เสน่ห์ของประเทศไทย ช่วยหนุนเงินบาท

รายงานพิเศษ วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2556 
ผู้เข้าชม : 525 คน 

วอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่า เงินที่ถาโถมเข้ามาสู่ประเทศไทยได้ส่งผลให้เงินบาทอยู่ในระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 5 ปี  และทำให้เงินบาทเป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียในปี 2556 เนื่องจากนักลงทุนมีความสนใจต่อข้อตกลงในเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ผู้จัดการกองทุนก็ได้เทเงินเข้าสู่หุ้น ทำให้ดัชนีเซ็ทพุ่งสูงสุดในรอบ 19 ปี ในสัปดาห์นี้เมื่อมีเงินไหลเวียนพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 44 สัปดาห์ เมื่อดูจากข้อมูลของอีพีเอฟอาร์ โกลบัล

การแข็งค่าประมาณ 5 % ของเงินบาทในปีนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเป็นพิเศษ และตรงข้ามกับสกุลเงินเพื่อนบ้านในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ได้อ่อนตัวลงเพราะมีความวิตกขึ้นมาใหม่เกี่ยวกับระบบธนาคารของยุโรป ซึ่งนั่นตามปกติแล้วจะทำให้นักลงทุนถอนเงินออกจากไทยอย่างรวดเร็ว

ความกระตือรือร้นที่มีต่อเงินบาทได้รับการกระตุ้นมาจากการขายหุ้นครั้งใหญ่สุดของเอเชียในปีนี้ ซึ่งมีการจดทะเบียนกองทุนสาธารณูปโภคของบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เป็นเงิน 2,100 ล้านดอลลาร์โดยกองทุนนี้ กำลังดึงดูดเงินจำนวนมากจากต่างประเทศ

เทรดเดอร์ยังได้ผลักดันให้เงินบาทแข็งขึ้นก่อนที่บริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริค (จีอี) จะขายหุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (ฺBAY) ด้วย ซึ่งกำลังดึงดูดความสนใจของต่างชาติในขณะนี้

นอกจากนี้ สินทรัพย์ไทยยังมีเสน่ห์อย่างกว้างขวางเนื่องจากเศรษฐกิจแข็งแกร่งและรัฐบาลยึดมั่นต่อนโยบายที่เป็นมิตรกับนักลงทุน

เศรษฐกิจไทยขยายตัว 6.4% ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากกิจกรรมฟื้นตัวกลับมาจากภาวะน้ำท่วมเมื่อปี 2554 และนักวิเคราะห์กลายคนกล่าวว่า การเติบโตในปีนี้น่าจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ โดยได้รับการสนับสนุนจากการลดภาษีนิติบุคคลและการสนับสนุนผู้ซื้อรถยนต์คันแรกของรัฐบาล

ในเดือนนี้ ฟิทช์ เรตติ้งได้เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศขึ้นหนึ่งอันดับเป็น BBB+ ในขณะเดียวกันธนาคารแห่งประเทศไทยส่งสัญญาณในสัปดาห์นี้ว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องวิตกเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งเป็นการให้ไฟเขียวแก่นักลงทุนให้ซื้อต่อไป

กวน ยี โลว์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนรายได้คงที่ของอีสต์สปริง อินเวสเมนต์ ซึ่งบริหารสินทรัพย์ทั่วเอเชียเป็นเงินกว่า 94,400 ล้านดอลลาร์ กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานในระยะกลางยังคงเป็นบวกโดยการลงทุนโดยตรงของต่างชาติมีความแข็งแกร่ง และเชื่อว่า น่าจะมีอัตราการแข็งค่าของเงินบาทต่อไป

ค่าเงินบาทที่ซื้อขายในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ 29.135 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนลงจาก 29.266 บาทต่อดอลลาร์เมื่อคืนวันอังคาร 

แน่นอนว่า มีความเสี่ยงหลายอย่างในการลงทุนในประเทศไทยเมื่อคำนึงถึงว่ามีประวัติการทำรัฐประหารและการเมืองไร้เสถียรภาพ นักลงทุนบางคนยังได้พูดถึงข้อเสียของนโยบายประชานิยมต่างๆ เช่น โครงการอุดหนุนราคาข้าวให้มีราคาแพงซึ่งกำลังทำให้การเงินของรัฐบาลตึงเครียด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจำเป็นต้องระวังธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งในอดีตได้เข้าดำเนินการเพื่อรักษาค่าเงินบาทให้อ่อนเอาไว้เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกเอาไว้

เทเรซ่า กง  ผู้จัดการกองทุนแมททิวส์ เอเชีย สเตรเตอจิค  อินคัม ฟันด์  กล่าวว่า มีแรงกดดันทางการเมืองต่อการแข็งค่าของเงินบาทอย่างแน่นอนในขณะที่สกุลเงินของหลายๆ ประเทศยังคงอ่อนอยู่

กระทรวงการคลังได้ประกาศ เมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า มีแผนการที่จะชำระหนี้ต่างชาติล่วงหน้าเพื่อช่วยควบคุมการแข็งค่าของเงินบาท

ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นสถานที่ในการลงทุนที่ร้อนแรง ในปีนี้ เนื่องจากภูมิภาคมีประชากรที่เป็นคนหนุ่มสาวและการเติบโตของชนชั้นกลางได้ช่วยสนับสนุนให้มีการใช้จ่าย ในขณะเดียวกัน รัฐบาลหลายๆ แห่งได้สะสางฐานะการเงินและใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงการสาธารณูปโภค หุ้นและเงินของฟิลิปปินส์ก็ดีดตัวขึ้น ในขณะที่หุ้นในอินโดนีเซียและเวียดนามอยู่ในกลุ่มที่มีผลงานดีที่สุดในเอเชีย

กระนั้นก็ตาม กิจกรรมในการทำข้อตกลงของไทยก็ยังคงดึงดูดนักลงทุนได้อย่างแข็งแกร่ง โดยนักลงทุนมองว่า กิจกรรมในการทำข้อตกลงของไทยเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการเติบโตอันแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ

เอ็ดวิน กูเตียร์เรซ ผู้จัดการพอร์ตตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ของอะเบอร์ดีน แอสเซ็ต แมเนจเมนต์ ซึ่งดูแลสินทรัพย์ 314,000 ล้านดอลลาร์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกำลังร้อนแรง อะเบอร์ดีนฯเพิ่มการลงทุนต่อเงินบาทเมื่อต้นปี และยังกล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งอาจผลักดันให้เงินบาทแข็งขึ้น    

จนถึงขณะนี้ บีทีเอส กรุ๊ป ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดยตระกูลของนายคีรี กาญจนพาสน์ ได้รับคำมั่นจากนักลงทุนรายใหญ่ 22 แห่งว่าจะซื้อกองทุนสาธารณูปโภคของบริษัท ซึ่งได้แก่ มอร์แกน สแตนเลย์ อินเวสเมนต์ แมเนจเมนต์, ชโรเดอร์ อินเวสเมนต์ แมเนจเมนต์ และบริษัทในไทยของแอกซ่า อินชัวรันซ์ของฝรั่งเศส

ในขณะเดียวกัน  จีอี แคปิตอล กำลังเจรจาพิเศษกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการขายหุ้น 25% ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งตระกูลรัตนรักษ์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกรายหนึ่ง