CPALLซื้อหุ้น MAKRO 64.35%
CPALLซื้อหุ้น MAKRO 64.35%
CPALLซื้อหุ้น MAKRO 64.35%หุ้นละ 787 บ.รวม 1.22แสนลบ.เตรียมทำเทนเดอร์ฯ
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 23 เมษายน 2556 11:12:25 น.
บมจ.ซีพี ออลล์(CPALL)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 เม.ย.56 มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของ บมจ.สยามแม็คโคร(MAKRO) บริษัท สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง(ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท โอเอชที (OHT) รวมเป็นหุ้นของ MAKRO ที่จะได้มาทั้งทางตรงทางอ้อมจำนวน 64.53% ในราคา 787.00 บาท หรือเทียบเท่าหุ้นละ 27.50 เหรียญสหรัฐ เป็นจำนวน 154,429,500 หุ้น รวมเป็นมูลค่าสิ่งตอบแทนประมาณ 121,536 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 4,247 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัทลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท เอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี.(SHV) ในวันที่ 23 เมษายน 2556 แล้ว ซึ่งรวมถึงสิทธิในการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศด้วย
พร้อมกันนั้น ที่ประชุมยังมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน MAKRO หลังจากบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมคิดเป็นอัตราประมาณ 64.35% โดยมูลค่าของสินทรัพย์ที่จะมีการได้มาจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ภายหลังการเข้าซื้อหุ้นตามสัญญาซื้อขายหุ้นเสร็จสมบูรณ์และหากผู้ถือหุ้นทุกรายของ MAKRO ตอบรับคำเสนอซื้อฯจะคิดเป็นหุ้นสามัญ 85,570,500 หุ้น ที่มูลค่าหุ้นละ 787.00 บาท คิดเป็นจำนวนรวม 67,344 ล้านบาท หรือเทียบเท่า ประมาณ 2,353 ล้านเหรียญสหรัฐ
ดังนั้น เมื่อรวมการได้มาซึ่งหุ้น MAKRO ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากผู้ขายตามสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งรวมถึงการได้มาซึ่งสิทธิการใช้ IP และ IT และจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ MAKRO ในกรณีที่ผู้ถือหลักทรัพย์ทั้งหมดของ MAKRO ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท จำนวนหุ้นที่จะได้มาทั้งหมดจะเท่ากับ 240,000,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 188,880 ล้านบาท หรือ 6,600.00 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นราคาต่อหุ้นที่ 787.00บาท หรือ 27.50 เหรียญสหรัฐ ณ อัตราแลกเปลี่ยน 28.6181 บาทต่อ 1.0 เหรียญสหรัฐ
MAKRO ประกอบธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเอง จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้แก่ลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตรของแม็คโคร บริษัท เป็นบริษัทในกลุ่มเอสเอชวีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภททั่วโลก สำหรับแม็คโครในประเทศไทย บริษัท ดำเนินงานโดยทีมผู้บริหารมืออาชีพซึ่งประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานคร และมีทีมบริหารประจำแต่ละสาขาเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานและเป้าหมายที่กำหนดไว้ ในปี 2532 บริษัท ได้เปิดห้างแม็คโคร สาขาแรก คือ สาขาลาดพร้าว ณ สิ้นปี 2555 บริษัท มีสาขารวมทั้งสิ้น 57 สาขา และร้านจำหน่ายอาหารแช่แข็งขนาดเล็ก "สยามโฟรเซ่น" อีก 5 แห่งโดยในปัจจุบันมีธุรกิจหลักคือ การดำเนินธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าระบบสมาชิกแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ "แม็คโคร" ซึ่งมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการของศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร ประกอบด้วย 1)เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ซ่อมบำรุง (Electrical Appliances and D.I.Y.) 2)เครื่องเขียน เครื่องใช้ในสำนักงาน เครื่องใช้ในสำนักงานอัตโนมัติ 3)อุปกรณ์เครื่องครัว อุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจให้บริการด้านอาหาร 4)เครื่องกีฬา เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้าน 5)สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย 6)ผัก ผลไม้สด เนื้อสัตว์ อาหารทะเล อาหารนม 7)ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งและแช่เย็น 8)เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว 9)ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ชำระล้าง และเครื่องสำอางค 10)สินค้าชำทั่วไป (General Grocery) 11)ยา และอาหารเสริม 12)เบเกอรี่ 13)ภัตตาคาร
นอกจากนั้น บริษัทยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าโดยการจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง (D.O.B : Distributor Own Brand) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ธุรกิจจัดจำหน่ายทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในรูปแบบ Cash & Carry อย่างแม็คโคร หรือห้างสรรพสินค้าต่างก็ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก ในปัจจุบัน บริษัทดำเนินการจำหน่ายสินค้า D.O.B. ทั้งประเภทอุปโภคและบริโภค
ส่วนการประกอบธุรกิจของบริษัทย่อย บริษัท สยามฟูดเซอร์วิส จำกัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายอาหารจากต่างประเทศและในประเทศด้วยอาหารที่มีคุณภาพดีเยี่ยมด้านผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์อาหารทะเลมันฝรั่งผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์ปรุงแต่งอาหารโดยที่ผลิตภัณฑ์ต่างๆจะมีการจัดเก็บและจัดส่งไปยังทุกจังหวัดของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้การควบคุมอุณหภูมิให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนด บริษัทวีนาสยาม ฟู้ดจำกัด ประกอบธุรกิจทางการค้าและจัดจำหน่ายอาหาร รวมทั้งธุรกิจนำเข้าและส่งออกอาหารที่มีคุณภาพสูง ด้านผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารทะเลมันฝรั่งผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์ปรุงแต่งอาหารเป็นต้น
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับ CPALL บริษัทเชื่อว่าจะได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีและมั่นคง จากการดำเนินธุรกิจของ MAKRO โดยเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและการตลาดที่โดดเด่นอย่างชัดเจน มีทีมงานบริหารที่มีประสบการณ์และความสามารถสูง อันเห็นได้จากผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งและมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมั่นคง มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีการเติบโตสูง และสร้างผลกำไรได้ดี
อีกทั้ง ช่วยสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นผ่านการสร้างประโยชน์ร่วมกันของทั้งสององค์กรและการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความสามารถในการเจรจาราคากับคู่ค้า จากยอดขายรวมที่สูงถึง 300,000 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพโดยการร่วมมือกันในการวางแผนการกระจายสินค้า เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนในการดำเนินการ การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งให้ดียิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนต่อผู้ถือหุ้น
และ เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนและมูลค่าเพิ่มจากอสังหาริมทรัพย์และตราสินค้าของ MAKRO โอกาสในการสร้างผลตอบแทนและมูลค่าเพิ่มจากการใช้แบรนด์ MAKRO และทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อขยายธุรกิจใน AEC และทั่วภูมิภาคเอเชีย สร้างมูลค่าเพิ่มจากการบริหารจัดการพื้นที่ใช้สอยของอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ของ MAKRO ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ซื้อกิจการ MAKRO จะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัท และวงเงินตามสัญญาในการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงิน
อินโฟเควสท์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น