CKPขายไอพีโอ15บาท
ดีเดย์เข้าเทรด8ก.ค.นี้

ข่าวหน้าหนึ่ง วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 13 คน 

วันนี้ “ซีเค พาวเวอร์" เคาะราคาขายไอพีโอจำนวน 220 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ15 บาท เล็งเปิดให้นักลงทุนจองซื้อได้ 26-28 มิ.ย.นี้ ฟากวงในการันตีพร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในวันที่ 8 ก.ค.นี้แน่นอน ยันไม่มีเลื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP กำหนดราคาเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ไว้ที่ 12-15 บาท และคาดว่าจะสรุปราคาเสนอขายได้ภายหลังจากทำการสำรวจความต้องการซื้อขายหลักทรัพย์ (Book Build)  กับนักลงทุนสถาบันเสร็จสิ้นในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะเสนอขายในช่วงวันที่ 26-28 มิ.ย. 56 เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าซื้อขาย (เทรด) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 8 ก.ค. 56

แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ของ CKP เปิดเผยว่า วันนี้ (24 มิ.ย.) น่าจะสามารถสรุปราคา IPO ของหุ้น CKP ได้ จากกรอบราคาดังกล่าว และยืนยันว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 8 ก.ค. 56 แน่นอน ไม่มีการเลื่อน และวันที่ 25 มิ.ย.นี้ จะมีการลงนามแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย (Lead Underwriter) พร้อมทั้งแต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย (Co-Underwriters) โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส, บล.ไทยพาณิชย์, บล.บัวหลวง และ บล.เคที ซีมิโก้ เป็นแกนนำในการขายวันที่ 26-28 มิ.ย. 56

บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP จะเสนอขาย IPO จำนวน 220 ล้านหุ้น แยกเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 180 ล้านหุ้น และเป็นหุ้นสามัญของผู้ถือหุ้นเดิมนำออกมาขาย 40 ล้านหุ้น โดยจะมีการสำรวจความต้องการของนักลงทุน และกำหนดช่วงราคาขาย IPO จากราคาที่ตราไว้ (พาร์) อยู่ที่หุ้นละ 5 บาท

โดย CKP ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ และ/หรือ เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ รายได้หลักของบริษัทจึงมาจากเงินปันผลรับที่ได้จากการลงทุนถือหุ้นในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม

ปัจจุบันมีธุรกิจอยู่ 3 แบบ ได้แก่ โรงงานไฟฟ้าพลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังความร้อน มีกำลังการผลิตจากโครงการรวมทั้งหมด 874.5 เมกะวัตต์ ซึ่ง CKP จะมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนถือหุ้นทั้งสิ้น 424.9 เมกะวัตต์

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2556 จะมีแนวโน้มเติบโตได้เป็นอย่างดี เพราะช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา สามารถทำรายได้รวมสูงถึง 1,210 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานของปี 2555 มีรายได้รวม 2,578 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท

อีกทั้งปีนี้บริษัทรับรู้รายได้จากการลงทุนในโรงไฟฟ้าจำนวนมาก เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำของน้ำงึม 2 โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ปักธงชัย เป็นต้น ล่าสุดโครงการโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น โครงการ 1 กำลังผลิต 117.5 เมกะวัตต์ ซึ่ง CKP มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนถือหุ้น 76.4 เมกะวัตต์ จะเริ่มดำเนินการจ่ายไฟภายในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ โดยขณะนี้บริษัทมี D/E อยู่ 0.98 เท่า และกำหนดนโยบายที่รักษา D/E ไม่ให้เกิน 2.5 เท่า

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ CKP ในปัจจุบัน บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ถือ 38% BECL ถือ 30% TTW ถือ 30% และบริษัทที่ดินบางปะอิน 2% ซึ่งภายหลังการขาย IPO จำนวน 220 ล้านหุ้น จะส่งผลให้ CK เหลือสัดส่วน 31.8% BECL จำนวน 23.2% TTW จำนวน 25% และประชาชนทั่วไป 20%

ทั้งนี้ ภายหลังการขายหุ้น IPO นั้น CK ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่จะมีสัดส่วนถือหุ้นลดลงมาอยู่ที่ 31.8% จากปัจจุบัน 38% ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยหมุนเวียนในตลาด (Free Float) ประมาณ 20%