BTS เฮ! กองทุนอินฟราฯได้ฤกษ์ขายหน่วย
ก.ล.ต.ไฟเขียวกองทุน BTSGIF เสนอขายหน่วยได้แล้ว เคาะกรอบราคาขาย 10.40-10.80 บาทต่อหน่วย ดีเดย์จอง 29 มี.ค.-4 เม.ย.นี้ เซียนหุ้น ฟันธงส่งผลต่ออนาคต BTS สดใส โบรกฯ เชื่อหนุนกำไรหลักปี 56/57 (เม.ย.56-มี.ค.57 )พุ่งแตะ 2.32 พันลบ. ฟากธนชาต ให้ราคาเป้าหมายทางพื้นฐานที่ 9.30 บาท - ทางเทคนิคที่ 9.50 บาท ส่วนเมย์แบงก์กิมเอ็ง สั่งทยอยสะสม คาดกำไรปี 55/56 (เม.ย.55-มี.ค.56 )โต 108% ด้านผู้บริหาร จ่อขึ้นค่าโดยสาร Q2/56 หลังต้นทุนค่าแรงและค่าไฟเพิ่ม
* ก.ล.ต.ไฟเขียว กองทุน BTSGIF เคาะกรอบราคา 10.40-10.80 บาทต่อหน่วย
รายงานข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)แจ้งว่า สำนักงานก.ล.ต. ได้อนุมัติให้จัดตั้งกองทุนรวมโครงกสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF )แล้วเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556 ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะเสนอขายหน่วยลงทุน 5,788 ล้านหน่วย มีช่วงราคาเสนอขายอยู่ที่ 10.40-10.80บาทต่อหน่วย จำนวนหน่วยลงทุนขั้นต่ำ 2,000 หน่วย และเพิ่มครั้งละ 100 หน่วยที่จองซื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามหลักเกณฑ์ปกติภายหลังการอนุมัติจัดตั้งกองทุนแล้ว ก.ล.ต. จะกำหนดระยะเวลาให้นักลงทุนได้ศึกษารายละเอียดของกองทุนผ่านแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง) 14 วัน ก่อนการเสนอขาย หลังจากนั้นกองทุน BTSGIF จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม -4 เมษายน นี้
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะเสนอขายแก่นักลงทุนในประเทศรวม 3,322 ล้านหน่วย แบ่งเป็น ผู้จองซื้อทั่วไป จำนวน 771 ล้านหน่วย เสอนขายแก่นักลงทุนจองซื้อพิเศษ คือ นักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ จำนวน 622 ล้านหน่วย เสนอขายแก่บีทีเอสจี ในฐานะกลุ่มบุคคลเดียวกันกับบีทีเอสซี ซึ่งเป็นผู้ที่จะจำหน่ายทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานให้แก่กองทุน ซึ่งเป็นจำนนไม่เกิน 1 ใน 3 ของหน่วยลงทุนทั้งหมดที่ออกเสนอขายในการเสนอขายครั้งแรก จำนวน 1,929 ล้านหน่วย และเสนอขายต่อผู้ซื้อหน่วยลงทุนเบื้องต้นในต่างประเทศ จำนวน 2,466 ล้านหน่วย
สำหรับนักลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2556 -3 เมษายน 2556 ขณะที่ผู้จองซื้อพิเศษไทย สามารถจองซื้อตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2556-11 เมษายน 2556 ขณะที่ผู้ซื้อหน่วยลงทุนในต่างประเทศ เริ่มซื้อตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2556-11 เมษายน 2556 โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 19 เมษายน 2556
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนได้ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา ส่วน
สำหรับกองทุน เป็นกองทุนรวมชนิดที่เสนอขายหน่วยลงทุนต่อผู้ลงทุนเป็นการทั่วไปประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยมี วัตถุประสงค์กองทุนเพื่อระดมเงินทุนจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศไปใช้ในการลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนเพื่อเป็นรายได้ให้แก่กองทุนได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กองทุนสามารถจ่ายผลตอบแทนการลงทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนและสามารถบรรลุการสร้างผลตอบแทนการลงทุนต่อหน่วยลงทุนที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ถือหน่วยได้รับผลอตบแทนในการงทุนในอัตราที่น่าพอใจ รวมถึงการลงทุนในทรัพย์สินอื่นๆ หลักรัพย์ หรือตราสารอื่นๆที่กฎหมายหลักทรัพย์อนุญาติให้ลงทุนได้ ส่วนสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุนครั้ง ได้แก่ รายได้สุทธิจากบีทีเอสซี (บริษัทระบบขนส่งมอลชนกรุงเทพ) ในส่วนที่เกี่ยวกับรุบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพสายหลัก
* เซียนหุ้น ฟันธง BTS อนาคตสดใส
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้อยู่ระหว่างการทบทวนปรับเพิ่มราคาพื้นฐานของหุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ใหม่จากเดิมประเมินราคาอยู่ที่ 8.60 บาทต่อหุ้นเนื่องจากประมาณการณ์เดิมได้คาดว่าราคาหุ้นในขณะนี้แสดงถึงราคาขายกองทุน BTSGIFที่ 5 หมื่นล้านบาท แต่วันนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้อนุมัติและประกาศออกมาแล้วมีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาททำให้เป็นปัจจัยเชิงบวกที่ส่งผลต่อพื้นฐานของบริษัทฯและจะเป็นประเด็นให้ต้องปรับทบทวนราคาพื้นฐานขึ้น ทั้งนี้ ระดับราคาหุ้นของ BTS ในขณะนี้ยังน่าสนใจซื้อได้เพราะในอนาคตบริษัทฯก็จะต่อขยายเส้นทางรถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 4 เส้นทางและยังจะมีรายได้จากค่าโฆษณาเข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย
*โบรกฯ เชื่อหนุนกำไรพุ่งแตะ 2.32 พันลบ.
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่า BTS ขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (BTSGIF) ที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งจะดึงดูดความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นได้ในระยะสั้น เราคิดว่าราคาหุ้นในขณะนี้แสดงถึงราคาขายที่ 5.0-5.5 หมื่นล้านบาทและ 15% holding discount ในการถือหุ้น VGI หากราคาขายสูงกว่า 6 หมื่นล้านบาท (เกินช่วงราคาที่เคยมีการแจ้งไว้) จะเป็นเซอร์ไพร์สเชิงบวกต่อตลาดและส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นต่อไปจากการประเมินมูลค่า ราคาหุ้น BTS ยังค่อนข้างถูก โดยซื้อขายที่ระดับ PEG ปี 2556/57 อยู่ที่ 1.0 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 3.3 เท่า อย่างมาก
ทั้งนี้ เชื่อว่าแผนการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (BTSGIF) ของ BTS จะช่วยหนุนให้กำไรหลักของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสองปีข้างหน้า โดยมีปัจจัยหนุนดังนี้ 1) รายได้จากเงินปันผลจากการถือหุ้นใน BTSGIF ที่สัดส่วน 33.33%, 2) รายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินสดที่ได& 63243;รับจากการขาย, 3) ค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการที่ได้รับจาก BTSGIF และ 4) ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง (โดยให้สมมติฐานว่าเงินสดบางส่วนที่ได้รับจากการขายถูกนำไปชำระคืนหนี้) จากการศึกษาของเรา (อ้างอิงจากราคาขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิที่ 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่มีโอกาสอาจเกิดขึ้นสูงสุดในมุมมองของเรา) พบว่ากำไรหลักของ BTS จะเพิ่มขึ้น 24% เป็น 2,328 ล้านบาท ในปี 2556/57 (เม.ย.56-มี.ค.57 )และเพิ่มขึ้น 15% มาอยู่ที่ 3,002 ล้านบาทในปี 2557/58
บริษัทมีแนวโน้มที่จะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิให้กับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (BTSGIF) จากสมมติฐานช่วงราคาขายที่ 50,000-60,000 ล้านบาท เราคาดว่า BTS จะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายจำนวน 8,000-18,000 ล้านบาท (0.67-1.50 บาทต่อหุ้น) ในปี 2556/57 บริษัทอาจบันทึกกำไรพิเศษจากการขายได้สูงถึง 28,000 ล้านบาท (2.34 บาทต่อหุ้น) หากราคาขายอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท มีแนวโน้มอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมาย
เราได้ทบทวนวิธีการประเมินมูลค่าหุ้นสำหรับ BTS และเราคิดว่าในขณะนี้วิธีประเมินมูลค่าหุ้นแบบ SOTP (sum-of-the parts) เป็นวิธีที่เหมาะสมกว่าวิธี DCF ซึ่งเราใช้อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI (โดย BTS เข้าถือหุ้นอยู่ที่สัดส่วน 67.7%) ได้เข้าจดทะเบียนใน SET เรียบร้อยแล้ว และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF (BTS จะถือหุ้นในสัดส่วน 33.33%) กำลังจะเข้าจดทะเบียนในเร็วๆนี้ จากการวิเคราะห์สถานการณ์จำลองของเรา (อ้างอิงจากวิธีการประเมินมูลค่าแบบ SOTP และช่วงราคาของการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิอยู่ที่ 50,000-70,000 ล้านบาท) แสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมาย (ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2557) อีก 2-11% แนะนำซื้อ
* ธนชาต ให้ราคาเป้าหมาย 9.30 บาท
บทวิเคราะห์ บล.ธนชาต ระบุว่า ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน BTS อยู่ที่ 9.30 บาท ทางเทคนิคที่ 9.50 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก คาด BTS ประสบความสำเร็จในการขายกองทุน BTSGIF มูลค่า 6-6.2 หมื่นล้านบาท ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยกองทุน BTSGIF จะให้อัตราผลตอบแทน 5.8-6.0% ทั้งนี้ การขายกองทุนBTSGIF จะทำให้ BTS มีกระแสเงินสดมากถึง 4 หมื่นล้านบาท (หลังเข้าไปลงทุน33% ในกองทุน BTSGIF) และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลพิเศษ 0.7-0.8 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7.8-8.9%
ผลการดำเนินงาน BTS ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องหลังจากขายกองทุน BTSGIF จากเงินปันผลรับ และโอกาสในการเข้าไปบริหารรถไฟฟ้าสายใหม่ในอนาคต และ นอกจากนี้ ธุรกิจสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้าBTS และ Modern Trade ผ่านบริษัท VGI ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับ BTS-W2 แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาปัจจุบัน ยังต่ำกว่า Intrinsic Value ที่ 0.74 บาท อยู่ 4%
*เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะทยอยสะสม
บทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่าราคาหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ยังมีแนวโน้มเชิงบวกต่อเนื่อง จากความคืบหน้าในการออกขายกองทุน Infrastructure Fund หรือ BTSGIF โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อช่วงวันที่ 29 มี.ค. – 4 เม.ย. 2556 และเข้าซื้อขายในตลท.วันที่ 19 เม.ย.2556
โดยคาดว่าหลัง BTS ได้เงินจากการออกขายกองทุน BTSGIF จะส่งผลให้มีเงินสดส่วนเกินและสามารถจ่ายเงินปันผลพิเศษได้ราว 0.80-1 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 9.1-11.3% และมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานใน 4Q55/56 ว่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านมาและไตรมาสที่ผ่านมาจากจำนวนผู้โดยสาร และตู้ให้บริการที่เพิ่มขึ้นและธุรกิจโฆษณายังมีทิศทางขยายตัวโดดเด่นผ่านบริษัทย่อย VGI
ขณะเดียวกันยังคาดว่ากำไรปกติปี 2555/2556 จะเติบโตสูงถึง +108.6% yoy เป็น 1,986 ล้านบาท และปี 2556 / 2557 เติบโต +77.2% yoy เป็น 3,520 ล้านบาท จากแรงหนุนของการปรับขึ้นค่าโดยสารขึ้นอีกไม่เกิน 10% ตั้งแต่เดือน เม.ย.2556 เป็นต้นไป จึงแนะนำทยอยสะสม โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 9.10 บาทต่อหุ้น
*จ่อขึ้นค่าโดยสารQ2/56 หลังต้นทุนค่าแรงและค่าไฟเพิ่ม
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บีทีเอสเตรียมปรับขึ้นค่าโดยสารในเดือนเม.ย.หรือมิ.ย.นี้ หลังจากต้นทุนค่าไฟฟ้า ค่าจ้างแรงงาน และค่าซ่อมบำรุง เพิ่มขึ้น แต่จะปรับขึ้นเป็นเท่าใดนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด คาดว่าได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งตามสัญญาสัมปทานยังเปิดช่องให้สามารถปรับขึ้นค่าโดยสารที่ระดับ 18-51 บาท หรือมีส่วนต่างที่ปรับขึ้นได้อีก 25% โดยก่อนหน้านี้ที่บริษัทปรับขึ้นค่าโดยสารคือช่วงปี 2548 ได้ปรับขึ้นเฉลี่ย 10%
'ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ประกอบกับต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมีแผนจะปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าขึ้นจากเดิมที่บริษัทมีเพดานค่าโดยสารอยู่ที่ 45 บาท เนื่องจากต้นทุนของบริษัทประมาณ 70-80% มาจากต้นทุนค่าไฟฟ้า ค่าแรง และค่าซ่อมบำรุง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น