ช่วงเวลาของ Bland กำลังจะกลับมา(บทวิเคราะห์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)part.1
คำชี้แจงที่สำคัญ : บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีธุรกิจกับบริษัทในเครือหรือบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ บมจ. บางกอกแลนด์ (BLAND)
ประเด็นการลงทุน : เรามีมุมมองในเชิงบวกต่อ BLAND โดยคาดว่า BLAND จะเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากทีสุดหุ้นหนึ่งนับจากนี้ไป หลังจากเราได้เข้าพบคุณอนันต์ กาญจนพาสน์ ซึ่งถือว่าเป็นการให้ข้อมูลกับนักวิเคราะห์ MBKET เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี จุดเด่นของ BLAND ที่เราชอบ ได้แก่1) ความเป็นผู้นำในการบริหารศูนย์แสดงสินค้า โดยปัจจุบัน IMPACT มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 2) การนำเอา REIT มาใช้เป็นเครื่องมือในการระดมทุนเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว 3) บทบาทของการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินที่มีต้นทุนต่ำบริเวณศรีนครินทร์รอพัฒนาอีกมาก ส่งผลให้มีความได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องราคาขาย และ 4) บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งไม่มีหนี้สิน ดังนั้น เราจึงแนะนำ ซื้อ BLAND โดยมีราคาเป้าหมาย 12 เดือน เท่ากับ 2.8 บาท คิดเป็น Upside gain จากราคาปิดที่ 1.83 บาท เท่ากับ 53%
REIT จะหนุนให้ปีนี้โดดเด่น: ในช่วงปลายปีนี้ BLAND จะจัดตั้งกองทรัสต์หรือ REIT โดยสินทรัพย์ที่ใช้คือ IMPACT ทั้งหมดมูลค่ากองทุนประมาณ 19,000 ล้านบาทและ BLAND จะกลับเข้าไปถือ 50% ของหน่วยทั้งหมด เราคาด BLAND จะได้เงินทุนหมุนเวียนเข้ามา 8,000 ล้านบาทและกำไรพิเศษสุทธิประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งกลยุทธ์ของบริษัทในอนาคตคือจะนำสินทรัพย์ที่มีอยู่จัดตั้งเป็น REIT อย่างต่อเนื่องและนำผลตอบแทนที่ได้กลับเข้าลงทุนโดยเน้นการดึงสินทรัพย์ที่มีอยู่ซึ่งยัง Under Value ให้มี Value เพิ่มขึ้นเพื่อต่อยอดผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น เราประเมินว่ากลยุทธ์นี้ BLAND เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการไม่กี่รายในประเทศไทยที่สามารถทำได้ และด้วยศักยภาพของสินทรัพย์ที่มีคาดว่าจะทำให้บริษัทเติบโตในระยะยาวได้
โครงการใหม่ 3 แห่งที่เป็นกุญแจหลักและบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเพียงพอ : เราให้ความสำคัญกับโครงการใหม่ของ BLAND ในช่วง 1 – 3 ปีข้างหน้าอยู่ 3โครงการใหญ่ด้วยกันคือ IMPACT 2 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มพื้นที่เช่าจากเดิมกว่า 50% หรืออีก 100,000 ตร.ม. กำหนดสร้างเสร็จปี 2558 และอีก 2 โครงการใหญ่ซึ่งจะใช้ที่ดิน Land Bank เดิมและเน้นการเพิ่มมูลค่าโดยที่อยู่นอกเมืองทองธานีคือ โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบบริเวณศรีนรินทร์บนที่ดินกว่า 1,000 ไร่จะเริ่มเห็นเฟสที่ 1 ในช่วงเดือน ต.ค. นี้ และโครงการโรงแรม 5 ดาวบริเวณมักกะสัน นอกจากนี้จะเราจะเห็นส่วนที่เป็นโครงการต่อเนื่องในปีนี้ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม Double Lake เฟส 2-3 และโครงการศูนย์การค้าขนาดเล็กในเมืองทองธานี โดยทั้งหมดคาดจะใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 10,000 – 15,000 ล้านบาทและเราเชื่อว่า BLAND มีศักยภาพด้านการเงินแข็งแกร่งเพียงพอสนับสนุนด้วยเงินทุนหมุนเวียนที่ได้มาจาก REIT
กำไรปี 2556/2557 ได้แรงหนุนจาก REIT: เราประเมินกำไรสุทธิของ BLAND ในปี 2556/2557 เท่ากับ 4,141 ล้านบาท (+77% YoY) โดยได้แรงหนุนกำไรพิเศษจาก REIT สุทธิประมาณ 2,800 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะจัดตั้งได้ในช่วงปลายปี 2556 อย่างไรก็ตามเรายังไม่ได้รวม IMPACT 2 โรงแรมมักกะสัน และ IBIS ในประมาณการซึ่งจะเป็น upside risk ในอนาคตในปี 2558
ความเสี่ยง : ความต้องการใช้พื้นที่ศูนย์แสดงสินค้ามีความสัมพันธ์กับการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระดับโลก ภูมิภาค และเศรษฐกิจในประเทศค่อนข้างมาก ดังนั้น หากมีปัจจัยที่กระทบต่อความเชื่อมั่นและการบริโภค อาจะมีผลต่อระดับค่าเช่าและการใช้พื้นที่ได้
เริ่มต้นคำแนะนำที่ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.80 บาท/หุ้น : จากสมมติฐานการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี P/BV เนื่องจาก BLAND มีสินทรัพย์ที่โดดเด่นและสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ที่ยังต่ำกว่ามูลค่าจริงโดย BLAND อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำสินทรัพย์มาพัฒนาและเพิ่มผลตอบแทน เราให้ระดับราคาเป้าหมาย P/BV เท่ากับ 1.6 เท่า ราคาเป้าหมายเท่ากับ 2.80 บาท/หุ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น