คลังงดขายบอนด์ฝรั่ง
การเงินการคลัง วันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2556 ผู้เข้าชม : 11 คน
กระทรวงการคลังสั่งงดขายพันธบัตรเงินเฟ้อให้นักลงทุนต่างชาติภายในปีนี้ หวังลดปริมาณเงินไหลเข้าประเทศ หลังจากพบว่าต่างชาติขนเงิน 2.4 หมื่นล้านมาซื้อบอนด์รัฐบาล ส่วนปีหน้าหากขายต้องลดส่วนลงไม่ให้มากถึง 60% อย่างที่ผ่านมา
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เผยว่ามาตรการที่จะลดสัดส่วนการเสนอขายพันธบัตรรัฐบาล ที่มีอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการ เปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อให้กับนักลงทุนต่างชาตินั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผนเสนอขายบอนด์ในปีหน้า แต่สำหรับปีนี้จะไม่มีการขายออกมาอีกแล้ว
ดังนั้นการออกมาตรการในครั้งนี้ จึงเป็นเพียงการส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งการขายพันธบัตรระยะยาว หากไม่มีนักลงทุนต่างประเทศซื้อก็ขายภายในประเทศค่อนข้างยาก ซึ่งนักลงทุนต่างชาติมองว่าพันธบัตรในประเทศไทยไม่มีความเสี่ยงจึงสนใจมาลง ทุน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยก็ค่อนข้างดี
โดยความต้องการลงทุนของนักลงทุนที่ต้องการซื้อพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ(Inflation-Linked Bond:ILB) รุ่นอายุ 15 ปี วงเงิน 4 หมื่นล้านบาทมีค่อนข้างมาก โดยคลังเสนออัตรา ดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่ 1.25% ถึง 1.40% ซึ่งมีความต้องการมากกว่าเงินที่ต้องการออกจำหน่วย โดยมีนักลงทุนแสดงความสนใจลงทุนใน ILB วงเงิน 1.21 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 3 เท่าของวงเงินจำหน่ายพันธบัตร
โดยจัดสรรให้นักลงทุนต่างชาติ 60% ของวงเงินจำหน่ายพันธบัตร หรือประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท โดยจัดสรรพันธบัตรให้แก่นักลงทุนต่างชาติทั้งหมด 35 ราย จาก 11 ประเทศทั่วโลก ซึ่งล้วนเป็นนักลงทุนระยะยาวประเภทกองทุนบริหารสินทรัพย์ระดับโลก ขนาดใหญ่ทั้งสิ้น
ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เผยว่า คลังจะปรับลดสัดส่วนการเสนอขายพันธบัตรรัฐบาล ที่มีอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการ เปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อให้กับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งใน การแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่า
"สาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งในช่วงที่ผ่านมา คือมีการออกกองอสังหาฯ ขนาดใหญ่กองหนึ่ง และทางสบน.มีการออก ILB ซึ่งสองตัวนี้ ทำให้มีเงินเข้ามาก้อนใหญ่ ดังนั้น การขายบอนด์ของกระทรวงการคลัง ต่อไปก็จะขายให้ต่างประเทศ น้อยลง"
ทั้งนี้จากการที่เงินบาทในช่วงนี้อ่อนค่าลงแล้ว จึงหวังว่าทางการจะไม่ต้องออกมาตรการที่ผิดธรรมชาติมาดูแลเงินบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น