‘NOK’เทรดวันนี้
ยืนระดับ30บาท
พื้นฐานดีกำไรสูง
ข่าวหน้าหนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2556 ผู้เข้าชม : 6 คน
"สายการบินนกแอร์" เทรดวันนี้ราคาเหนือจอง "กูรู" ประเมินมีโอกาสยืนระดับ 30 บาท เหตุมั่นใจธุรกิจ NOK ระยะยาวเติบโตสูง มีจุดแข็งบริการเส้นทางที่ไม่มีคู่แข่ง คาดปี 56 กำไรกระฉูดที่ 1,400 ล้าน ราคา ณ สิ้นปี พุ่งเป็น 43 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึงบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ซึ่งจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นวันแรกในวันนี้ (20 มิ.ย.) ว่า เชื่อว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายวันนี้จะสูงกว่าราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ที่ 26 บาท โดยน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30 บาท ตามราคาที่ NOK เคยทำการโรดโชว์ เนื่องจาก NOK กำหนดราคา IPO ไว้ต่ำอยู่แล้ว จึงมีโอกาสที่ราคาจะกลับมาตามราคาโรดโชว์
อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาสภาพตลาดทุนในวันนี้ด้วยว่าจะมีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน รวมถึงผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะประกาศลดวงเงินของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ เพราะจะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนในประเทศไทยแน่นอน
ทั้งนี้ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ประเมินว่า NOK มีจุดแข็งที่แตกต่างจากสายการบินต้นทุนต่ำสัญชาติไทยอื่นๆ โดยเฉพาะสายการบินไทยแอร์เอเชีย คือ การที่ NOK ให้บริการเส้นทางบินที่ยังไม่มีสายการบินไหนบริการ เช่น เลย น่าน แพร่ และได้เวลาตารางบินที่เหมาะสมต่อความต้องการของผู้โดยสาร ทำให้มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน (Cabin Factor) เต็มหมดเกือบทุกเที่ยวบิน ขณะที่ไทยแอร์เอเชียจะเน้นเส้นทางที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีคู่แข่งเยอะอยู่แล้ว และแม้ในอนาคตจะมีสายการบินอื่นมาเปิดบินในเส้นทางของ NOK ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณผู้โดยสารแน่นอน เพราะ NOK จองช่วงเวลาบินที่เหมาะสมไว้หมดแล้ว
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ คาดว่าปีนี้ NOK จะมีกำไรที่ 1,400 ล้านบาท ขณะปีก่อนมีกำไรที่ 500 ล้านบาท โดยประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2556 ไว้ที่ 43 บาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST ระบุว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าราคาหุ้น NOK ที่เปิดขายวันแรกจะอยู่ที่เท่าไหร่ แต่เชื่อว่าต้องสูงกว่าราคา IPO แน่นอน เนื่องจากหุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายวันแรกมักจะมีราคาสูงกว่า IPO อยู่แล้ว ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับภาวะตลาดทุนด้วย ซึ่งหากดัชนีบวกขึ้นไป 20 จุด ก็จะช่วยหนุนราคาหุ้น NOK แต่หากดัชนีปรับตัวลดลง 40 จุด เช่น 2-3 วันที่ผ่านมา ก็จะทำให้ราคา NOK ไม่สูงเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม PST มองว่าธุรกิจ NOK ยังคงมีอัตราการเติบโตสูง เพราะจากสถิติการให้บริการที่ผ่านมาพบว่าผู้โดยสารและรายได้มีอัตราเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้ง NOK กำลังมีแผนเปิดเส้นทางบินต่างประเทศแถบอินโดจีน และประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งแม้จะมีสายการบินต้นทุนต่ำสายอื่นๆ ให้บริการอยู่แล้ว แต่ยังถือว่าตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ มีจุดบินให้เลือกอีกมาก และมีความต้องการเดินทางสูงมากเช่นกัน เพราะปัจจุบันพบว่าเศรษฐกิจประเทศจีนยังอยู่ในระดับดี และนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังประเทศไทยเป็นชาวจีนถึง 80-90%
ก่อนหน้านี้นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NOK เปิดเผยว่า NOK มีแผนที่จะจัดซื้อเครื่องบินแบบ ATR (66 ที่นั่ง) จำนวน 2 ลำ ราคาลำละ 19 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาและคาดว่าจะสามารถรับมอบเครื่องบินได้ช่วงต้นปี 2557 เพื่อนำมาเสริมบริการในสนามบินรองที่ยังไม่ค่อยมีสายการบินให้บริการ เช่น น่าน แพร่ ร้อยเอ็ด ระนอง ชุมพร ระยอง อีกทั้งเดือนกันยายนนี้ NOK จะเปิดบินระหว่างประเทศ 1 เส้นทาง คือ แม่สอด-เมาะลำไย (พม่า) วันละ 1 เที่ยวบิน โดยใช้เครื่องบิน SAAB 34 ที่นั่ง เพราะเล็งเห็นศักยภาพว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับ NOK เชื่อว่าจะมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน (Cabin Factor) 90% เนื่องจากพม่ากำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุน
ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโตถึง 40% จากปีก่อนที่มีรายได้ 8,217.6 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 504.7 ล้านบาท เนื่องจาก NOK เปลี่ยนฝูงบินเป็นเครื่องบินใหม่ทั้งหมด โดยมีอายุเฉลี่ยที่ 4 ปี จากเดิม 16 ปี ซึ่งภายในสิ้นปีนี้ NOK จะมีเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 14 ลำ ATR 2 ลำ และ SAAB 5 ลำ ทำให้มีพื้นที่รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 40% ส่วนในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่ารายได้จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% และมองว่าธุรกิจการบินโซนเอเชียจะเติบโตยิ่งกว่ายุโรป และอเมริกาที่จะเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2556 NOK มีกำไรสุทธิ 415.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,347.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9.35 ล้านบาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น