วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

โบรกแนะเลือกซื้อ 10 หุ้นเด่นดัชนียังผันผวน ขายทำกำไรสั้น จีนยันคุมสภาพคล่องได้

โบรกแนะเลือกซื้อ 10 หุ้นเด่นดัชนียังผันผวน ขายทำกำไรสั้น จีนยันคุมสภาพคล่องได้


Wednesday, 26 June 2013



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 10.02 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31.05 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่ในแดนบวกและลบ หลังจีนส่งสัญญาณสามารถจัดการกับปัญหาสภาพคล่องระยะสั้นได้ บวกกับดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง สำหรับดัชนีหุ้นไทย ล่าสุดอยู่ที่ 1,403.21 จุด บวก 18.58 จุด นักวิเคราะห์คาดวันนี้มีลุ้นทดสอบและยืนเหนือ 1400 จุดอีกครั้ง แต่ยังคงผันผวน เน้นขายทำกำไรสำหรับนักลงทุนระยะสั้น สำหรับนักลงทุนระยะยาว เน้นถือต่อ เลือกซื้อ 10 หุ้นเด่น ได้แก่ HMPRO, ESSO, KTB, ADVANC, AI,TTA, SIRI, KK, BBL และ INTUCH บล.กสิกรไทยเปิดโผลุ้น Window dressing อาทิ THAI SPCG TCAP MAJOR AOT)

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ถือหุ้นต่อ หรือซื้อเก็งกำไรสั้น โดยระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า KGI มอง SET วันพุธขึ้นต่อ ข่าวดีได้แก่ i) ทางการจีนชี้พร้อมหนุนสภาพคล่องในระบบหากจำเป็น ii) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดี และมีแรงขายพันธบัตรสหรัฐฯ (ดอกเบี้ยพันธบัตรขึ้นต่อ) แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกได้ ชี้ว่าความกังวลถอน QE รับรู้ไประดับหนึ่ง iii) กองทุนไทยซื้อสุทธิในปริมาณมากกว่าต่างชาติขายสุทธิ สะท้อนเม็ดเงิน window dressing ช่วงปิดไตรมาส 2/56 แนะนำให้ถือพอร์ตหุ้นต่อหรือซื้อเก็งกำไรสั้นในหุ้นกลุ่มหลัก แนวโน้มถึงสิ้นเดือน มิ.ย. น่าจะฟื้นตัว ในแง่การวิเคราะห์ PE band เมื่อวานนี้ SET ปิดที่ค่า Current PE 12.5 เท่า และเราคาดหวังการฟื้นตัวไปที่ 13.0 เท่า (SET ที่ 1,444 จุด)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เลือกซื้อหุ้น บิ๊กแคป KTB*, ADVANC* / หุ้นขนาดกลางพื้นฐานดี AI
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ส่วนเทรดดิ้งอาจแบ่งทำกำไรช่วงบวกบ้าง แต่ส่วนลงทุนยังแนะนำถือต่อ...
กลยุทธ์ : แรงขายของต่างชาติค่อยๆ ลดระดับลง ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ยังต้องติดตามต่ออย่างใกล้ชิด ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นซื้อใหม่ช่วงตลาดปรับตัวลงแรงไปแล้ว ก็อาจแบ่งส่วนทำกำไรในช่วงบวกบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หุ้นในส่วนที่แนะนำให้เน้นเป็นถือลงทุนก็ยังน่าถือต่อเนื่อง เพื่อรอลุ้นรอบขึ้นใหญ่ของตลาดต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค :  HMPRO, ESSO, GLOW (SBL)
แนวโน้ม : ตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมามีบรรยากาศการลงทุนที่สดใสขึ้น หลังจากช่วงบ่ายวานนี้ SET ก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาผลักดันให้ดัชนีขยับมาปิดบวกได้ดีไปแล้ว เนื่องจากนักลงทุนผ่อนคลายมากขึ้นกับปัญหาสภาพคล่องตึงตัวในจีน หลังรองผู้อำนวยการธนาคารกลางจีนสาขาเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า จีนจะดูแลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินอยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมระบุว่าสภาพคล่องที่หดตัวเป็นไปตามฤดูกาล แต่จะค่อยๆ คลี่คลายไปในที่สุด โดยยืนยันว่าความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของจีนนั้นสามารถควบคุมได้ ขณะที่ธนาคารกลางจะติดตามอัตราดอกเบี้ยอย่างใกล้ชิดต่อไป รวมทั้งตลาดหุ้นยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังแกว่งบวกต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามช่วงนี้ยังต้องติดตามยอดขายของต่างชาติที่ยังมีออกมาต่อเนื่องอยู่ แต่ก็ถือว่าเริ่มลดระดับลงบ้างเล็กน้อย
แนวรับ  1380-1377 , 1370-1366  จุด  แนวต้าน 1390-1392 , 1400-1406 , 1410 จุด
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า “โชคดี” ที่ตลาดและธนาคารฟื้นตามคาด ลุ้น 1400+ แนวโน้มตลาด: แรงกดดันปัญหาจีนคลีคลายหลังรองผู้บริหารธนาคารกลางจีนแถลงว่าความเสี่ยงด้านสภาพคล่องในตลาดการเงินของจีน เป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้ และคาดว่าปัจจัยที่ทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดอินเตอร์แบงก์พุ่งขึ้นจะค่อยๆ ลดลงในไม่ช้า ดึงจิตวิทยาการตลาดเอเชียและหุ้นโลกขึ้น ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ พ.ค. ที่ออกมาดี อย่างไรก็ตามหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนเป็นอย่างมากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีซึ่งเป็นลบต่อมาตรการ QE น่าจะยังเป็นประเด็นที่ตลาดกังวลต่อไป สำหรับหุ้นไทยได้อานิสงค์ฟื้นตัวขึ้นมาจากบาทที่เริ่มกลับมาแข็งค่าและเงินเยนที่อ่อน รวมถึงแรงเก็งกำไรจาก Window dressing ทำให้เกิดการผลักดันหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับลงแรงขึ้นมา ซึ่งการฟื้นอาจจะยังไม่ยั่งยืนและและต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ปัจจัยอื่น/ ปรับครม. – กระแสข่าวระบุนายกฯเตรียมเสนอปรับครม. 28 มิ.ยนี้ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวรมว.คลังและคมนาคมจะไม่เกิดผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนโครงสร้างภาครัฐ / หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงสุดรอบ 5 ปี – ส่งผลลบต่อกลุ่มเช่าซื้อ ทำให้การฟื้นตัวของราคาหุ้นเที่ยวนี้อาจช้า /ผลกระทบจากจีนต่อกลุ่มธนาคาร - BBL ปล่อยกู้จีนต่ำกว่า 2% ของเงินกู้ทั้งหมดในสกุลหยวน ขณะที่ KBANK ปล่อยกู้ต่ำ 1% และปล่อยในสกุลเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ผลกระทบต่อธนาคารทั้ง 2 แห่งไม่น่ากังวล / MAJOR – ขยายธุรกิจไปกัมพูชาและจะเริ่มเปิดดำเนินการต้นปี 2557 ทั้งนี้ผู้บริหารเตรียมปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่ม 30% และน่าจะรายงานกำไร 2Q56 ดีมาก
กลยุทธ์การลงทุน: “จีลุ้น 1400 เป้าแรก โชคดีอาจถึง 1440-1460” กลุ่มธนาคารจากการที่ลงเยอะยังเป็นเป้าหมาย Windows dressing เราชอบ KTB ซึ่งมีต่างชาติถือน้อยน่าจะมีแรงขายสวนต่ำ จึงทำให้ลุ้นแรงซื้อในประเทศพาฟื้นได้ดีกว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังไม่นิ่ง รวมถึงการขายของต่างชาติที่ยังไม่ชะลอ ทำให้การลงทุนช่วงนี้ยังเป็นแบบเก็งกำไรที่ควรตั้งจำกัดความเสี่ยง หุ้นแนะนำ TTA KTB KK / (หุ้นลุ้น Window dressing อาทิ THAI SPCG TCAP MAJOR AOT)
สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: คงน้ำหนักการลงทุนที่ 60% หลังลดไป 20% ใน 2 ครั้ง (22 ก.พ. และ 20 มี.ค.) จากที่วางแผนจะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้น เราขอชะลอเพื่อประเมินภาพความผันผวนที่เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนให้พรีเมียมกับการลงทุนลดลง (de-rating) ก่อนปรับน้ำหนักการลงทุนอีกครั้
บล.ไทยพาณิชย์ ระบุว่า SET ผันผวนเช้าดิ่งลึก บ่ายเด้งแรง Sentiment บวกมาจากธนาคารกลางจีนเรียกความเชื่อมั่นว่าปัญหาสภาพคล่องเกิดเพียงชั่วคราว และพร้อมช่วยเหลือบางธนาคารหากมีปัญหา ด้านภาพรวม เรายังมอง SET เป็นช่วงท้ายของรอบการถดถอย โดยมีแนวรับหลักอยู่ที่ 1330 และ 1300 จุด ส่วนล่าสุด จะยืนยันว่าเริ่มเปลี่ยนแนวโน้มแล้ว การถดถอยไม่ควรต่ำกว่า แนวรับระยะสั้นที่ 1362 และ 1345 จุด กลยุทธ์ นักลงทุน รอซื้อที่แนวรับหลัก ส่วนนักเก็งกำไร เล่นรีบาวน์ต่อ โดยใช้จุดหนีหากหลุดต่ำกว่าแนวรับระยะสั้น หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ KTB และ SIRI
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตลาดหุ้นโลกผ่อนคลายลง หลังจีนส่งสัญญาณสามารถจัดการกับปัญหาสภาพคล่องระยะสั้นได้ บวกกับดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าดัชนียังมีความผันผวนแต่นักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำสะสม BBL (FV@B280) และ INTUCH (FV@B122) และเลือกเป็น Top picks
บล.ฟิลลิป ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวน โดยมีแรงเหวี่ยงระหว่างวันกว่า 50 จุด ก่อนจะปิด+ 20.54 จุดมาที่ 1384.63 จุด หลังทางการจีนออกมาบอกว่าสถาบันการเงินภายในประเทศยังแข็งแกร่ง โดย SET วันนี้ มีโอกาสฟื้นตัวต่อไปทดสอบ 1400 ตามบรรยากาศลงทุนในภูมิภาค มองกรอบเคลื่อนไหวระหว่าง 1365-1400 ซึ่งถ้ายืนได้ แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1420 แต่ยังน่าระวังความผันผวนในระหว่างวันที่ค่อนข้างสูง
ปัจจัยหนุนตลาดเกิดจากข้อมูลศก.ที่ดีกว่าคาดของสหรัฐ ทำให้คลายวิตกเรื่องผลกระทบจากการทยอยลดมาตรการ QE อีกทั้งคลายวิตกเรื่องจีนไประดับหนึ่ง หลังธนาคารกลางจีนเผยจะชี้นำอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่สมเหตุสมผล หากแต่ตลาดยังคงเปราะบาง ขณะที่น่าจับตาการเมืองภายในต่อไป โดยเฉพาะเรื่องคำตัดสินของศาลปกครองต่อกรณีเรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำในวันที่ 27 มิ.ย. แนวต้าน : 1400-1420 แนวรับ : 1364-1350

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น