วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

BTSขึ้นค่ารถ กำไรพุ่งเกิน11% รับปันผล0.18บ.


BTSขึ้นค่ารถ
กำไรพุ่งเกิน11%
รับปันผล0.18บ.

ข่าวหน้าหนึ่ง วันอังคารที่ 30 เมษายน 2556 
ผู้เข้าชม : 17 คน 

BTS ปรับขึ้นค่าโดยสารสูงกว่าคาด 11.1% เริ่ม 1 มิ.ย.นี้ ดันกำไรเข้า BTSGIF กับ BTS ทันที ลุ้นรับปันผลระหว่างกาล 0.18 บาท ก่อนขึ้นเครื่องหมายXD 2 พ.ค.นี้

                นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าการปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าของบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ถือเป็นการปรับราคามากกว่าที่เคยคาดไว้ โดยราคาตั๋วเดี่ยว (Single journey ticket ) จะถูกปรับขึ้นสูงสุด 10-25% ส่วนประเภทตั๋วเดือน 30 วัน สำหรับบุคคลทั่วไป (Adult 30-day trips) ปรับขึ้น 8-10% ส่วนของนักเรียนปรับขึ้น 5-7%
                จากโครงสร้างตั๋วเดี่ยว 46% ตั๋วเดือนประชาชนทั่วไป 29% ตั๋วเดือนนักเรียน 8% และบัตรเติมเงิน 16% จะเห็นการปรับตัวค่าตั๋วครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่ตั๋วเดี่ยว และตั๋วเดือน 30 วัน สำหรับบุคคลทั่วไป รวมสัดส่วน 75% และเมื่อประเมินในลักษณะของค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักแล้วจะพบว่า ค่าตั๋วโดยรวมเบื้องต้นจะถูกปรับขึ้นประมาณ 11.1% ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป
                ทั้งนี้ ค่าโดยสารจะปรับขึ้นเต็มที่ประมาณ 13.9% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557  เมื่อตั๋วประเภทเติมเงินมีผลบังคับใช้กับอัตราใหม่นี้ คาดว่าตลาดจะปรับประมาณการกำไรของ BTSGIF กับ BTS ขึ้นได้อีก นอกจากนี้ ยังมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลไตรมาส 3/55-56  จำนวน 0.18 บาท จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พฤษภาคม 2556 นี้
                ฝ่ายวิเคราะห์มีความเห็นเป็น “บวก” กับการปรับราคานี้  (มีผลตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2556) โดยหากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า BTS เลือกปรับในสถานีที่มีความหนาแน่นสูง เช่น สถานีที่ 2-9 ซึ่งจะเห็นว่ามีช่วงการปรับสูงระหว่าง 10-25% สูงกว่าที่คาดไว้ที่เฉลี่ย 10% พอสมควร
                ขณะที่ตลาดคาดเพียงแค่ 5% เท่านั้น โดย ณ การรายงานล่าสุด 3Q55/56 ค่าเฉลี่ยตั๋ว BTS เฉลี่ยจะอยู่ที่ 25.02 บาท/เที่ยว ซึ่งแสดงชัดเจนว่าการเดินทางของผู้ใช้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4-5 สถานี ดังนั้น เชื่อว่าตลาดจะมีการปรับประมาณการขึ้นเร็วๆ นี้ เนื่องจากผลของการปรับนี้จะส่งผลบวกต่อ BTSGIF ทางตรงและทางอ้อมต่อ BTS จากการที่ BTS ถือหุ้นใน BTSGIF อยู่ 1 ใน 3 นี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” BTS ราคาเหมาะสม 12.30 บาทต่อหุ้น
                 นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556 บริษัทจะปรับราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสในส่วนของเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร
                จากสถานีหมอชิตถึงสถานีอ่อนนุช และจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีสะพานตากสินจาก 15-40 บาท เป็น 15-42 บาท โดยจะเรียกเก็บสถานีแรก 15 บาท สถานีที่สอง ราคา 22 บาท สถานีที่สาม 25 บาท สถานีที่สี่ 28 บาท สถานีที่ห้า 31 บาท สถานีที่หก 34 บาท สถานีที่เจ็ด 37 บาท และจากสถานีที่แปดเป็นต้นไป 42 บาท ซึ่งการปรับราคาค่าโดยสารครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 นับจากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้ามาตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2542
                 โดยครั้งแรกปรับจาก 10-40 บาท มาเป็น 15-40 บาท เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2549 นับเป็นเวลากว่า 6 ปีที่บริษัท มิได้มีการปรับราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บ ทั้งนี้ อัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บใหม่นี้จะต่ำกว่าเพดานอัตราค่าโดยสารตามสัญญาสัมปทาน ซึ่งขณะนี้มีเพดานอยู่ที่ 18.79-56.36 บาท และตามสัญญาสัมปทานกำหนดให้บริษัทสามารถปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บได้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 18 เดือนจากการปรับครั้งก่อนหน้า
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าวว่า บริษัทฯต้องขอความเห็นใจในการขอปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารในครั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯไม่ได้มีการปรับอัตราค่าโดยสารที่เรียกเก็บมากว่า 6 ปี แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร โดยเฉพาะการลงทุนซื้อขบวนรถไฟฟ้าเพิ่ม 35 ตู้ เพื่อนำมาต่อพ่วงเข้ากับขบวนรถที่มีอยู่เดิม 35 ขบวน 3 ตู้ ให้เป็นแบบ 4 ตู้ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
รวมถึงขบวนรถที่สั่งซื้อไปอีก 5 ขบวน 20 ตู้ ที่จะมาถึงปลายปี 2556 นี้   นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งรั้วกั้นขอบชานชาลา (Platform Screen Door)  9 สถานี เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารในการใช้บริการ  อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เช่น ค่าไฟฟ้า  ค่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยและยังค่าจ้างพนักงานทำความสะอาด  และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นทุกปี
อย่างไรก็ตาม ค่าโดยสารที่เรียกเก็บใหม่นี้ บริษัทฯพยายามคงอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่ให้สูงจนเกินไป คือเพิ่มขึ้นเพียงเที่ยวละ 2 บาท เพื่อไม่ให้ผู้ที่เดินทางไกลไม่ต้องรับภาระมากนัก นอกจากนั้น บริษัทฯยังคงมีโปรโมชั่นเที่ยวเดินทางประเภท 30 วัน ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและนักเรียนนักศึกษา
โดยได้กำหนดราคาใหม่เป็นดังนี้  สำหรับบุคคลทั่วไป ประเภท 50 เที่ยว ราคา 1,100  บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 22 บาท  ประเภท 40 เที่ยว ราคา 920 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 23 บาท  ประเภท 25 เที่ยว ราคา 625 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 25 บาท และ ประเภท 15 เที่ยว ราคา 405 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 27 บาท
สำหรับนักเรียนนักศึกษา ประเภท 50 เที่ยว ราคา 800 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 16 บาท ประเภท 40 เที่ยว ราคา 680 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 17 บาท  ประเภท 25 เที่ยว ราคา 475 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 19 บาท และ ประเภท 15 เที่ยว ราคา 315 บาท เฉลี่ยเที่ยวละ 21 บาท
อนึ่ง เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในช่วงนี้ บริษัทฯจะยังคงอัตราค่าโดยสารเดิมสำหรับ ผู้โดยสารที่เดินทางด้วยบัตรโดยสารประเภทเติมเงิน ทั้งบัตรแรบบิทและบัตรสกายสมาร์ทพาสเดิม ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 และหลังจากนั้น บริษัทฯจะพิจารณาความเหมาะสมในการกำหนดราคาส่วนลดให้กับบัตรโดยสารประเภทนี้อีกครั้งหนึ่ง  ดังนั้น บริษัทฯจึงขอให้ผู้โดยสารที่เคยซื้อบัตรโดยสารเที่ยวเดียว เปลี่ยนมาใช้บัตรเติมเงินเพื่อความสะดวกและประหยัดในการเดินทาง
สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป บริษัทฯจะให้ส่วนลดราคาสูงสุดกว่า 50% เมื่อผู้สูงอายุใช้บัตรแรบบิทประเภทผู้สูงอายุ โดยสามารถเดินทางได้ไม่จำกัดเวลา ซึ่งเดิมบริษัทฯ จะลดให้เฉพาะเดินทางในช่วงนอกเวลาเร่งด่วนเท่านั้น โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2556 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 ซึ่งจะเป็นการคิดจากอัตราค่าโดยสารใหม่ของบัตรโดยสารเที่ยวเดียว โดยเริ่มต้นสถานีแรกที่ 7 บาท จนสูงสุด 21 บาท ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. ของทุกวัน
สำหรับการปรับลดราคาของสถานีส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ที่กรุงเทพมหานครเรียกเก็บ 15 บาท ตลอดสายมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 และมีนโยบายจะเรียกเก็บ 10 บาท ตลอดสายตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2556 นั้น รายได้ในส่วนนี้จะเป็นรายได้ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับค่าโดยสารในส่วนเส้นทางสัมปทาน 23.5 กิโลเมตร


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น