan to Value (สัดส่วนการให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักทรัพย์) หรือเงินดาวน์เพิ่มเป็นสัก 30 % ผู้ประกอบการจะว่าอย่างไร ? แทนที่ได้คำตอบกลายเป็นเสียงร้องจ๊าก ....แทนฮ่า ๆ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,833 วันที่ 7 - 10 เมษายน พ.ศ. 2556
Interesting
ตอบลบ