JAS - TRUE สะดุ้ง! INET ผนึกซีทีเฮช จุดสงครามไฮสปีดเน็ตระอุ
JAS - TRUE สะดุ้ง หลัง INET เสริมเขี้ยวติดปีกผนึก เคเบิลไทยโฮลดิ้ง หรือ CTH ซ่องสุมขุมกำลังจ่อดำเนินธุรกิจให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 50 เมกะบิท 599 บาทโดยทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรร่วมกัน 3 ปี ทุ่มลงทุนเฟสแรกไปแล้ว 3,000 ล้านบาท ให้บริการ 5 แสนพอร์ตผ่านเครือข่าย FTTx แล้วเสร็จกุมภาพันธ์ปีหน้า ฟากโบรกเกอร์ชี้ผู้ท้าชิงเดินเกมหนักราศีจับมีโอกาสกำไรโตกระโดด กิมเอ็งประเมินราคาพื้นฐานหุ้น INET ที่ 7 บาท ส่วน JAS ยังไม่โดนปรับลดราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานในขณะนี้ ธนชาต ให้ที่ 11.40 บาท เชื่อ 1 - 2 ปีนี้ไร้เกมสงครามราคา
หลังมีรายงานว่า เคเบิลไทยโฮลดิ้ง จำกัด (CTH) กำลังจับมือ บริษัทอินเตอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเน็ต (iNet) ดำเนินธุรกิจให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรร่วมกัน 3 ปี ด้วยโปรโมชั่นสุดล่อใจ 50 เมกะบิตต่อวินาที ขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่นจะอยู่ที่ 20 เมกะบิตต่อวินาทีราคาขั้นต่ำ 599 บาทต่อเดือน ก็ทำให้ความสนใจจากทุกสารทิศมุ่งตรงมาทันทีซึ่งขุมกำลังของคู่แข่งเก่าที่ได้พันธมิตรใหม่นับเป็นความน่าเกรงขามที่รายเจ้าตลาดเดิม ต้องระวังทุกฝีก้าว
***INET เสริมเขี้ยวติดปีก เป็นพันธมิตรกับ เคเบิลไทยโฮลดิ้ง หรือ ซีทีเฮช รายงานข่าวจาก กรรมการบริษัท เคเบิลไทยโฮลดิ้ง จำกัด (CTH) เปิดเผยว่า บริษัทอินเตอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเน็ต (iNet) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพันธมิตรกับ CTH เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรร่วมกัน 3 ปี โดยการลงทุนเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตในครั้งนี้ เฉพาะเฟสแรก ลงทุนไปแล้ว 3,000 ล้านบาท ให้บริการ 5 แสนพอร์ตผ่านเครือข่าย FTTx ซึ่งจะทำการติดตั้งเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ครอบคลุมเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จุดขายสำคัญของ CTH คือ ความเร็วของอินเตอร์เน็ตที่ให้บริการขั้นต่ำอยู่ที่ 50 เมกะบิตต่อวินาที ขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่นจะอยู่ที่ 20 เมกะบิตต่อวินาที โดยขั้นต่ำราคาการให้บริการคือ 599 บาทต่อเดือนเท่านั้น ขณะที่มีรายงานข่าวจาก บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (INET) เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 มีข่าวว่าบริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพันธมิตรธุรกิจกับ บริษัท CTH นั้น ทางบริษัทไม่ได้ปฏิเสธเรื่องดังกล่าว และยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมจะชี้แจงในขณะนี้
***แผนงานชัด ประมาณการกำไรพุ่งทันที บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า หลังมีความชัดเจนการร่วมพันธมิตรให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสาย Fiber optic กับ CTH ซึ่งเป็นธุรกิจที่ INET มีความเชี่ยวชาญอยู่เดิมแล้ว และมีโครงข่ายในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลแล้วเช่นกันทำให้เงินลงทุนไม่สูง และได้รายได้จากส่วนแบ่งรายได้ร่วมกับ CTH คาดที่ 20% เป็นรายได้ปี 2557 เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2557 ขึ้น 44% แต่คงกำไรปี 2556 อ้างอิง PER 15 เท่า ได้ราคาเป้าหมาย 7.00 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ โดยอ้างอิงการประมาณการแบบระมัดระวัง(เนื่องจากบริษัทยังไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนแบ่งรายได้) เราคาดจำนวน Subscriber ตลอดปี 2557 – 2559 ที่ 3.5 แสนราย, 4.6 แสนราย และ 5 แสนราย ตามลำดับ ขณะที่ CTH ตั้งเป้า 5 แสนรายในปีแรกของการให้บริการ และประเมินส่วนแบ่งรายได้ที่เพียง 20% (เทียบเคียงส่วนแบ่งรายได้บริการ WiFi ของ JAS และ ADVANC ที่ 70:30) ประเมินอัตรากำไรสุทธิที่ 35% ใกล้เคียงกับ JAS เนื่องจาก INET ไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างโครงข่ายใหม่ทั้งหมด ปัจจุบันครัวเรือนใช้งาน Broadband ราว 4 ล้านครัวเรือนหรือ 20% ของจำนวนครัวเรือทั้งหมด ซึ่งถือว่ายังต่ำเมื่อเทียบกับเอเชียที่การเข้าถึง Broadband ไม่ต่ำกว่า 30% และมี Speed ที่เร็วกว่าประเทศไทยมาก ทำให้อุตสาหกรรมยังมีโอกาสการเติบโตสูง การเข้ามาของ CTH และ INET เป็นการเปลี่ยนแปลงตลาด Broadband ครั้งสำคัญ เนื่องจากเป็นการให้บริการความเร็วสูงถึง 50 Mbps ในราคาที่ไม่แพง ทำให้จำนวน Subscriber 5 แสนรายในปีแรก มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งจากผู้บริโภคที่ใช้บริการ Broadband ของคู่แข่งที่เปลี่ยนมาใช้บริการของ CTH และลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อน นอกจากนี้ CTH ยังมี Content อย่าง EPL ขายพ่วงกับ Package อินเตอร์เน็ตได้ช่วยเพิ่มฐาน Subscriber ได้เร็วขึ้น ประเมินกำไรสุทธิจากงาน FTTx ของ INET ปี 2557 – 2559 ที่ 79 ล้านบาท, 201 ล้านบาท และ 237 ล้านบาท ตามลำดับ ทำให้กำไรสุทธิปี 2557 – 2558 ถูกปรับเพิ่มขึ้น 44% และ 105% เป็น 173 ล้านบาท และ 287 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่เรายังคงประมาณการกำไรปี 2556 ที่ 61 ล้านบาท คิดเป็น EPS ปี 2556 – 2557 ที่ 0.25 และ 0.69 บาทตามลำดับ
***ปีหน้าเห็นผลดีชัด บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า จากการสอบถามผู้บริหาร INET ระบุ บริษัทจะรับรู้รายได้จากการร่วมให้บริการกับ CTH ในรูปส่วนแบ่งรายได้ (Revenue sharing) ปัจจุบันรอเซ็นสัญญาเป็นทางการ ซึ่งหลังจากเซ็นสัญญาแล้ว INET จะใช้เวลาติดตั้งอุปกรณ์เพื่อให้บริการตามเงื่อนไขของ CTH เราคาดว่า INET จะเริ่มรับรู้รายได้จากการเปิดให้บริการต้นปี 2557 และเป็นมูลค่าเพิ่มให้กับมูลค่าเหมาะสมปีหน้า ทว่าไม่กระทบ SYMC การให้บริการเคเบิ้ลทีวีของ CTH ยังคงใช้โครงข่ายหลักของ SYMC (Core Network) โดยสัญญาระยะเวลา 3 ปี มีมูลค่าประมาณ 142 ล้านบาท ปัจจุบัน SYMC เริ่มรับรู้รายได้ให้บริการโครงข่ายกับ CTH แล้วใน 1Q56 เรามองว่าธุรกิจเคเบิ้ลทีวียังเป็นบริการหลักของ CTH ซึ่งเป็นบริการคนละประเภทกับ Internet Broadband เรามองว่าการขยายบริการของ CTH ครอบคลุมบริการลักษณะ Triple play ประกอบกับการเพิ่ม Application ใหม่ๆ ของผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นโอกาสต่อ SYMC ในการใช้งานโครงข่ายเพิ่มขึ้น
****JAS และ TRUE เสียวสันหลังวาบ บทวิเคราะห์ยังระบุอีกว่า กรณีดังกล่าวเป็นข่าวลบต่อ JAS และ TRUE มองว่าข่าวนี้เป็น “ลบ” ต่อ JAS และ TRUE ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงปัจจุบัน เนื่องจากหากเทียบค่าบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของ JAS (แบรนด์ 3BB) ให้บริการ FTTX ความเร็วเริ่มต้น 30 Mpbs ที่ราคา 1,200 บาทต่อเดือน และ TRUE ให้บริการเคเบิ้ลอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเทคโนโลยี Docsis ความเร็วเริ่มต้น 10 Mpbs ที่ราคา 599 บาทต่อเดือน เรามองว่าการเปิดตัวบริการ Internet Broadband ของ CTH ด้วยความเร็วขั้นต่ำและราคาที่จูงใจกว่าคู่แข่งจะทำให้การแข่งขันในตลาด Internet Broadband รุนแรงขึ้น
***ตลาดเลี่ยงเกมแข่งราคา ขาใหญ่ JAS ยังไม่สะเทือน บล.ธนชาต ระบุว่า จากประเด็นดังกล่าวข้างต้น บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ต้องพิจารณาความครอบคลุมเครือข่ายและบริการของ CTH ในเวลานั้นว่าจะสามารถให้บริการบรอดแบนด์ที่ดีให้กับผู้บริโภคได้หรือไม่ ก่อนที่จะเปิดตัวแพคเกจใหม่เข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าการแข่งขันในปี 2014 จะอยู่ในรูปแบบของการเพิ่มความเร็วของอินเทอร์เน็ตแทนการตัดราคา ในขณะที่บริการของ CTH ยังมีข้อ จำกัด ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ในมุมมองของเรา เราคงเชื่อว่าการแข่งขันจาก CTH จะเพิ่มขึ้นในปี 2015 และประมาณการของเราได้รวมปัจจัยการใช้กลยุทธ์ตัดราคา ในปี 2015 โดยสมมติราคา ADSL ลดลง 5% และราคา FTTH ลดลง 17% เนื่องจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจาก CTH คงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายที่ 11.40 บาทต่อหุ้น เราคงชอบ JAS เพราะมีกำไรที่แข็งแกร่ง, คาดการณ์การเติบโตของกำไรต่อหุ้นที่ 54%, 35% และ 19% ในปี 2013-15, ROE ที่แข็งแกร่งมากกว่า 33% และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยการเปลี่ยนเป็นสถานะเงินสดสุทธิในปี 2015F นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน consumer plays ที่ถูกที่สุดในประเทศไทยที่ PE 19.7x ใน 2013 F และ 14.6x ใน 2014F
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น