ผิดไปก็ต้องยอมรับและแก้ไข

คอลัมน์ วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 6 คน 

วันที่หุ้นตกแรง 43 จุด สื่อบางฉบับถึงกับพาดหัวว่า หุ้นตกแรงเพราะรัฐบาลจะพังจากการจำนำข้าว

จริงแท้แล้วก็คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก หุ้นตกแรงเพราะความไม่แน่ใจในเรื่องคิวอี 3 ที่จะมีการต่ออายุมาตรการหรือจะยุติมาตรการมากกว่า

แต่ก็นั่นแหละ บาดแผลจากการจำนำข้าว ที่มีผลขาดทุนในฤดูการผลิตปี 2554/2555 ถึง 1.36 แสนล้านบาท ก็มีส่วนทำให้เกิดบรรยากาศขมุกขมัวจริงๆ

รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่มาเกือบจะ 2 ปีก็มีเรื่องจำนำข้าวนี่แหละ ที่ต้องตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำอย่างจะแจ้งที่สุด

เป็นความผิดพลาดที่ถึงพร้อมทั้งแนวคิดยุทธศาสตร์ และการบริหารจัดการ

ความผิดพลาดทางแนวคิดยุทธศาสตร์ก็โดยคิดว่า ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตข้าวส่งออกหมายเลข 1 ของโลก จะสามารถเป็นผู้กำหนดราคาตลาดได้ โดยดูดสินค้าเข้ามาอยู่ในมือรัฐ ทำให้ราคาในตลาดโลกขยับ

หรือที่เรียกว่าการคอร์เนอร์ตลาด

แต่ข้าวก็ไม่เหมือนกับน้ำมัน ที่มีเฉพาะแหล่ง และความต้องการก็มีอยู่อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีคำว่าผลผลิตล้นตลาด

ส่วนข้าวนั้น ถ้าการชลประทานไปถึง ที่ไหนก็ปลูกได้ ปลูกกันปีละ3ครั้งก็ยังได้เลย ผลผลิตจึงออกมาสู่ตลาดอย่างไม่หยุดยั้ง

ยิ่งรัฐบาลตั้งราคาจำนำสูงกว่าราคาตลาด 30-40% ผลผลิตข้าวในประเทศทั้งหมดก็ยิ่งหลั่งไหลเข้ามาจำนำกับรัฐบาล และรัฐบาลก็ไม่สามารถระบายข้าวออกในราคาที่ขาดทุนได้

สำหรับการบริหารจัดการนั้น ก็ต้องบอกว่าปล่อยปละละเลยกันมามาก มีอย่างที่ไหน จำนำข้าวกันมาเกือบจะ 2 ฤดูการผลิตแล้ว เพิ่งจะมาแถลงปิดบัญชีผลประกอบการปีแรกกันได้

ปล่อยให้มีการถล่มโจมตีนโยบายจำนำข้าวมาตั้งแต่จำนำข้าวเม็ดแรก รัฐมนตรีพาณิชย์ผู้รับผิดชอบกลับไม่เคยเปิดเผยชี้แจงรายละเอียดใดๆ

ข้าวจีทูจีที่ไปทำสัญญากับประเทศต่างๆมีเท่าไหร่กันแน่ การระบายข้าวในแต่ละเดือนที่เคยเป็นประเพณีของกระทรวงพาณิชย์กันมาทุกยุคทุกสมัย ก็มาล้มเลิกไปในยุคนี้

รัฐมนตรีบุญทรง เตริยาภิรมย์ ทำลับๆ ล่อๆ มาตลอด ท่ามกลางข่าวฉาวเรื่องข้าวสวมสิทธิ การระบายข้าวที่ไม่โปร่งใส เอื้อประโยชน์พรรคพวก และการจำนำข้าวที่มีแต่ลม

มันก็น่าอยู่หรอก ที่พอมีตัวเลขฟ้องออกมา ถึงมีสหบาทาถล่มรัฐบาลจนเสียศูนย์

นี่คือหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ส่งสัญญาณว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังย่างก้าวเข้าสู่จังหวะ “ขาลง” แล้ว และก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่สุดของฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์ในกลารถล่มเป้าโจมตี

เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องหาทางคิดอ่านแก้ไขให้ดี เมื่อก้าวผิดไปก็ต้องยอมรับผิดและหาทางแก้ไขให้ดีที่สุด

การตัดสินใจปรับลดราคารับจำนำลงมา ผมไม่แน่ใจว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะฝ่าดงเลือดคราวนี้ไปได้

ยิ่งไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และไม่จัดการกับเรื่องราวฉาวโฉ่ที่มีเสียงครหามาตลอดว่า คนในครอบครัวชินวัตรได้ประโยชน์อย่างจริงจัง ก็อย่าหวังเลยว่า ประชาชนจะให้โอกาสเหมือนที่ผ่านมา

รัฐบาลขาลง ก็เหมือนภูมคุ้มกันบุคคลบกพร่อง ย่อมไม่พร้อมจะเดินหน้ากิจการอื่นใดต่อไปได้ นี่คือสัจธรรมทางการเมือง

บางทีการปรับ ครม.ก็ยังไม่เพียงพอ อาจถึงขั้นต้องยุบสภา เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ ได้ตัดสินใจกันใหม่

โดย...ชาญชัย  สงวนวงศ์