วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

MAJOR ปรับรายได้โต30%

MAJOR ปรับรายได้โต30%

ข่าวหน้าหนึ่ง วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2556 
ผู้เข้าชม : 2 คน 

นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้เพิ่มเป็น 25-30% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายเติบโต 10-15% จากปีก่อน เนื่องจากภาพยนตร์ที่เข้าฉายในช่วงครึ่งปีแรกประสบความสำเร็จเกินคาด มีรายได้ทะลุ 200 ล้านบาทถึง 3 เรื่อง สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่น เรื่องพี่มากพระโขนง มีรายได้จากการฉายภาพยนตร์ถึง 1,000 ล้านบาท และในจำนวนนี้รับรู้เข้ามาเป็นรายได้ของบริษัท 600 ล้านบาท อีก 2 เรื่องคือ IRON MAN3 และ Fast and Furious 6 ที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทต่อเรื่อง
“ในไตรมาส 2/56 ของปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะมีรายได้และกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ เติบโตเป็น 2 หลัก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะรับรู้รายได้จากหนังที่สร้างรายได้สูง แต่เชื่อว่าการเติบโตดังกล่าวยังไม่ใช่ระดับสูงสุดของปีนี้ เพราะในช่วงไตรมาส 4/56 น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เนื่องจากจะมีหนังใหญ่ฟอร์มยักษ์เข้าฉายในช่วงนั้นมาก เช่น ต้มยำกุ้ง สมเด็จพระนเรศวร รวมถึงหนังฮอลลีวูดอื่นๆ”
นอกจากนี้ ในส่วนของการขยายจำนวนโรงภาพยนตร์ ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะเพิ่มอีก 65 โรง คาดว่าสิ้นปีบริษัทจะมีจำนวนโรงฉายครบ 500 โรงตามเป้าหมาย จากปัจจุบันที่มีจำนวนโรงฉาย 435 โรง โดยระยะอันใกล้นี้จะเพิ่มโรงที่เซ็นทรัล สาขาเชียงใหม่, สาขาหาดใหญ่ และโรบินสัน สาขาสกลนคร
ส่วนแนวโน้มของธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมองว่าน่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับช่วงครึ่งปีแรก โดยบริษัทคาดหวังว่าจะมีหนังที่เข้าฉายและทำรายได้ไม่แพ้ช่วงครึ่งปีแรก ในส่วนของรายได้รวมทั้งปีบริษัทมีความมั่นใจมากว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าปีที่แล้ว เพราะระบบการฉายภาพยนตร์ของบริษัท 85% ของจำนวนโรงทั้งหมด เป็นระบบดิจิตอล ซึ่งราคาตั๋วจะสูงกว่าระบบปกติ และสามารถสร้างอัตรากำไรที่ดี
นายวิชา เปิดเผยต่อว่า ปัจจุบันราคาตั๋วหนังของบริษัทเฉลี่ยอยู่ที่ 140 บาทต่อที่นั่ง และมีโอกาสจะปรับเพิ่มขึ้น 3% ถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีการปรับทุกปีตามอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาตั๋วหนังของบริษัทเมื่อเทียบกับคุณภาพของโรงภาพยนตร์แล้วไม่ได้ถือว่าแพง และอยู่อันดับท้ายๆ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียด้วยกัน
สำหรับแผนการไปลงทุนต่างประเทศนั้น ปัจจุบันมีเพียงในประเทศอินเดียและกัมพูชา ซึ่งในปีนี้อาจได้เห็นภาพการเข้าไปลงทุนในประเทศพม่า โดยอาจเป็นการร่วมมือกับทางกลุ่มอิออน  จึงคาดว่าปีหน้าบริษัทน่าจะเริ่มมีรายได้จากกัมพูชาเข้ามา หลังจากจะมีการเปิดโรงภาพยนตร์ประมาณ 7-8 โรง  ทั้งนี้ ตามแผนของการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศบริษัทจะเน้นเฉพาะในประเทศอาเซียนเป็นหลัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น