หุ้นยูนิเวนเจอร์กับโออิชิของกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี หมดแรงราคาดิ่งต่อเนื่อง หลังเข้าดัชนีเอ็มเอสซีไอ
ตามที่มอร์แกน สแตนเลย์ แคปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนล (Morgan Stanley Capital International: MSCI) หรือ เอ็มเอสซีไอ ได้ประกาศรายชื่อหุ้นไทยที่ถูกเข้านำเข้าคำนวณดัชนีเอ็มเอสซีไอ โกลบอล สแตนดาร์ด และเอ็มเอสซีไอ โกลบอล สมอลล์ แคป โดยดัชนีเอ็มเอสซีไอ โกลบอล สแตนดาร์ด มีหุ้นที่เข้าคำนวณดังนี้ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์(HMPRO) ,บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ( MINT) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ( TRUE )
ส่วนดัชนีโกลบอล สมอลล์ แคป พบว่ามีรายชื่อหุ้นที่ถูกเข้าคำนวณ ได้แก่บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ( ANAN),บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ ( BMCL), บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW),บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ ( EA),
นอกจากนี้ยังมีบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY) บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL), บริษัท เจ มาร์ท(JMART),บริษัท บัตรกรุงไทย ( KTC),บริษัท มาลีสามพราน ( MALEE) บริษัท แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK),บริษัท ออฟฟิศเมท (OFM), บริษัท โออิชิ กรุ๊ป (OISHI),บริษัท สามารถเทลคอม ( SAMTEL),บริษัท เอสพีซีจี ( SPCG), บริษัทไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม(TFD), บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE),บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม ( UMI),บริษัท ยูนิ เวนเจอร์ (UV),บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย ( VGI) และบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น( WHA)
จากข้อมูลข้างต้น เมื่อนำราคาของหุ้นที่ถูกประกาศนำเข้าไปคำนวณดัชนีเอ็มเอสซีไอรอบล่าสุดมาคำนวณ ปรากฏว่าราคาหุ้น 8 ตัวเพิ่มขึ้น ดังนี้ หุ้นไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น18.8% หุ้นทรูคอร์ปอเรชั่นเพิ่ม 11.35% บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ เพิ่มขึ้น 6.84% หุ้นสามารถเทลคอมเพิ่ม 6.86% บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ ขึ้น 3.29% หุ้นไมเนอร์ (MINT) เพิ่ม 2.23% บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น( WHA) 2.25% บริษัท เอสพีซีจี 1.56%
ขณะเดี่ยวกันมีหุ้นอื่นๆอีกหลายตัวมีราคาปรับลดลง โดยเฉพาะหุ้นที่กลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดีถืออยู่ ได้เแก่ บริษัท ยูนิ เวนเจอร์ ราคาลดลง 11.28% บริษัท โออิชิ กรุ๊ป ลดลง 15.58%
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่ง กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำให้ซื้อหุ้นไทยพัฒนา เนื่องจากคาดว่าจะเข้าคำนวณดัชนี เซท 100 และคาดกำไรไตรมาส2ปี2556 จะกลับมาฟื้นตัว จะโตก้าวกระโดดกว่าไตรมาส 1 ปี 2556 จากการที่บริษัทมีแผนจะขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ ภายในไตรมาส 2ปี2556 มูลค่า 975 ล้านบาท และไตรมาส4 ปี2556 มูลค่า 1.8 พันล้านบาท หนุนกำไรปี2556 ทำสถิติสูงสุดใหม่
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า บริษัทโออิชิ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1.5 หมื่นล้านบาทเติบโต 30% โดยธุรกิจอาหารคาดว่ามีอัตราการเติบโตของร้านอาหารเดิม 4% และขยายสาขาร้านอาหารใหม่เพิ่ม 50 สาขา เป็น 203 สาขา โดยเน้นการเปิดร้านชาบูชิ ซึ่งให้มาร์จินสูง เมื่อบวกกับการลงทุนในครัวกลางใหม่ที่จะสร้างเสร็จในเดือน ก.ย. 2556 และธุรกิจขนมสาหร่ายโอโนริ คาดจะถึงจุดคุ้มทุน ซึ่งปีก่อนขาดทุนจากค่าโฆษณา 100 ล้านบาท น่าจะหนุนให้ส่วนต่างจากกำไรสุทธิ ธุรกิจอาหารเพิ่มมากกว่า 5%
ขอบคุณที่่มา:กรุงเทพธุรกิจ
TFD,OISHI
ตอบลบ