วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แบงก์กรุงไทยรับส้มหล่น

การเมือง วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 6 คน 

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบทบทวนแหล่งเงินกู้ในประเทศไทย สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะที่ 3 แทนการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) วงเงิน 31,772.35 ล้านเยน หรือ 11,755.77 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณาจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมตามความจำเป็น และให้นำเสนอรัฐสภาเพื่อรับทราบการเปลี่ยนแปลงแหล่งเงินต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนการลงทุนหลักโครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2556-2559 ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ในส่วนของโครงการใหม่ จำนวน 92 โครงการ วงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท และแผนการลงทุนหลักเพื่อพัฒนาระบบประปา สาขาเชียงใหม่ วงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท โดยใช้จากการกู้เงินภายในประเทศ
ทั้งนี้คาดว่าแบงก์ที่กระทรวงการคลังจะกู้น่าจะเป็นแบงก์กรุงไทยและออมสิน เนื่องจากได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าแบงก์พาณิชย์ที่เหลือแบงก์ใหญ่อย่างกรุงเทพ กสิกรไทย และไทยพาณิชย์ รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีอื่นที่เหลือด้วย
สาเหตุที่คลังเสนอให้มีการทบทวนแหล่งเงินกู้ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่บางซื่อ) ระยะที่ 3 แทนการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านองค์การความร่วมมือ ระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) เนื่องจากต้นทุนสูงกว่าการกู้เงินในประเทศ โดยให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมตามความจำเป็น และให้เสนอรัฐสภา เพื่อรับทราบการเปลี่ยนแปลงแหล่งเงินต่อไป  "ตามพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 ระบุว่าหากมีการเปลี่ยนแหล่งเงินกู้ ต้องเข้าที่ประชุมครม.เพื่อขออนุมัติ อีกทั้งกรอบเจรจา เรื่องนี้ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา
ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงแหล่งเงินกู้ จึงต้องเสนอให้รัฐสภาทราบด้วย ทั้งนี้การหาแหล่งเงินกู้สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ดำเนินการมาแล้ว 2 ระยะ เป็นการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นผ่านไจก้า ซึ่งกระทรวงการคลัง ค้ำประกัน และอยู่ระหว่างเบิกจ่าย ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังต้องดำเนินการตาม แผนบริหารความเสี่ยงหนี้ต่างประเทศจาก หนี้เงินเยนเป็นเงินบาทเมื่อมีการเบิกจ่ายเงินกู้แล้ว
สำหรับการกู้เงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ของรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีการกู้เงินทั้งโครงการ 110,853.40 ล้านเยน หรือ 37,733 ล้านบาท แบ่งการกู้เงิน ออกเป็น 3 ระยะ 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะ 1 วงเงิน  62,442.00 ล้านเยน หรือ 19,876.79 ล้านบาท  2.โครงการรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะที่ 2 วงเงิน 16,639.00 ล้านเยน หรือ 6,100.44 ล้านบาท และ 3.โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ - บางซื่อ) ระยะที่ 3 วงเงิน 31,772.35 ล้านเยน หรือ 11,755.77 ล้านบาท
จากโครงการรถไฟฟ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) เงินกู้ระยะที่ 3  ซึ่งเป็นการกู้งวดสุดท้าย พบว่าหลังจากไทยได้ถูกปรับสถานะจาก Middle-Income Conuntry เป็น Upper - Middle - Income Conuntry ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น จากเดิมเงินกู้อายุ 15, 20 และ 25 ปี อัตราดอกเบี้ย แบบ General Terms เท่ากับ 0.80 %, 0.95 %และ 1.40% ต่อปีปรับขึ้นเป็น 1.50%, 1.60% และ 1.70% ต่อปีตามลำดับ
ทำให้กระทรวงการคลังต้องให้ธนาคารพาณิชย์เปรียบเทียบต้นทุนการกู้เงินเยน จากไจก้าแล้วแปลงหนี้เป็นเงินบาทกับการกู้เงินในประเทศช่วงระยะเดียวกันพบว่า ในภาวะตลาดปัจจุบันการกู้เงินเยนจากไจก้าแล้วแปลงหนี้เป็นเงินบาทมีต้นทุนสูงกว่าการกู้เงินบาทในประเทศ นอกจากนี้ ไจก้าคิดค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ 0.1% ต่อปีของวงเงินที่ยังไม่เบิกจ่ายทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น